‘ก้าวไกล’ กั๊กแก้ ม.112 ขอคุย ‘เพื่อไทย’ อย่าด่วนสรุปเชิญ พปชร.ร่วมรัฐบาล

เมื่อวันที่ 21 ก.ค. 2566 ที่พรรคก้าวไกล นายชัยธวัช ตุลาธน เลขาธิการพรรคก้าวไกล ตอบคำถามสื่อมวลชนถึงการประกาศให้พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำในการจัดตั้งรัฐบาลถือว่าเร็วหรือช้าไป หรือเป็นการถอยที่มากเกินไปของพรรคก้าวไกลหรือไม่ ว่า ไม่ จริง ๆ เป็นไปตามที่นายพิธาแถลงไปเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ก่อนที่จะมีการประชุมรัฐสภาครั้งสุดท้าย

เมื่อถามว่า ยังยืนยันว่าจะจับมือกับพรรคเพื่อไทย ใช่หรือไม่ และพรรคเพื่อไทยได้มีการรับปากหรือยัง นายชัยธวัช กล่าวว่า ยังยืนยันตามแถลงว่า เจตจำนงของประชาชนผ่านการเลือกตั้งชัดเจน แม้ตอนนี้จะไม่สามารถผลักดันนายพิธาเป็นนายกฯ สำเร็จ แต่ภารกิจสำคัญที่เหลืออยู่คือการจัดตั้งรัฐบาลใหม่ ตามเจตจำนงของประชาชนที่หวังจะเห็นการยุติการสืบทอดอำนาจขั้วรัฐบาลเดิม

เมื่อถามว่า กังวลหรือไม่ว่าการแก้ไข ม.112 จะเป็นอุปสรรคในการโหวตเลือกนายกฯ หรือไม่ เพราะ ส.ว.ยังคงยืนกรานว่าหากพรรคก้าวไกลยังแก้ไข แม้จะเสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯ จากพรรคเพื่อไทย อยู่ก็จะไม่โหวตให้ ท่าทีของพรรคเพื่อไทย ก็บอกว่าเป็นนโยบายของพรรคก้าวไกลจะมีการลดเพดานในเรื่องนี้หรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า คงต้องรอพูดคุยกับเพื่อไทยอีกที ยังไม่มีการพูดคุยเรื่องนี้อย่างชัดเจน ต้องชัดเจนโดยมารยาท ทางก้าวไกลเปิดให้เพื่อไทยเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลแล้ว การพูดคุยคงต้องเป็นบทบาทหลักของพรรคเพื่อไทย

เมื่อถามว่า การที่เปิดโอกาสให้พรรคเพื่อไทย เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล เอ็มโอยูที่เคยลงนามร่วมไว้ยังต้องดำเนินการต่อหรือไม่ หรือสามารถฉีกได้ นายชัยธวัช กล่าวว่า เรื่องนี้ยังต้องรอ แต่ที่เราแถลงไปก่อนหน้าเราก็เปิดโอกาสให้พรรคเพื่อไทย เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล 8 พรรคเดิมตามที่เราลงนามเอ็มโอยูร่วมกัน

เมื่อถามถึงกรณีที่พรรคเพื่อไทยออกมาระบุว่าจะดึงพรรคที่ 9 และ 10 มาร่วมรัฐบาล พรรคก้าวไกล มองอย่างไรและมีเงื่อนไขอย่างไรบ้าง นายชัยธวัช กล่าวว่า ต้องพูดคุยกันใน 8 พรรคร่วมฯ ส่วนจะมีเงื่อนไขอะไรหรือยอมรับได้หรือไม่ ต้องรอฟังพรรคเพื่อไทยก่อน ส่วนจะเป็นพรรคอะไรนั้นยังไม่มีการเสนอ ซึ่งหน้าที่นี้ต้องเป็นของพรรคเพื่อไทย

เมื่อถามว่า จะมีการพูดคุยเพื่อให้ได้ข้อยุติเมื่อไหร่ นายชัยธวัช กล่าวว่า คาดว่าภายในวันสองวันนี้ ต้องรอการประสานงานจากพรรคเพื่อไทยซึ่งเช้านี้มีการนัดหมายกับพรรคเพื่อไทยแต่ทางก้าวไกลมีการแถลง จึงเลื่อนการหารือกันไว้ก่อน

