เสื้อแดงรอเก้อ ทักษิณเลื่อนกลับไทย ชี้เคยถูกลอบสังหาร วอนด้อมส้มอย่าแตกคอ

เสื้อแดงรอเก้อ ทักษิณเลื่อนกลับไทย ชี้เคยถูกลอบสังหาร วอนด้อมส้มอย่าแตกคอ

แกนนำเสื้อแดงโคราช รอเก้อ "ทักษิณ" เลื่อนกลับไทย ชี้เคยถูกลอบสังหาร วอนด้อมส้มกับคนเสื้อแดง อย่าแตกคอกัน เรื่องเพื่อไทยแยกทางกันเดินกับก้าวไกล ชี้จำเป็นต้องตั้งรัฐบาลเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญที่บิดเบี้ยว

กรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ได้เลื่อนการเดินทางกลับประเทศไทย จากเดิมมีกำหนดกลับวันที่ 10 ส.ค.66 เป็นเลื่อนไปหลังจากที่การจัดตั้งรัฐบาลเสร็จสิ้นแล้วนั้น

นายสมโภชน์ ประสาทไทย แกนนำคนเสื้อแดง จ.นครราชสีมา กล่าวว่า โดยส่วนตัวแล้ว เข้าใจดีว่านายทักษิณประเมินแล้วว่าการกลับมาในช่วงที่พรรคเพื่อไทย ยังจัดตั้งรัฐบาลไม่เสร็จ อาจจะไม่ปลอดภัย เนื่องจากเคยถูกลอบสังหารมาก่อนแล้วถึง 4 ครั้ง 

ครั้งนี้จึงต้องมีความรอบคอบมากยิ่งขึ้น ซึ่งคนเสื้อแดงต้องการให้ท่านกลับมาประเทศไทยโดยเร็ว อยากให้ท่านมาเป็นขวัญกำลังใจให้กับประชาชน ที่ต่อสู้เพื่อประชาธิปไตยเคียงข้างกันโดยตลอด แต่ถ้าท่านมาแล้วไม่ปลอดภัย ก็เลื่อนไปก่อนได้ พวกตนสามารถรอได้

เสื้อแดงรอเก้อ ทักษิณเลื่อนกลับไทย ชี้เคยถูกลอบสังหาร วอนด้อมส้มอย่าแตกคอ

ส่วนเรื่องที่พรรคเพื่อไทย แยกทางกันเดินกับพรรคก้าวไกล เพื่อจัดตั้งรัฐบาลรู้สึกไม่สบายใจเห็นใจทั้งด้อมส้ม และคนเสื้อแดง แต่เมื่อรัฐธรรมนูญฉบับนี้บิดเบี้ยว ทำให้พรรคร่วมรัฐบาล ที่มี ส.ส.ซึ่งเป็นตัวแทนของประชาชน แม้จะรวมกันได้มากถึง 312 เสียง ก็ยังไม่สามารถจัดตั้งรัฐบาลได้ เพราะรัฐธรรมนูญกำหนดให้ ส.ว. ที่มาจากการแต่งตั้งของอำนาจเก่า 

สามารถเข้ามาโหวตเลือกนายกรัฐมนตรีได้ ก็ทำให้พรรคเพื่อไทยจำเป็นต้องแยกทางกันเดินกับพรรคก้าวไกล เพื่อพยายามที่จะจัดตั้งรัฐบาลให้ได้ ซึ่งพรรคเพื่อไทยก็บอกแล้วว่า ถ้าได้เข้าไปเป็นรัฐบาลแล้ว จะเร่งแก้ไขรัฐธรรมนูญที่บิดเบี้ยวนี้เป็นอันดับแรก เพื่อให้ประเทศไทยมีรัฐธรรมนูญที่เป็นของประชาชนตามระบอบประชาธิปไตยอย่างแท้จริง

 ถ้าไม่ทำเช่นนี้ประเทศก็ยากที่จะเดินหน้าต่อไปได้ ดังนั้นจึงอยากขอให้พี่น้องชาวเสื้อแดง และพี่น้องด้อมส้มทุกคนอย่าได้เกิดความแตกแยกกันเลย ตอนนี้ขอให้พรรคใดพรรคหนึ่งได้เข้าไปเป็นรัฐบาลก่อน ส่วนเรื่องนโยบายต่างๆ ของพรรคก้าวไกลที่เป็นประโยชน์ พรรคเพื่อไทยก็ยังไม่ได้ตัดทิ้ง ยังอยู่ในนโยบายที่จะช่วยผลักดันอยู่ ซึ่งตนก็เชื่อว่าผู้บริหารพรรคเพื่อไทยก็คงจะพิจารณาเรื่องนี้อย่างรอบคอบแล้ว จึงตัดสินใจประกาศไปเช่นนั้น