"คาร์ม็อบ" บุก "ภท." พร้อมทำกิจกรรมไล่หนู-เผาขี้แมว ค้านจับมือ พท.
"คาร์ม็อบกลุ่มโมกหลวงฯ" บุก "ภูมิใจไทย" แจกใบปลิวประท้วง การจับมือร่วมรัฐบาล พร้อมทำกิจกรรมเผาขี้แมว -ปากาวดักหนู ด้านแกนนำ ยันไม่ยกระดับการชุมนุม-ใช้ความรุนแรง
ผู้สื่อข่าวรายงานถึงบรรยากาศการจัดกิจกรรม ไล่หนู ตีงูเห่า ของกลุ่มโมกหลวงริมน้ำ ที่นำโดย นายโสภณ สุรฤทธิ์ธำรง หรือเก็ท ที่รวมตัวจัด คาร์ม็อบ เดินสายไปแสดงกิจกรรมทางการเมืองที่หน้าพรรคภูมิใจไทย และพรรคเพื่อไทย หลังจากที่แถลงจับมือร่วมจัดตั้งรัฐบาล วันนี้ (13 สิงหาคม) ว่า มีมวลชนได้รวมตัวกันที่ บีทีเอส หมอชิต โดยมวลชนได้นำรถจักรยาน รถจักรยานยนต์ และรถยนต์เข้าร่วมทำกิจกรรม
โดยก่อนเริ่มกิจกรรม นายโสภณ ให้สัมภาษณ์ว่า ต้องการสื่อสารให้พรรคการเมืองทำตามเสียงประชาชน อย่างไรก็ดีตนมองว่ากระแสการเมืองและสังคมเปลี่ยนไป ทำให้ผู้มีอำนาจในพรรคการเมืองที่เคยสัญญากับประชาชนว่าจะไม่จับมือกับพวกฝั่งตรงข้าม หันไปจับมือกัน ส่วนที่กล่าวอ้างว่าเป็นเทคนิคการหาเสียงมันทำให้เสียความรู้สึกมาก ขายนโยบายโกหกประชาชน
นายโสภณ กล่าวด้วยว่า พรรคภูมิใจไทยเคยทำนโยบายที่ทำให้ประชาชนเจ็บช้ำ แต่พรรคเพื่อไทยจะมาจับมือร่วมจัดตั้งรัฐบาล แสดงว่าไม่เห็นหัวของประชาชน นอกจากนั้นพรรคเพื่อไทยยังเคยอภิปรายไม่ไว้วางใจอนุทิน ชาญวีรกูล ฐาน รมว.สาธารณสุขและหัวหน้าพรรคภูมิใจไทย ที่ไม่มีความรู้ด้านการแพทย์แต่จะมาจับมือกันตั้งรัฐบาล
เมื่อถามถึงกรณีที่ประชาชนตั้งคำถามถึงการทำกิจกรรมที่เกินขอบเขต นายโสภณ กล่าวว่า การเคลื่อนไหวทางการเมืองมันมีหลายแนวทาง หนึ่งคำถามมีได้หลายคำตอบทั้งหมดต้องเรียนรู้ร่วมกันไป และสังคมต้องเลือกว่าชอบแนวคิด หรือแนวทางแบบไหน ทั้งนี้ทางกลุ่มจะใช้องค์ความรู้สื่อสารให้สังคมเข้าใจ แทนการยกระดับการชุมนุม ทั้งนี้ตนยืนยันว่ากลุ่มโมกหลวงริมน้ำพยายามผลักดันในเรื่องสิทธิมนุษยชน โดยการชุมนุมปราศจากความรุนแรง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าขบวนคาร์ม็อบจะออกจากบีทีเอสหมอชิตในช่วงเวลา 14.00 น. มุ่งหน้าไปยังพรรคภูมิใจไทย และได้ถึงหน้าที่ทำการพรรคเพื่อไทย ย่านเกษตรศาสตร์ ในเวลา 15.00 น. โดยเมื่อมาถึงได้จัดกิจกรรมปราศรัยและแจกใบปลิว ผลงานของนายอนุทินที่เป็นปัญหาให้สังคม อาทิ กัญชาเสรี, ดูถูกว่าโควิดเป็นโรคกระจอก และได้สาธิต พันลำมวนกัญชา โดยใช้กระสอบสีขาวและขี้แมวเป็นไส้ จากนั้นได้จุดไฟ และโยนเข้าไปภายในพรรคภูมิใจไทย พร้อมกับนำกาวดักหนู มาทำกิจกรรมดักหนู ที่เป็นพาหะของการแพร่เชื้อโรคร้ายด้วย
ขณะที่ตำรวจที่ดูแลความเรียบร้อย ได้ประกาศเป็นระยะโดยเตือนให้ผู้ชุมนุมทำกิจกรรมโดยสงบและเรียบร้อย และอย่ากระทำสิ่งที่ผิดกฎหมายหรือความรุนแรงเพราะอาจถูกดำเนินคดีได้