'ปดิพัทธ์' อึกอัก 'ก้าวไกล' ถอยฝ่ายค้าน ชี้ฉีก MOU 8 พรรคร่วมเป็นสิทธิ์
'ปดิพัทธ์' แบ่งรับแบ่งสู้ 'ก้าวไกล' ถอยเป็นฝ่ายค้าน เสียดายงดประชุมสภาฯ อดดันแก้ รธน. ม.272 ชี้ฉีก MOU 8 พรรคร่วมเป็นสิทธิ์ ขึ้นอยู่กับทีมเจรจา
เมื่อวันที่ 26 ก.ค. 2566 ที่ศาลอาญาคดีทุจริตและประพฤติมิชอบกลาง นายปดิพัทธ์ สันติภาดา ส.ส.พิษณุโลก พรรคก้าวไกล ในฐานะรองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่ 1 ให้สัมภาษณ์ถึงการงดประชุมร่วมรัฐสภา วันที่ 27 ก.ค. เพื่อโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีว่า ในส่วนการประชุมรัฐสภา นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร และนายพรเพชร วิชิตชลชัย รองประธานรัฐสภา ได้หารือกัน แต่ไม่ได้เรียกรองประธานสภาทั้ง 2 คน เข้าไปหารือด้วย เราก็เคารพการตัดสินใจ แต่มีวาระที่น่าเสียดายคือ วาระการแก้ไขรัฐธรรมนูญมาตรา 272 ทำให้ไม่ได้มีการพิจารณาไปด้วย
เมื่อถามถึงการเสนอให้ฉีกเอ็มโอยู ของ 8 พรรคร่วม ให้พรรคเพื่อไทยร่างเอ็มโอยูขึ้นมาใหม่ เพราะเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล มองเรื่องนี้อย่างไร นายปดิพัทธ์ กล่าวว่า เป็นสิทธิ์ที่ทำได้ เพราะพรรคหรือทีมเจรจาจะมีการพูดคุยกัน ส่วนการโหวตเลือกนายกฯ ยังมีความซับซ้อนในเรื่องของผู้ตรวจการแผ่นดิน และศาลรัฐธรรมนูญ เราจำเป็นต้องตั้งวาระอย่างรอบคอบขึ้น รอดูความพร้อมจากทุกฝ่าย
เมื่อถามว่าที่ประชุมจะโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีอีกครั้ง ต้องรอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณากรณีผู้ตรวจการแผ่นดินไปยื่นคำร้อง นายปดิพัทธ์ กล่าวว่า ต้องถามประธานรัฐสภา ยืนยันว่าในขณะที่การเลือกนายกรัฐมนตรียังไม่เรียบร้อยกระบวนการฝ่ายนิติบัญญัติก็จะเดินหน้าได้ ตนก็จะรับผิดชอบในเรื่องการบรรจุร่างพระราชบัญญัติพระราชกำหนดต่างๆ ต่อ
ส่วนที่มีกระแสว่าให้พรรคก้าวไกลไปเป็นฝ่ายค้าน นายปดิพัทธ์ กล่าวว่า ตนคงไม่สามารถตอบแทนพรรคได้ ดูจากท่าทีแกนนำพรรคหลายคน ก็คิดว่าเรื่องนี้ไม่ได้เป็นเรื่องว่า จะทำอะไรก็ได้ ให้ได้เป็นรัฐบาล เพราะทุกพรรคมีจุดยืนชัดเจน
เมื่อถามถึงกรณีหากเลื่อนโหวตนายกฯไปอีก 10 เดือนนั้น นายปดิพัทธ์ กล่าวว่า ขอสงวนไว้สำหรับความเห็นของประธานรัฐสภา