เปิดฉากรัก ปิดฉากร้าว พท.-ภท. ‘212 +’ ไปต่อ ไม่ง้อลุง ?

เปิดฉากรัก ปิดฉากร้าว  พท.-ภท. ‘212 +’ ไปต่อ ไม่ง้อลุง ?

ปิดฉากร้าว "มันจบแล้วครับนาย" ส่วน "ไล่หนูตีงู" แค่ "เทคนิคหาเสียง" เปิดตำนานรักจัดตั้งรัฐบาล "เพื่อไทย-ภูมิใจไทย" 212+ จับตาไปต่อไม่ง้อลุง?

ตอกย้ำบริบทการเมืองไทย “ไม่มีมิตรแท้และศัตรูที่ถาวร” ได้เป็นอย่างดี หลังการประกาศจับมือกันระหว่างพรรคเพื่อไทย และพรรคภูมิใจไทย ชูสมการตั้งต้น 212เสียง เดินหน้าจัดตั้งรัฐบาล 

ปิดตำนานร้าวระหว่าง “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี และ “เนวิน ชิดชอบ” ประธานสโมสรบุรีรัมย์ยูไนเต็ด จากวลี “มันจบแล้วครับนาย” ที่ยืดเยื้อยาวนานกว่า 15 ปี

เช่นเดียวกับยุทธศาสตร์ “ไล่หนู-ตีงู” ที่ 2 ค่ายฟาดฟันกันเอาเป็นเอาตาย มายามนี้กลับแปรเปลี่ยนเป็นแค่ “เทคนิคหาเสียง” จาก “ไล่หนู” ทำไปทำมา กลับกลายเป็น “ต้อนหนู” เข้ารัง

เวิร์ดดิ้งสำคัญในการแถลง “ชลน่าน ศรีแก้ว” หัวหน้าพรรคเพื่อไทย ย้ำชัดถึงสมการ “มีเรา-ไม่มีลุง” แต่ไม่ปฏิเสธเงื่อนไข หากจะมี "งูเห่า" พรรคลุงๆ มาสนับสนุนนายกฯ ของพรรคเพื่อไทย 

เช่นนี้ จึงต้องจับตาไปที่สูตร “ไร้ลุง” ที่จะมีพรรคเพื่อไทย 141 เสียง บวกพรรคภูมิใจไทย 71 เสียง ส่วนพรรคชาติไทยพัฒนา  10 เสียง  และพรรคชาติพัฒนากล้า 2 เสียง

บวกกับพรรคที่อยู่ในขั้ว 8 พรรคเดิม ซึ่งมีแนวโน้มร่วมรัฐบาลเพื่อไทยทั้ง พรรคประชาชาติ 9 เสียง พรรคเพื่อไทรวมพลัง 2 เสียง พรรคเสรีรวมไทย 1 เสียง พรรคพลังสังคมใหม่ อีก 1เสียง 

เปิดฉากรัก ปิดฉากร้าว  พท.-ภท. ‘212 +’ ไปต่อ ไม่ง้อลุง ?

ขณะเดียวกัน ยังต้องจับตาไปที่พรรคประชาธิปัตย์ 25 เสียง แม้ก่อนหน้าจะปรากฎกระแสข่าว “นายกชาย” เดชอิศม์ ขาวทอง รักษาการรองหัวหน้าพรรค บินไปพบนายเก่า “ทักษิณ” ที่ฮ่องกงเมื่อช่วงปลายเดือน ก.ค. ประกาศตัวในฐานะว่าที่เลขาธิการพรรคสีฟ้า พร้อมจับมือรัฐบาลพรรคเพื่อไทย

วันนั้นมีแกนนำภูมิใจไทย ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็น “พี่ชายสุดที่รัก” ที่เคยประกาศเป็นพี่น้องร่วมสาบานทางการเมืองบินไปด้วย ขณะที่ตัวนายกชาย ก็ไม่ได้ไม่ปฏิเสธข่าวดังกล่าว

