"สมชาย" ค้าน แก้รธน.272 ชี้มีปัญหาข้อกฎหมาย จ่อร้องศาลรธน.

"สมชาย" ค้าน แก้รธน.272  ชี้มีปัญหาข้อกฎหมาย จ่อร้องศาลรธน.

"สมชาย" ค้าน เลื่อน แก้ม.272 พิจารณาพรุ่งนี้ ขอ "วันนอร์" สั่งเลื่อนแฉ "บางพรรค" วางข้อตกลง ไม่แก้รธน.ม.272 จนกว่าโหวตนายกฯเสร็จ พร้อมมองนัดโหวตนายกฯหลัง20สิงหา

นายสมชาย แสวงการ สว. ฐานะกรรมการประสานงาน ฝั่งวุฒิสภา เรียกร้องไปยัง "วันนอร์"นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานรัฐสภา ให้เลื่อนประชุมรัฐสภา วันที่ 4 สิงหาคม ออกไปทั้งหมด ทั้งนี้ความเห็นส่วนตัวมองว่าแม้จะเลื่อนโหวตนายกฯ เพราะรอคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ ประเด็นคำร้องผู้ตรวจการแผ่นดิน ที่ศาลนัดพิจารณา 16 สิงหาคม ก็ไม่ควรพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 272 ที่พรรคก้าวไกลเสนอด้วยเช่นกัน เนื่องจากตนพิจารณาแล้วเห็นว่าร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 272 นั้นไม่ชอบด้วยรัฐธรรมนูญ และ มีปัญหาข้อกฎหมาย ที่สำคัญ สว.อาจไม่ร่วมพิจารณาด้วย เพราะอาจถูกร้องเรื่องจริยธรรมได้

 

“ผมได้ศึกษาข้อมูลแล้วพบว่ามาตรา 272 นั้นเกิดมาจากคำถามประชามติ ซึ่งเทียบเท่ากับเป็นมาตราที่ผ่านการเห็นชอบจากการทำประชามติ ดังนั้นหากจะแก้ไขควรต้องนำไปทำประชามติก่อน ซึ่งอาจต้องใช้งบประมาณหลายพันล้านบ้าน ส่วนตัวมองด้วยว่าไม่จำเป็นต้องพิจารณาแล้ว เนื่องจากอีก 9-10 เดือน มาตราดังกล่าวจะไม่สามารถใช้บังคับได้ต่อไป และจะหมดเวลาแล้ว หากมุ่งหวังว่าจะให้ตกโดยยืมมือสว. ผมไม่ทราบได้ ทำไปไม่มีประโยชน์และไม่มีความจำเป็น”  นายสมชาย กล่าว

เมื่อถามว่าหากวาระแก้รัฐธรรมนูญมาตรา 272 จะเข้าสู่การพิจารณาต้องขอมติที่ประชุมหรือไม่ นายสมชาย กล่าวว่า ตรงนี้อาจจะเป็นประเด็นได้ หากรัฐสภาขอมติให้เลื่อนจะทำให้ญัตติเลือกนายกฯ ตกไป และตนไม่อาจเข้าร่วมได้ เพราะจะผิดกฎหมายได้ ทั้งนี้มีข้อตกลงอย่างไม่เป็นทางการ ระหว่างแกนนำพรรคที่จะเป็นรัฐบาลกับวิปวุฒิสภา ว่า จะพิจารณาหลังจากโหวตนายกฯ  หากเลื่อนวาระจะถือว่าไม่เคารพข้อตกลง และนายวันมูหะมัดนอร์รับทราบเรื่องดังกล่าวดี

 

เมื่อถามว่าหากต้องใช้มติรัฐสภามองว่าพรรคเพื่อไทยจะร่วมเล่นเกมกับพรรคก้าวไกลหรือไม่ เพราะต้องอาศัยเสียง สว.โหวตนายกฯ นายสมชาย กล่าวว่า “แล้วแต่พรรคเพื่อไทย แต่พรรคเพื่อไทยต้องชั่งใจให้ดีว่าพรรคเพื่อไทยจะเล่นเกมนี้หรือไม่ แต่ผมมองว่าไม่จำเป็น เพราะหากรับวาระแรกผ่าน ผมจะเป็นผู้ไปยื่นศาลรัฐธรรมนูญ เพราะมองว่ามาตรา 272 เกิดได้โดยประชามติ ดังนั้นต้องกลับไปถามประชามติ หากนำเข้ามาแล้วจะทำให้ทุกอย่างหยุดทั้งหมด อย่าเล่นเกมนี้ สว.ไม่อยากใช้อำนาจนี้ แต่เมื่อมีประชามติต้องทำตามนี้

นายสมชาย กล่าวด้วยว่าสำหรับการนัดประชุมรัฐสภาครั้งต่อไป เพื่อโหวตนายกฯ นั้นตนขอเรียกร้องด้วยว่าควรนัดหลังจากที่ทราบคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญแล้ว ในวันที่ 16 สิงหาคม  และไม่ควรรีบนัดในวันที่ 17 สิงหาคม เพราะหากเกิดเหตุการณ์เหมือนอย่างการเลื่อนโหวตวันที่ 4 สิงหาคมอีก จะดูไม่งาม  และมีความสุ่มเสี่ยง

 

“การกำหนดนัดประชุมรัฐสภาครั้งต่อไปผมมองว่าหากนัดหลังวันที่ 20 สิงหาคม ไม่เป็นไร เพราะการโหวตนายกฯ ไม่เป็นอุปสรรคที่สว.จะไม่เข้าร่วม แต่ไม่ควรทำแล้วเจอปัญหา ดังนั้นควรเลื่อนให้มีระยะเวลาเพียงพอต่อการรอฟังคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ และหากรัฐสภาโหวตนายกฯ ก่อนที่ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัย ผมจะไม่ร่วมโหวตเพราะอาจถูกยื่นเรื่องเรียนได้ เพราะหากศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยคืนสิทธิให้นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์” นายสมชาย กล่าว.