มติ 8 พรรคชง 'พิธา' โหวตนายกฯ รอบ 2 ถ้าเสียงไม่ถึงพร้อมถอยให้ 'เพื่อไทย'
ด่วน! มติ 8 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล ยังเสนอชื่อ 'พิธา' ชิงเก้าอี้นายกฯรอบ 2 แต่ถ้าเสียงไม่ถึง พร้อมถอยเปิดช่องให้ 'เพื่อไทย' ตาม MOU เดิม ยันญัตติแก้ ม.272 ปิดสวิตช์ ส.ว. 'ก้าวไกล' เสนอเอง ไม่เกี่ยวกับอีก 7 พรรค
เมื่อเวลา 18.30 น. วันที่ 17 ก.ค. 2566 ที่อาคารไทยซัมมิท นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรค แถลงหลังการประชุม 8 พรรคร่วมรัฐบาล ว่า สำหรับการหารือของ 8 พรรค มีข้อสรุป 3 ข้อด้วยกัน
ข้อ 1 มติของ 8 พรรค เสนอตนเป็นนายกฯ คนที่ 30 ในการโหวตรอบ 2 โดยจากการประเมินเชื่อว่า จะได้เสียงเพิ่มขึ้นอีก 10% คือ 340-350 เสียง ถ้าครั้งที่ 2 ไม่ผ่าน จะเปิดทางให้พรรคอันดับ 2 คือ พรรคเพื่อไทยเสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯ ในครั้งที่ 3
ข้อ 2 จากนั้นหารือถึงเรื่องมาตรา 272 ของพรรคก้าวไกล โดยพรรคเสนอเอง ไม่เกี่ยวข้องกับอีก 7 พรรคที่เหลือ
ข้อ 3 เป็นประเด็นข้อบังคับที่ 41 ที่มีข่าวออกมาว่าส.ว.จะตีความและมีความเห็นทางกฎหมาย คิดว่าไม่น่าจะเข้าข้อบังคับนี้ เพราะเป็นเรื่องเกี่ยวกับรัฐธรรมนูญ ไม่ถือเป็นญัตติ แต่ถือเป็นการเสนอผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง โดยเห็นต่างจากวุฒิสภา
นายพิธา กล่าวอีกว่า ถ้าสมรภูมิแรกไม่มีคะแนนเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ก็จะถอยให้กับพรรคอันดับ 2 ตาม MOU เดิมของ 8 พรรคร่วม นั่นคือ พรรคเพื่อไทย โดยยืนยันว่า ญัตติแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 272 ดำเนินการโดยพรรคก้าวไกล พรรคเดียวไม่เกี่ยวกับพรรคอื่น โดยวันที่ 18 ก.ค.จะประชุมกับวิปอีกครั้ง ต้องรอฟังทางวิปอีกฝั่งด้วย โดย 8 พรรคยืนยันยังจับมือ ความสัมพันธ์เป็นไปด้วยดี ยังส่งตนอีกครั้ง และจะให้เวลาอย่างเต็มที่
นายพิธา กล่าวด้วยว่า ไม่ได้กังวลที่ศาลรัฐธรรมนูญ นัดพิจารณาในวันที่ 19 ก.ค.นี้ ว่าจะรับหรือไม่รับวินิจฉัยเรื่องคุณสมบัติ เพราะไม่ว่าผลออกมาเป็นอย่างไร ก็ไม่ได้มีผลกระทบต่อการเป็นแคนดิเดตนายกรัฐมนตรี เมื่อเทียบกับคดีของนายธนาธร
เมื่อถามว่า ถ้าไม่เป็นเหมือนที่คิดมีแผนสำรองรองรับอย่างไร นายพิธา กล่าวว่า เดี๋ยว ต้องรอฟังทางวิป เหตุและผลของฝั่งตรงกันข้ามเป็นอย่างไร เห็นแต่พาดหัวไม่ได้ลงรายละเอียดว่าเหตุผลอะไรถึงได้คิดว่า เรื่องแบบนี้เป็นเรื่องญัตติได้ มันคนละเรื่องกัน
เมื่อถามอีกว่า ยังยืนยันที่จะจับมือกัน 8 พรรคเดินหน้าต่อใช่หรือไม่ นายพิธา พยักหน้าและกล่าวว่า ถึงได้มีมติออกมาแถลงในวันนี้
เมื่อถามถึงความสัมพันธ์ของ 8 พรรคร่วมตอนนี้เป็นอย่างไรบ้าง นายพิธา กล่าวว่า “ก็เป็นไปด้วยดี มีความพยายามที่จะตั้งรัฐบาลของประชาชนให้ได้ และเราก็มีมติส่งผมอีก 1 ครั้ง และจะพยายามใช้เวลาที่เหลืออย่างเต็มที่”
เมื่อถามว่า มีการขอเสียงจากพรรคประชาธิปัตย์และชาติไทยพัฒนามาด้วย ได้คุยกันใน 8 พรรคหรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า อันนี้ยังไม่ได้เป็นมติของทาง 8 พรรค