ทว่า จนถึงเวลานี้สถานการณ์ “ค่ายสีฟ้า” ยังคงเผชิญสภาวะสุญญากาศ ไร้ผู้นำพรรคตัวจริง หลังการประชุมใหญ่วิสามัญเพื่อเลือกหัวหน้าพรรค และกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ เกิดปัญหา ประชุมล่มเป็นรอบที่ 2 เมื่อ 6 ส.ค.ที่ผ่านมา  

ทำให้ฝันของขั้วอำนาจสีฟ้า โดยเฉพาะตัวนายกชาย ที่ถึงขั้นกางตัวเลข 22 ส.ส.ที่ตัวเองมีอยู่ในมือให้ "นายเก่า"ดู กลับถูกสกัดขัดขวางจากอีกขั้วอำนาจที่มี “2 ลุงสีฟ้า” ซึ่งประกาศยืนตรงข้ามระบอบทักษิณเป็นผู้คุมเกม

ฉะนั้นต้องจับตา หากสถานการณ์ใน ปชป.ยังคงอึมครึมเช่นนี้ไปเรื่อยๆ ที่สุดอาจมีการ “หักดิบ” ใช้มติกรรมการบริหารชุดรักษาการบวกกับเสียง ส.ส.25 คน เพื่อชี้ขาด ซึ่งเมื่อถึงเวลานั้น แน่นอนว่า “2 ขั้วอำนาจใน ปชป.” ต่างฝ่ายต้องช่วงชิงความได้เปรียบ เพื่อให้ฝั่งของตนเองสมหวังในที่สุด

เปิดฉากรัก ปิดฉากร้าว  พท.-ภท. ‘212 +’ ไปต่อ ไม่ง้อลุง ?

 

ไม่ต่างจากบรรดา “พรรคเล็ก” หนึ่งเสียง ประกอบด้วย พรรคประชาธิปไตยใหม่ พรรคครูไทยเพื่อประชาชน พรรคใหม่ พรรคท้องที่ไทย โดยเฉพาะ 2 พรรคแรก ที่อยู่ภายใต้การคอนโทรลของ “ผู้กองธรรมนัส พรหมเผ่า” เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ ฉะนั้น เมื่อเพื่อไทยชงสูตร “ไม่มีลุง” ยามนี้พรรคเหล่านี้อาจต้องรอสัญญาณจากผู้มากบารมี

ตอกย้ำชัดจากการปรากฎตัวร่วมกัน ระหว่างผู้กองธรรมนัส  พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ และสุรทิน พิจารณ์ หัวหน้าพรรคประชาธิปไตยใหม่ กลางงานยกช่อฟ้าที่วัดแห่งหนึ่งใน จ.ปทุมธานี เมื่อ 31 ก.ค.ที่ผ่านมา นับเป็นการส่งสัญญาณการคุมเสียงพรรคเล็ก จากบ้านป่ารอยต่อโดยตรง

ฉะนั้น เงื่อนไขเพื่อไทย ที่แม้จะบอกว่า “ไม่มีลุง”  โดยใช้สูตรรัฐบาล 263 เสียง ถึงเวลาจริง อาจยังต้องไปลุ้นหน้างาน โดยเฉพาะการหาเสียงแบบเผื่อเหลือเผื่อขาดอีก อย่างน้อย 120 เสียง 

เปิดฉากรัก ปิดฉากร้าว  พท.-ภท. ‘212 +’ ไปต่อ ไม่ง้อลุง ?

เจาะลึกไปที่กลุ่ม สว.กลุ่มปิดสวิตช์ 63 คน แบ่งเป็น 13 คนที่เคยโหวตให้พิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกล ส่วนที่เหลืออีก 50 คน เพื่อไทยแอบหวัง สว.กลุ่มบ้านใหญ่ ที่แอบอิงกับพรรคการเมือง ภายใต้เงื่อนไขไม่มีมาตรา 112  อาจทำให้ สว.กลุ่มนี้ โหวตหนุนแคนดิเดตนายกฯ ให้ 

