"ส.ว.อำพล" ย้ำโหวต "นายกฯ" ตามหลักการเสียงข้างมาก
"อำพล" ยืนยันจุดยืนโหวตนายกฯ จากพรรคการเมืองที่มีเสียงข้างมากในสภาฯ ชี้เป็นไปตามมาตรฐานปี2562 เมิน มีปม แก้ม.112-ปัญหาถือหุ้นไอทีวี
นพ.อำพล จินดาวัฒนะ ส.ว. ให้สัมภาษณ์สื่อมวลชน ต่อการตัดสินใจโหวตเลือกนายกฯ ตามที่ก่อนหน้านี้โพสต์ข้อความมผ่านเฟซบุ๊ค ยืนยันโหวตให้คนที่พรรคการเมืองรวมเสียงเกินกึ่งหนึ่งในสภาผู้แทนฯเสนอชื่อ เพื่อให้เข้าไปเป็นรัฐบาลเสียงข้างมากบริหารประเทศ ว่า ตนไม่ได้ดูตัวบุคคล หรือพรรคใดพรรคหนึ่ง แต่ดูว่าพรรคใดถือเสียงข้างมากของประชาชนในการเลือกตั้ง เมื่อ 14 พฤษภาคม ทั้งนี้หลักการดังกล่าวเป็นเหตุผลเดียวกันที่ตนตัดสินใจเลือกนายกฯ เมื่อปี2562
เมื่อถามว่าก่อนหน้านั้นได้รับการประสานจากพรรคก้าวไกลหรือไม่ นพ.อำพล กล่าวว่า ไม่ได้รับการประสาน และตนไม่ได้ยุ่งเกี่ยวการเมือง เพราะเป็นส.ว. สรรหา อีกทั้งในปี2562 ตนโหวตให้พรรคที่มีเสียงข้างมากเกิน 250 เสียง ซึ่งเป็นมาตรฐานที่เคยทำ ดังนั้นไม่ต้องตรวจสอบอะไร
เมื่อถามถึงปัจจัยของการแก้ไขมาตรา 112 นพ.อำพลกล่าวว่าไม่ได้นำมาพิจารณา เพราะกระบวนการที่จะเกิดขึ้น คือการเลือกเข้าสู่ตำแหน่งนายกฯ ส่วนพรรคการเมืองจะเสนอกฎหมายอะไรเป็นขั้นตอนของ ฝ่ายนิติบัญญัติในอนาคต และมีหลายพรรคการเมืองต้องการเสนอกฎหมายควรมองทั้งหมดไม่ใช่แค่พรรคเดียว
"หากเสนอกฎหมายที่ขัดต่อรัฐธรรมนูญก็ไม่สามารถทำได้ แต่หากถูกต้องตามรัฐธรรมนูญก็ต้องเข้ากระบวนการรับหลักการผ่านความเห็นของเสียงข้างมาก ซึ่งไม่เกี่ยวกับการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ดังนั้นหากไปผูกโยงว่าไม่ควรเป็นนายกฯ คิดว่าเป็นการทำเกินหน้าที่ เพราะหน้าที่ขณะนี้คือการเคารพเสียงประชาชน ไม่มีเหตุผลอะไรที่จะไม่เลือกเพราะประชาชนเสียงส่วนใหญ่เลือกเข้ามาก็ต้องเคารพ ไม่เช่นนั้นจะเลือกตั้งทำไม ถ้าเอาเหตุผลอื่นมาลบล้างเสียงข้างมาก ก็จะไม่เป็นประชาธิปไตยที่มาจากการเลือกตั้ง" นพ.อำพล กล่าว
เมื่อถามถึงกรณีที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) เตรียมส่งเรื่องคุณสมบัติของนายพิธา ต่อศาลรัฐธรรมนูญ กรณีถือหุ้นไอทีวี นพ.อำพล กล่าวว่า "พิจารณาอย่างไรเป็นอีกประเด็นหนึ่ง แต่ส่วนตัวของย้ำยังคงยึดหลักการเสียงของประชาชน ส่วนเรื่องอื่น ไม่ใช่เหตุผลที่จะพิจารณาเลือกนายกฯ"