'สว.จเด็จ' ล็อกเป้าถล่มคุณสมบัติ 'เศรษฐา' วันโหวตนายกฯ ชี้ยังมีข้อน่าสงสัย
'สว.จเด็จ' ล็อกเป้าถล่มคุณสมบัติ 'เศรษฐา' แคนดิเดตนายกฯ 'เพื่อไทย' เผยยังมีข้อน่าสงสัยตามที่ 'ชูวิทย์' ปูดปมเลี่ยงภาษี-หนุนแก้ ม.112
เมื่อวันที่ 1 ส.ค. 2566 สว.จเด็จ อินสว่าง กล่าวถึงการโหวตนายกฯ วันที่ 4 ส.ค.นี้ว่า ขณะนี้ทุกฝ่ายสร้างสตอรี่ แทงข้างหลัง ถีบพรรคนั้นพรรคนี้ แต่ สว.มีหน้าที่ต้องโหวตเลือกนายกฯ โดยยึดหลักรัฐธรรมนูญ มาตรา 160 ที่ผู้ถูกเสนอชื่อต้องมีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ และไม่มีพฤติกรรมฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรง
นายจเด็จ กล่าวอีกว่า ชื่อนายเศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย ที่จะถูกเสนอชื่อให้ที่ประชุมรัฐสภาพิจารณาเป็นผู้เหมาะสมเป็นนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 4ส.ค.นั้น ยังมีข้อน่าสงสัยตามที่นายชูวิทย์ กมลวิศิษฎ์ ระบุเรื่องการหลีกเลี่ยงภาษี ถ้าเป็นเช่นนี้ สว.จะรับรองได้อย่างไร ไม่ใช่ใครก็ได้ที่ได้เสียงข้างมากแล้ว สว.ต้องเลือก แต่ สว.ต้องเลือกนายกฯที่มีความซื่อสัตย์สุจริตเป็นที่ประจักษ์ ดังนั้นการโหวตเลือกนายกฯวันดังกล่าว ประธานรัฐสภา ต้องให้นายเศรษฐาแสดงวิสัยทัศน์เพื่อให้สมาชิกรัฐสภามีโอกาสซักถาม จะให้ สว.เลือก โดยไม่แสดงวิสัยทัศน์ไม่ได้ ถ้านายเศรษฐาไม่แสดงวิสัยทัศน์ใด ๆ สว.จะเป็นฝ่ายถามเองถึงแนวคิดการบริหารประเทศ ทั้งเรื่องการ แก้ไขมาตรา 112 เรื่องความซื่อสัตย์สุจริต เพื่อให้มีความชัดเจนประเด็นเหล่านี้ก่อนตัดสินใจลงมติ เพราะ สว.มีหน้าที่ต้องเลือกคนดี ที่ไม่มีคุณสมบัติขัดรัฐธรรมนูญ มาตรา 160
นายจเด็จ กล่าวว่า เชื่อว่า การโหวตนายกฯ วันที่ 4ส.ค.ไม่น่าจะเป็นไปอย่างเรียบร้อย จะมีปัญหาถกเถียงพิจารณาเรื่องรัฐธรรมนูญ มาตรา160 หนักเข้าอาจต้องส่งไม้ต่อไปที่ นายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ในฐานะพรรคอันดับ3 ในที่สุดอาจนำไปสู่การโหวตนายกฯตามมาตรา272วรรคสอง หรือนายกฯคนนอกขณะนี้พรรคก้าวไกลยังเกาะพรรคเพื่อไทยอยู่ แม้จะยอมไปเป็นฝ่ายค้าน แต่ก็จะโหวตให้พรรคเพื่อไทยเป็นนายกฯ ถ้าทำได้ก็ทำไปเลย แหกตาสว.ไม่เป็นไร แต่อย่าแหกตาประชาชน