ว่ากันว่า ยามนี้ “2 ส.”เพื่อไทย พยายามเดินสายคุย สว.ขอเสียงสนับสนุน หวังเพิ่มแต้มต่อรอง “โควตา รมต.” ไปในคราวเดียวกัน

ทว่า ภายใต้สมการ “มีเรา ไม่มีลุง” คือ ส.ส.263+ ส.ว.63 เสียง  รัฐบาลพรรคเพื่อไทยจะมีเสียงในมือเพียงแค่ 326 เสียง ยังขาดเสียงสนับสนุนอีกเกือบ 60 เสียง ฉะนั้นทางออกของเพื่อไทย จึงมีดังนี้

เปิดฉากรัก ปิดฉากร้าว  พท.-ภท. ‘212 +’ ไปต่อ ไม่ง้อลุง ?

1.ดึงเสียง สว.ก๊วนลายพราง ที่แยกเป็นสาย “ป.พี่-ป.น้อง”  คำถามคือ ภายใต้สูตรไม่มีลุง สว.เหล่านี้ จะโหวตให้พรรคเพื่อไทยหรือไม่? 

2. ดึงเสียงรวมไทยสร้างชาติ 36 เสียง อ้างเหตุผลที่ยามนี้ “ไม่มีลุง”ร่วมรัฐบาล  หวังสว.สายลุง เทสนับสนุน สูตรนี้เพื่อไทยอาจต้องเตรียมแผนตั้งรับ กระแสต้าน รทสช. ที่แม้จะไม่มีลุง แต่ก็ถือเครื่องมือในการสืบทอดอำนาจเผด็จการ

3. เพื่อไทยยอมกลืนเลือด ดึง 40 เสียงพลังประชารัฐร่วมรัฐบาล ซึ่งหากเป็นตัวเลือกนี้ โอกาสที่จะได้รับเสียง สว.สนับสนุนง่ายๆ แบบไม่ต้องลุ้น แต่ก็ต้องแลกกับคะแนนนิยมที่อาจ“ต่ำร้อย”ในการเลือกตั้งครั้งหน้า แถมปลายทางยังต้องไปลุ้นว่า นายกฯยังเป็นคนของเพื่อไทยอยู่หรือไม่ 

4. ดึงเสียง "งูเห่า" พรรค 2 ลุง สูตรนี้เคยมีการพูดถึงก่อนหน้านี้ แต่ ณ ปัจจุบันดูเหมือนว่า สัญญาณดังกล่าวจะถูกสกัดขัดขวางโดยเฉพาะจาก “ลุงบ้านป่ารอยต่อ” ที่ยื่นคำขาด หากจะไป ก็ต้องไปทั้งพรรค 

5. ขอเสียงจากพรรคก้าวไกล ที่ยามนี้ถูกผลักไปอยู่ขั้วฝ่ายค้าน โชว์สปิริตโหวตให้พรรคเพื่อไทย เพื่อปิดสวิตช์ สว. สอดคล้องกับท่าที “สุพิศาล ภักดีนฤนาถ” รองหัวหน้าพรรค ที่พูดในทำนองเดียวกัน 

ทว่า ท่าทีของ “สุพิศาล” ที่ออกไปในแนวอนุรักษ์สีส้ม ดูเหมือนว่า จะสวนทางกับท่าทีของสส.ก้าวไกลหลายคน ที่ยืนยันว่านายกฯจะต้องเป็น “พิธา” คนเดียวเท่านั้น หรือหากก้าวไกลยอมโหวตให้จริง เพื่อไทยอาจต้องแลกกับ “แลนด์สไลด์สีส้ม” ที่จะเกิดขึ้นในการเลือกตั้งครั้งหน้าแบบถล่มทลาย

เหล่านี้ นับเป็นการตอกย้ำถึงฉาก "ปิดตำนานร้าว-เปิดตำนานรัก" ระหว่างเพื่อไทย และภูมิใจไทย ภายใต้สูตร 212 เสียงตั้งต้น ที่ยังมีโอกาสพลิกอีกหลายตลบ กว่าจะได้ตัวนายกฯ !