"สมศักดิ์" ชี้ รุกตลาด จีน-ประเทศมุสลิม แก้วัวราคาตก จ่อชง รัฐบาลใหม่ ผลักดัน

นายสมศักดิ์ เทพสุทิน ส.ส.แบบบัญชีรายชื่อ พรรคเพื่อไทย และอดีตรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกรณีราคาวัวตกต่ำที่พี่น้องประชาชนถามถึงแนวทางการทำงานและการแก้ไขว่า ในช่วงก่อนเปิดประชุมสภาผู้แทนราษฎร ตนได้ลงพื้นที่ทั้งภาคเหนือตอนล่าง และภาคใต้เพื่อรับฟังปัญหาจากพี่น้องเกษตรกร โดยเฉพาะผู้เพาะเลี้ยงปศุสัตว์พบว่าพี่น้องเกษตรกรส่วนใหญ่ ได้สะท้อนปัญหาเรื่องราคาวัวตกต่ำ จึงอยากให้รัฐบาล เข้ามาช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน และเป็นรูปธรรม 

โดยปัญหาทั้งหมดนี้ ตนจะเร่งรวบรวมและนำเสนอรัฐบาลทันที เนื่องจากตนเข้าใจความเดือดร้อนของพี่น้องเกษตรกรเป็นอย่างดี 

“การขายเนื้อสัตว์จริงๆมีช่องทางที่ภาครัฐจะช่วยสนับสนุนอยู่จำนวนมาก อย่าง ประเทศจีน เขาก็ซื้อวัวเป็นจำนวนมาก แต่ต้องเป็นการเจรจาในระดับรัฐมนตรีต่างประเทศ คุยกับต่างประเทศของจีน หรือ ประเทศที่เป็นผู้ค้าอย่างมาเลเซีย ก็ซื้อเรามากเช่นกัน ซึ่งในแต่ละปีก็ซื้อเป็นล้านตัว รวมถึงประเทศมุสลิม โดยตรงนี้ภาครัฐต้องมีการพูดคุยเจรจาและก็ทำ MOU เป็นสัญญาที่ชัดเจน เพื่อช่วยเหลือเกษตรกรได้โดยตรง” นายสมศักดิ์ กล่าว 

นายสมศักดิ์ กล่าวอีกว่า ประเทศลาว ก็มีโควตาขายวัวให้จีนได้ถึง 5 แสนตัว แต่ประเทศไทยไม่มีเลยสักตัว เพราะในระดับผู้บริหารระดับสูง ไม่ได้มองตรงนี้ ดังนั้น เมื่อไม่มองตรงนี้ ก็จะกลายเป็นลูกโซ่ที่สะเทือนโยงกันไปถึงเกษตรกร ตนมองว่าเรื่องนี้ไม่น่ายากอะไร ก็แค่จับประเด็นต่างๆใส่เมนู หรือใส่เป็นโจทย์ เป็นงานของกระทรวงต่างประเทศไป ที่เวลาไปเจรจาระหว่างประเทศ ก็เปิดทางเข้าไว้ ก็จะสามารถแก้ปัญหาได้ แต่ถ้าเราเลี้ยงวัวเพื่อบริโภคเป็นโปรตีน คนบริโภคภายในประเทศ ตนมองว่าก็เพียงพอ แต่เราก็ต้องทำเพื่อส่งออกด้วย เพราะถ้าหากเราเลี้ยงวัวแล้วก็ค้าขายตามมีตามเกิด ตนคิดว่าไม่น่าสนับสนุน เนื่องจากทำไปก็ยังลำบากยากจนกัน ดังนั้น เกษตรกรก็ต้องปรับตัวเช่นกัน โดยต้องมีลักษณะเหมือนกึ่งคอนแทคฟาร์มมิ่ง เพื่อบริหารจัดการจำนวนวัว ขณะเดียวกันหากเราต้องการส่งออกจริงก็ไม่ได้เป็นหน้าที่ของกระทรวงการต่างประเทศอย่างเดียว เพราะกรมปศุสัตว์ ก็ต้องพัฒนาในเรื่องของวัคซีนด้วย เนื่องจากโรคภัยของสัตว์ยังเป็นอีกเรื่องที่ต้องมีคุณภาพมาตราฐานปลอดภัยให้ต่างชาติวางใจได้