‘มินต์ช็อก’ สัญญะแห่งการหักหลังในสายตา ‘สื่อนอก’ หลังถูกใช้ในวงการเมือง
การทรยศหักหลังรส “ช็อกโกแลตมินต์” !? สื่อนอกตีความเครื่องดื่มเย็นสุดฮิต หลังถูกนำมาใช้ในวงการเมือง-เชื่อมสัมพันธ์พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล มองการเมืองไทยใช้ “สี” ในการสื่อสารไม่ใช่เรื่องใหม่ แม้อีกฟากมอง ไม่ควรนำเครื่องดื่มต่อยอดประเด็นทางการเมือง
หลังจากเครื่องดื่ม “มินต์ช็อก” แจ้งเกิดทางการเมืองจากความชอบส่วนตัวของ “แพทองธาร ชินวัตร” แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย มาวันนี้เมนูเครื่องดื่มช็อกโกแลตมินต์กลายเป็น “สัญญะทางการเมือง” ทันที ภายหลังวงเจรจาตั้งรัฐบาลภายใต้การนำของพรรคเพื่อไทยใช้เครื่องดื่มดังกล่าวในการตั้งวงชนแก้วสามัคคีกับพรรคขั้วรัฐบาลเดิม สร้างความรู้สึก “สองขั้ว” ให้กับประชาชนผู้พบเห็นไม่น้อย
เหตุการณ์ “วงมินต์ช็อก” ในสายตาสื่อนอกถูกนำมาตีความอย่างเผ็ดร้อน โดยสำนักข่าวเดอะการ์เดียน (The Guardian) รายงานว่า “วงมินต์ช็อก” ว่า เป็นเหมือน “ฟางเส้นสุดท้าย” และกลายเป็นสัญลักษณ์ของการทรยศหักหลังทางการเมืองไทย ร้านกาแฟบางแห่งระงับการขายเมนูดังกล่าวทันทีโดยระบุว่า ช็อกโกแลตมินต์กลายเป็นเครื่องดื่มที่สื่อนัยถึงการทรยศเพื่อน เนื่องจากพรรคเพื่อไทยเคยให้คำมั่นสัญญาว่า จะไม่เข้าร่วมรัฐบาลกับกองทัพที่ทำการยึดอำนาจ-รัฐประหารเข้ามา แม้ว่าการรวมกันครั้งนี้จะส่งให้ “พรรคเพื่อไทย” ได้เป็นแกนในการจัดตั้งรัฐบาลก็ตาม
อย่างไรก็ตาม ประวัติศาสตร์การเมืองไทยมีการใช้ “สัญญะ” ในการต่อสู้อย่างสร้างสรรค์มายาวนาน ตั้งแต่การแต่งกายเสียดสีไปจนถึงการใช้สัญลักษณ์ในการสื่อสารทางโซเชียลมีเดีย แม้จะมีฝั่งที่ออกมาสนับสนุนการหยุดขายเมนูมินต์ช็อกแต่ก็มีความเห็นแย้งเช่นกัน โดยมองว่า ไม่ควรนำเครื่องดื่มมาเป็นสัญลักษณ์แทนคนกลุ่มใดกลุ่มหนึ่ง ช็อกโกแลตมินต์ต้องเป็นเครื่องดื่มของทุกคน ไม่ผูกขาดไว้ที่ใคร
ด้านสำนักข่าวเดอะสเตรทไทม์ (The Straits Times) ได้เข้าไปเยี่ยมชมที่ร้าน “ThinkLab” โดยพนักงานร้านให้ข้อมูลว่า ตั้งแต่มีกระแสจากแคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย “มินต์ช็อก” ขึ้นแท่นเมนูขายดีทันที โดยมียอดขายเฉลี่ยราว 150 แก้วต่อวัน ส่วนร้านกาแฟในจังหวัดสมุทรสงครามที่มีการถอดเมนูมินต์ช็อกออกไปแล้วนั้นบอกว่า เธอไม่ได้ต้องการต่อต้านการมีอยู่ของเมนูนี้ แต่ต้องการแสดงออกเชิงสัญลักษณ์ว่า เธออยู่เคียงข้างการเมืองที่สนับสนุนประชาธิปไตย กระทั่งผู้ใช้งานโซเชียลมีเดียบางรายระบุว่า จะไม่ดื่มมินต์ช็อกอย่างเด็ดขาด
นอกจากนี้ ยังมีกลุ่มผู้ชุมนุมประท้วงบริเวณหน้าพรรคเพื่อไทยมารวมตัวกันเพื่อทวงถามถึงเหตุการณ์ในอดีตเมื่อครั้งที่ “คนเสื้อแดง” ถูกล้อมปราบเมื่อปี 2553 ซึ่งมีผู้เสียชีวิตกว่า 99 ศพ โดยมีผู้ชุมนุมคนหนึ่งยืนถือแก้วเครื่องดื่ม “ช็อกโกแลตมินต์” พร้อมถือป้ายที่มีข้อความระบุว่า “พรรคเพื่อไทย อย่าทรยศประชาชน”