ส.ว. กิตติศักดิ์ เตรียมขึ้นเรือหนี ด้อมส้ม ชี้ "พิธา" ไม่ผ่าน โหวตนายกฯวันนี้
ส.ว. กิตติศักดิ์ แนะจับตา ละครเลือดท่วมจอ เชื่อได้นายกฯ 19 ก.ค. มั่นใจ "พิธา" ไม่ผ่านโหวตวันนี้ เหตุ ส.ว. ส่วนใหญ่ปิดสวิตช์ เตรียมพร้อม เปลี่ยนเสื้อผ้านั่งเรือข้ามฟากหนีม็อบ
13 ก.ค.2566 ที่รัฐสภา นายกิตติศักดิ์ รัตนวราหะ สมาชิกวุฒิสภา ให้สัมภาษณ์ถึงจุดยืนการเลือกนายกฯ วันนี้ซึ่งจะมีการเสนอชื่อ นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ว่า ตนมีจุดยืนชัดเจนเนื่องจากสถานการณ์ไม่ได้มีการเปลี่ยนแปลง ที่จะต้องไปตัดสินใจอย่างอื่น ดังนั้นตัดสินใจไปตามความจริง ตามสถานการณ์ที่เราได้ให้สัมภาษณ์ไปแล้ว ว่าถ้าหากบ้านเมืองเรา จะมีนักการเมือง ที่มาสร้างความแตกแยก โดยการสนับสนุน ให้เด็กและเยาวชน กระทำความผิดกฎหมาย ละเมิด มาตรา 112 ไม่ควรที่จะเป็นรัฐบาลอย่างยิ่ง
ส่วนวันนี้นายพิธาจะผ่านการโหวตเลือกนายกรอบแรกหรือไม่นั้น ส่วนตัวไม่มีความรู้สึก ดีใจหรือเสียใจ แต่ทุกอย่าง อยู่ที่กรรม กรรมคือการกระทำ หากเราทำดีได้ดี ถ้าทำสิ่งที่ไม่ดีไม่ถูกต้อง บ้านเมืองต้องอยู่ด้วยกฎหมาย ต้องเคารพกฎหมาย ไม่ว่าจะเป็นประชาชน สาขาอาชีพใด มาถึงนักการเมืองก็ต้องเคารพกฎหมาย
เมื่อถามว่านายพิธายืนยันว่า การแก้มาตรา 112 เป็นการรักษาและปกป้องสถาบัน จะใจอ่อนหรือไม่ ส.ว. กิตติศักดิ์ ระบุว่า ตนอยู่สภามา 10 กว่าปี และ 4 ปีที่ผ่านมาที่นายพิธาและพรรคก้าวไกลได้ปฏิบัติ มีพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสมหลายอย่าง สื่อก็เห็นอยู่แล้วว่าเคยนำผู้ชุมนุม มาปิดสภาอย่างน้อย 2 รอบ จนกระทั่งส.สและส.ว.หลายคนต้องขึ้นเรือข้ามแม่น้ำออกจากสภาไป ประชาธิปไตยอย่างนี้ไม่ใช่ประชาธิปไตยที่แท้จริง เพราะหากเป็นประชาธิปไตยที่แท้จริงต้องให้เกียรติผู้อื่น และไม่ใช่ประชาธิปไตยแบบใช้ความรุนแรง อย่างนี้ตนเรียกว่าประชาธิปไตยที่ไม่จริง ส่วนใครจะว่าอย่างไรตนก็ตาม ตนยึดถือประชาธิปไตยอันมีพระมหากษัตริย์ทรงเป็นประมุข
เมื่อถามว่าในกลุ่ม ส.ว. ได้มีการพูดถึงการเปลี่ยนใจไม่โหวต นายพิธา เป็นนายกฯ เพิ่มหรือไม่ นายกิตติศักดิ์ กล่าวว่า ส่วนตัวที่ได้พูดคุยกันเมื่อเช้า แต่ไม่ได้เจาะลึกว่าจะโหวตอย่างใด แต่ที่ชัดเจนก็คือส.ว .250 คนมีคำตอบแล้ว คือการปิดสวิตช์ ส่วนใหญ่จะงดออกเสียง ยกเว้นในส่วนของตน ยืนยันชัดเจนว่าคิดก่อนพูด ไม่ต่ำกว่า 3 เดือนแล้วว่าไม่เห็นชอบ ไม่สนับสนุน นายพิธาและพรรคก้าวไกลที่อยู่เบื้องหลัง การแตะต้ององค์กรอิสระ กองทัพ ทหาร ตำรวจ และสถาบันโดยเฉพาะมาตรา 112 รวมไปถึงเรื่องความสัมพันธ์ระหว่างประเทศ ซึ่งตรงนี้เป็นเรื่องใหญ่หลวงของประเทศไทย จะสร้างความเสียหายให้กับประเทศไทย เหตุใดจะต้องไปเลือกข้าง