เมื่อถามว่า หากพรรค พท.ขอร่วมกับพรรคพลังประชารัฐ (พปชร.) เพื่อขอเสียง แต่ไม่มี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค พรรคก้าวไกลคิดอย่างไร นายชัยธวัช กล่าวว่า อย่าเพิ่งสรุปแทนพรรคเพื่อไทยมีข่าวออกมาเยอะ แต่การพูดคุยอย่างเป็นทางการยังไม่มีการเกิดขึ้น

เมื่อถามว่า จากการประชุมพรรคเมื่อวานนี้ มีสมาชิกของพรรคที่ไม่เห็นด้วยกับการถอยให้พรรคเพื่อไทยเป็นแกนนำหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า การประชุมเมื่อวานเสียงส่วนใหญ่ออกมาตามมติที่แถลงในวันนี้

เมื่อถามว่า หากแคนดิเดตนายกฯ เป็นนายเศรษฐา พรรคก้าวไกลจะรับได้หรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า ใครก็ได้ โดยหลักการเราไม่ได้จำกัดเรื่องตัวบุคคล อย่างที่บอกว่าการประชุมรัฐสภาครั้งหน้าเพื่อเลือกนายกฯ พรรคก้าวไกลพร้อมส่งแคนดิเดตจากเพื่อไทยเป็นนายกฯ ไม่ได้ระบุว่าจะต้องเป็นใครโดยเฉพาะ ขึ้นอยู่กับมติของพรรคเพื่อไทยเราต้องเคารพ

เมื่อถามว่า หน้าที่ในการหาเสียงสนับสนุนจากส.ว.จะต้องเป็นของพรรคเพื่อไทยใช่หรือไม่ นายชัยธวัชกล่าวว่า ถูกต้อง เหมือนในรอบของพรรคก้าวไกล ที่ผ่านมา 

เมื่อถามว่า ยังยืนยันว่า พรรคก้าวไกลยังไม่ลดเพดานเรื่องการแก้ม. 112 ใช่หรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า ต้องรอดูการพูดคุยกับพรรค พท. อย่าเพิ่งลงรายละเอียด เงื่อนไขอะไรต่าง ๆ พรรคก้าวไกลต้องรอฟังจากพรรคเพื่อไทย ข้อมูลข่าวสารที่ออกมามีหลากหลายมาก ก็ไม่ทราบว่าอันไหนเป็นแหล่งข่าว อันไหนเป็นความชัดเจนจริง ๆ จากพรรคเพื่อไทย โดยวิธีการที่ถูก ต้องรอการพูดคุยอย่างเป็นทางการกับพรรคเพื่อไทย

เมื่อถามว่า จากการพูดคุยกับพรรคเพื่อไทยวานนี้ มีการตั้งเงื่อนไขจัดตั้งรัฐบาลอย่างไรบ้าง เช่น การแบ่งกระทรวงหรือนโยบาย นายชัยธวัช กล่าวว่า ยังไม่มีการหารือ สถานการณ์โดยกว้างเป็นแค่การพูดคุยเพื่อให้ก้าวไกล มีมติอย่างชัดเจนในเรื่องการโหวตนายกฯ เป็นหลัก กระเมินสถานการณ์ และยังไม่มีการพูดคุยถึงสัดส่วนคณะรัฐมนตรี

เมื่อถามว่า นายพิธามีความเห็นอย่างไรในเรื่องการถอยให้พรรคเพื่อไทย เป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล นายชัยธวัช กล่าวว่า แน่นอน ท่าทีและการแถลงครั้งนี้ผ่านการเห็นชอบจากหัวหน้าพรรคอยู่แล้ว

เมื่อถามว่า ได้คุยกับพรรคเพื่อไทยหรือไม่ในกรณีพรรคเสรีรวมไทยไม่เห็นด้วยกับเรื่องนี้ นายชัยธวัช กล่าวว่า ยังไม่ได้คุยกันเรื่องนี้ หากเป็นเรื่องรายละเอียดในการพูดคุย หรือเงื่อนไขจัดตั้งรัฐบาลต้องรอจากพรรคเพื่อไทยก่อน