เมื่อถามได้หารือถึงการเตรียมชื่อสำรองไว้หรือไม่ในกรณีที่ไม่สามารถเสนอชื่อนายพิธาได้ในวันที่ 19 ก.ค. นายพิธา กล่าวว่า ยังไม่มี ก็ยังเป็นชื่อตนคนเดียวอยู่ อย่างไรก็ตามหลังวันที่ 13 ก.ค.ที่ผ่านมายังมีการพูดคุยกับ ส.ว.เรื่อย ๆ
- รับเรื่องปกติคุยขั้วรัฐบาลเก่า แต่ปัดดีลเชิญร่วมรัฐบาลใหม่
เมื่อถามถึงกระแสข่าวที่ระบุว่านายพิธาต่อสายไปพูดคุยกับกลุ่มแกนนำขั้วรัฐบาลเดิม มีข้อเท็จจริงอย่างไร นายพิธา กล่าวว่า “ก็คือมันเป็นเรื่องปกติ ปกติผมก็จะหารือเรื่องเกี่ยวกับประเด็นทางการเมือง กับเพื่อน ๆ ที่เป็น ส.ส. และส.ว. ตามเวลาที่เดินผ่านกันในสภา หรือเวลาอยากจะหาเช็กข้อมูลอะไรก็มีโอกาสพูดคุยกัน แต่ว่าก็ไม่ได้มีการเชิญเข้าร่วมรัฐบาล”
เมื่อถามว่ามีการพูดคุยกับพรรคไหนบ้าง นายพิธา กล่าวว่า ก็เกือบทุกพรรค ยกเว้นพรรคลุง เรียกว่าก็มีโอกาสถามและพูดคุยว่าตอนนี้คุณเห็นสถานการณ์เป็นอย่างไรแค่นั้นเอง เป็นการแลกเปลี่ยนทางการเมือง
เมื่อถามว่าไม่ได้เป็นการโทรไปขอเสียงใช่หรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า “ไม่ครับ แต่เป็นการโทรไปแลกเปลี่ยนทางการเมืองเฉย ๆ ซึ่งเป็นเรื่องปกติ ที่หัวหน้าพรรคคุยกับหัวหน้าพรรค ไม่ใช่เพิ่งมาเริ่มทำเอาอาทิตย์นี้”
เมื่อถามว่ามองอย่างไรกับรายงานข่าวที่ออกมาว่านายพิธาโทรไปเพื่อขอเสียง นายพิธา กล่าวว่า อันนี้ผมยังไม่ได้เห็นรายละเอียด เลยคอมเมนต์ไม่ได้ ไม่น่าจะจริง เมื่อถามถึงตัวเลขที่จะเพิ่มขึ้นอย่างมีนัยสำคัญในวันที่ 19 ก.ค. คิดว่าตัวเลขต้องเท่าไร นายพิธา กล่าวว่า คิดว่าถ้าให้เหมาะสมก็ต้องขึ้นกว่า 10 % จาก 324 เป็น 344-345 ก็น่าจะเป็นลักษณะแบบนั้น ไม่ได้ตั้งใจที่จะกั๊กว่าจะใช้คำว่านัยสำคัญ ไม่ได้คิดตัวเลขในใจ ก็คงจะมีตัวเลขที่มันไม่ฝืนสายตาของประชาชน
- ไม่เชื่อมีตั้งรัฐบาลเสียงข้างน้อยแข่ง
เมื่อถามว่าการโหวตรอบ 2 มองเรื่องการเสนอชื่อแข่งหรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า ถ้าเท่าที่ฟังสัมภาษณ์ 10 พรรค ทุกคนก็พูดว่าเรื่องรัฐบาลเสียงข้างน้อยเป็นไปไม่ได้ จึงคิดว่าเป็นไปไม่ได้
เมื่อถามว่ายังไม่มีการยืนยันจากพรรคของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกฯ อาจจะมีการรวมเสียงได้ นายพิธา กล่าวว่า อย่างนี้ ต้องฝากนักข่าวไปถามแล้ว เพื่อความชัวร์
เมื่อถามว่ามีการเตรียมพร้อมรับมือหรือไม่ นายพิธา กล่าวว่า มีครับ ทั้งนี้ทางฝ่ายของพรรคก้าวไกลได้คอยติดตาม คอยเช็คตลอด มั่นใจว่าทุกคนได้รับบทเรียนของการเป็นงูเห่า และได้คะแนนกลับมาพันกว่าคะแนนเท่านั้น ก็มั่นใจว่าทางพรรคก้าวไกลไม่น่าจะมีอะไร และเข้าใจว่าทางเพื่อไทยตนก็เข้าใจว่าน่าจะคิดอย่างนั้นเช่นกัน
- เผยแก้ ม.112 ต้องรับปากคำพูดที่หาเสียงไว้
เมื่อถามถึงการถอยเรื่องมาตรา 112 นายพิธา กล่าวว่า เรื่องมาตรา 112 ก็เป็นเรื่องที่เซนซิทีฟและสำคัญ แต่ว่าไม่ใช่ทุกอย่าง เพราะถ้าเรื่องนี้พอหายไป เรื่องอื่นก็จะมาอีก ที่สำคัญที่สุดต้องการรักษาคำพูด ก่อนหาเสียงพูดไว้อย่างไร หลังหาเสียงก็ไม่ใช่ว่าต้องการที่จะเข้าสู่อำนาจในทุกวิถีทาง
เมื่อถามว่าคะแนนที่จะได้เพิ่มมาในรอบ 2 ตามที่บอกจะเป็นเสียงจาก ส.ส.หรือ ส.ว. นายพิธา กล่าวว่า ก็ต้องรอดูด้วยกัน แต่ตนยังทำงานในช่วง 1 อาทิตย์ที่ผ่านมา ยังไม่ได้ทิ้งไป และยังสู้อยู่