เมื่อถามว่ากังวลหรือไม่กับการชุมนุมในวันนี้ หากนายพิธาไม่ได้รับเลือกให้เป็นนายกรัฐมนตรี นายกิตติศักดิ์ กล่าวว่า ให้เป็นหน่วยงานที่รับผิดชอบด้านความมั่นคงเป็นผู้ดูแล และคาดว่า มีส.ว.ไม่เกิน 10 คนที่จะยกมือสนับสนุน นายพิธา และคาดว่าวันนี้จะไม่มีการเสนอชื่อแคนดิเดตนายกจากพรรคการเมืองอื่น เพื่อแข่งกับนายพิธา
"แต่ขอให้จับตาในวันที่ 19 กรกฎาคม จะสนุกสนาน เลือดท่วมจอ เป็นละคร ที่มีการแข่งกันในการเลือกนายกฯ จะมีบทร้ายบทพระเอกนางเอก ซึ่งเป็นเรื่องที่น่าสนใจ ทั้งนี้ที่ผ่านมาผมก็รู้เท่ากับสื่อ ไม่ได้มีการวางแผนพูดคุยหรือเตรียมการอะไรไว้ในวันที่ 19 ก.ค.
แต่คาดว่าจะเลือกนายกฯจบ ส่วนจะถูกใจประชาชน ส.ว.หรือไม่นั้นผมไม่ทราบ เพราะส.ว.ไม่ก้าวก่าย การจัดตั้งรัฐบาล ซึ่งบทบาทหน้าที่ของ ส.ว.แยกไว้ชัดเจน พอเป็นเรื่องของส.สและพรรคการเมือง" นายกิตติศักดิ์กล่าวและว่า
หากการโหวตเสียงส.ส.ไม่ถึงก็ต้องมาให้ส.ว.ทำหน้าที่ตามมาตรา 272 ในรัฐธรรมนูญบทเฉพาะการ ส่วนที่หลายคนบอกว่าทำไม ส.ว.ไม่ฟังเสียงข้างมากของประชาชนที่เลือกมาแล้วนั้น ตนขอบอกว่าเป็นคนละขั้นตอนกัน ประชาชนเลือกผู้แทนราษฎร หากรวบรวมเสียงได้ก็ไม่ต้องมาถึง ส.ว. หากรวบรวมเสียงได้ก็ยินดีด้วย แต่เมื่อไม่ได้ ก็ต้องมาถึงส.ว. เราก็ต้องปฏิบัติตามหน้าที่ตามรัฐธรรมนูญ
เมื่อถามถึงกรณี กกต.ยื่นศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคุณสมบัติการถือหุ้นสื่อของนายพิธา จะทำให้ส.ว.ต้องทบทวนการออกเสียงวันนี้หรือไม่ นายกิตติศักดิ์ ระบุว่า ไม่มีผล แต่เป็นเหตุผลหนึ่งที่เสียงส่วนใหญ่ กำลังชั่งใจอยู่จะเลือกหรือไม่เลือก นายพิธา เป็นเหตุผลประกอบเท่านั้น
นายกิตติศักดิ์ ยังกล่าวด้วยว่า ไม่น่าจะมีเหตุผลในการขอเลื่อนการโหวตเลือกนายกฯวันนี้ออกไป ด้วยเหตุที่ต้องรอการวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ คิดว่าคงเลื่อนไม่ได้เพราะประธานสภารับเป็นญัตติแล้วไม่มีการเลื่อนแต่ต้องเลือกอย่างเดียว พร้อมย้ำว่าวันนี้เราดูละครอยู่ และส่วนตัวก็พร้อมที่จะเปลี่ยนเสื้อผ้าลงเรือหนีอีกครั้ง