เมื่อถามว่า ในอนาคตจะมีโอกาสที่พรรคก้าวไกล จะถูกยุบพรรคหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า ตอนนี้มีคดีที่อยู่ในศาลรัฐธรรมนูญสองคดี คือหุ้นสื่อบริษัท ไอทีวี จำกัด (มหาชน) หรือ หุ้น itv ของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล และคดีล้มล้างการปกครองจากนโยบายหาเสียงแก้ไข ม.112  อย่างไรก็ตามทั้งสองคดีไม่ได้มีการร้องให้ยุบพรรค แต่ประมาทไม่ได้ แต่ทางพรรคมีการติดตามอยางใกล้ชิด ต้องเตรียมการต่อสู้ในทางกฎหมาย เพราะหลายปีที่ผ่านมาประเทศไทยไม่ได้อยู่ในระบบนิติรัฐปกติ องค์กรอิสระและศาลรัฐธรรมนูญ ถูกตั้งคำถามตลอดเวลาในเรื่องหลักเกณฑ์ การเป็นเครื่องมือทางการเมืองให้ฝ่ายใดฝ่ายหนึ่งหรือไม่

เมื่อถามว่า จากกรณีที่เคยถอยในตำแหน่งประธานสภา ได้คาดการณ์จากสถานการณ์ที่ถอยเก้าอี้นายกฯ หรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า ไม่ได้คำนวณอะไรทั้งนั้น เป้าหมายสำคัญที่ยึดไว้ตลอด คือพยายามอย่างถึงที่สุดในการจัดตั้งรัฐบาลตามเจตจำนงประชาชน อย่างที่ย้ำ ประเด็นสำคัญไม่ได้อยู่ที่นายพิธาจะเป็นนายกฯ ได้หรือไม่ แต่ต้องผลักดันให้เกิดการจัดตั้งรัฐบาล เพื่อหยุดการสืบทอดขั้วอำนาจเดิมให้ได้

เมื่อถามว่า หากมองย้อนกลับไป พรรคก้าวไกลจะยังเสนอแคนดิเดตนายกฯ 1 คนหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า มองย้อนกลับไปก้าวไกลตัดสินใจเหมือนเดิม เราต้องการคืนความปกติให้กับประชาธิปไตยในระบบรัฐสภา เป็นเรื่องปกติทั่วไปที่แคนดิเดตนายกฯ จะมาจากส.ส. ที่เป็นหัวหน้าพรรค เราไม่ได้ยอมรับกติกาที่ออกแบบไว้สำหรับการสืบทอดอำนาจภายหลังการรัฐประหาร และยืนยันว่าเรื่องนี้ไม่เกี่ยวกับการที่พรรคก้าวไกลมีแคนดิเดตนายกฯ 1 คนหรือมากกว่า 1 คน แต่ทุกองคาพยพได้แสดงออกชัดเจนแล้วว่า พวกเขามีความต้องการอย่างเด่นชัด ว่าไม่อยากเห็นพรรคก้าวไกลจัดตั้งรัฐบาล จะด้วยความไม่ต้องการสูญเสียอำนาจทางการเมือง หรือผลประโยชน์ทางเศรษฐกิจ หรือไม่ว่าเป็นความต้องการที่ไม่อยากเห็นนโยบายที่พรรคก้าวไกล ผลักดัน เพื่อให้เกิดความเปลี่ยนแปลงทางโครงสร้าง แต่เราจะพยายามอย่างถึงที่สุดเพื่อทำภารกิจตามที่สัญญากับประชาชนให้สำเร็จ 

เมื่อถามว่า นายพิธายังมีกำลังใจดีหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า ยังกำลังใจดียังดี พรุ่งนี้จะกลับมาทำงานแล้ว

เมื่อถามว่า พรรคก้าวไกลพร้อมที่จะเป็นฝ่ายค้านหรือไม่ นายชัยธวัช กล่าวว่า เราพยายามอย่างเต็มที่เพื่อจัดตั้งรัฐบาลใหม่เพื่อยุติขั้วอำนาจเดิมให้สำเร็จ นี่เป็นเป้าหมายสำคัญที่สุด