"เสรี" บอก "พท." คลายกังวลปมเดดล็อค "ตีตกว่าที่นายกฯ" ชี้ช่องใช้500เสียงแก้

นายเสรี สุวรรณภานนท์  ส.ว. ให้สัมภาษณ์ถึงสถานการณ์โหวตเลือกนายกฯ รอบ3 ในที่ประชุมรัฐสภา วันที่ 27 กรกฏาคม ซึ่งพรรคเพื่อไทยกังวลต่อบรรทัดฐานของรัฐสภา ห้ามเสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯที่ถูกตีตกอีกรอบจะทำให้เกิดเดดล็อคในพรรค ว่าตนมองว่าไม่มีเดดล็อนแน่นอน เพราะแม้ข้อบังคับการประชุมรัฐสภาฯ ข้อ 41 ที่กำหนดห้ามเสนอญัตติที่ถูกตีตกไปแล้วให้รัฐสภาพิจารณาอีกในสมัยประชุมเดียวกัน เว้นแต่ประธานสภา พิจารณาหากมีกรณีที่เหตุการณ์เปลี่ยนแปลงไป แต่ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 272 วรรคสอง ได้เปิดช่องให้เสนอชื่อซ้ำได้  โดยเงื่อนไข ของการได้เสียงเห็นชอบไม่น้อยกว่า 2 ใน 3 จากสมาชิกของสองสภารวมกัน หรือ 500 เสียง ซึ่งจะถือว่าเหตุการณ์นั้นเปลี่ยนแปลงไป จึงสามารถเสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯ ที่ถูกตีตกไปแล้วได้อีก

“มาตรา 272 วรรคสอง กำหนดเงื่อนไขคือ ไม่มีแคนดิเดตนายกฯ ในบัญชีของพรรคการเมือง แต่ไม่จำเป็นต้องเลือกคนในบัญชีของพรรคการเมืองที่เหลืออยู่ทั้งหมด เพราะบางพรรคอาจได้เสียงรับรองไม่ถึงเกณฑ์ของสภาฯ ในกรณีนี้หากพรรคการเมืองไม่เสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯ ต่อรัฐสภาเท่ากับว่าหมดบัญชีแล้ว และสามารถเสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯ จากนอกบัญชีพรรรคการเมือง หรือ แคนดิเดตนายกฯ ที่ถูกตีตกไปแล้วได้ รวมถึงชื่อของนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล แต่ต้องพิจารณาด้วยว่าเขาไม่มีคดีเรื่องคุณสมบัติหรือลักษณะต้องห้ามค้างอยู่” นายเสรี กล่าว

เมื่อถามว่ากรณีเสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯที่ตีตก ใช้ช่องทางของการเว้นใช้ข้อบังคับข้อ41 ได้หรือไม่ นายเสรี กล่าวว่า ไม่ได้ เพราะข้อ41 เป็นหลักการทั่วไปของญัตติ ที่ครอบคลุมในทุกญัตติ ไม่ใช่จะขอยกเว้นเพื่อเสนอชื่อแคนดิเดตนายกฯที่รัฐสภาไม่เห็นชอบไปในรอบแรกแล้วได้

เมื่อถามว่าโอกาสทางการเมืองต่อไปจะทำให้เกิดนายกฯ คนนอกได้หรือไม่ นายเสรี กล่าวว่า  มีโอกาสเกิดได้ แต่ขึ้นอยู่ว่าพรรคการเมืองทั้งหลายจะตกลงร่วมกันว่าเห็นด้วยหรือไม่ และส.ส.ต้องรวมเสียงกันให้ได้เกิน 251 เสียงขึ้นไป

ถามย้ำกว่าแนวทางดังกล่าวจะทำให้เกิดรัฐบาลแห่งชาติหรือรัฐบาลปรองดองได้เช่นกันหรือไม่ นายเสรี กล่าวว่า “เป็นไปได้ทั้งนั้น แต่อาจไม่ใช่การรวมทุกพรรคการเมือง จะมีเพียงพรรคก้าวไกลที่อาจไม่ได้เข้าร่วม เพราะเป็นพรรคที่มีจุดยืนแตกต่างจากพรรคอื่นๆ”