อย่าให้ประชาชนผิดหวัง จนต้องพึ่งครูกายแก้ว
เรื่องตำนานความเชื่อเป็นสิ่งที่อยู่คู่กับสังคม โดยเฉพาะประเทศไทยเมื่อโครงสร้างการเมืองไม่ตอบสนองความต้องการทางเศรษฐกิจ ตำนานความเชื่อจึงกลายเป็นที่พึ่งทางใจให้ประชาชนไปโดยปริยาย
อ่านข่าวต่างประเทศระยะนี้น่าสังเกตว่า ส่วนใหญ่หนักไปทางข่าวเศรษฐกิจจีนซบเซา ข้อมูลเศรษฐกิจอ่อนแอหลายตัว ธนาคารรายใหญ่ระดับโลกหลายแห่งพากันปรับลดคาดการณ์การขยายตัวของเศรษฐกิจจีนในปี 2566 ซึ่งเป็นการปรับลดคาดการณ์ติดต่อกันเป็นเดือนที่ 2 ล่าสุด มอร์แกน สแตนลีย์ (Morgan Stanley) ลดคาดการณ์การเติบโตทางเศรษฐกิจของจีนในปี 2566 และ 2567 ลง เหลือ 4.7% และ 4.2% ตามลำดับ จากปัญหาในภาคอสังหาริมทรัพย์และหนี้สินรัฐบาลท้องถิ่น
ที่ต้องสนใจเศรษฐกิจจีนที่มีขนาดใหญ่เป็นอันดับสองของโลกเพราะจีนเป็นคู่ค้าสำคัญของไทย ถ้าเศรษฐกิจจีนมีปัญหาเกรงว่าจะเอ่อล้นไปถึงประเทศอื่นๆ รวมทั้งไทยด้วย ยิ่งไทยยังไม่มีรัฐบาลนโยบายใหญ่ๆ จึงยังไม่มีผู้ตัดสินใจ อย่างไรก็ตาม พอมีความหวังอยู่บ้างที่การโหวตนายกรัฐมนตรีจะมีขึ้นในวันที่ 22 ส.ค. หรือวันที่ 7 เดือน 7 ตามปฏิทินจันทรคติของจีน เรียกว่า วันชีซี (七夕节 – qi xi jie – ชีซีเจี๋ย) คู่รักจะข้ามทางช้างเผือกมาพบกันแค่ปีละครั้ง ตามมติของสวรรค์ หลายประเทศในเอเชีย เช่น ญี่ปุ่น มีเทศกาลทานาบาตะ ในฮ่องกง ไต้หวัน เวียดนาม และเกาหลี ก็มีวันชีซี
เรื่องตำนานความเชื่อเป็นสิ่งที่อยู่คู่กับสังคม โดยเฉพาะประเทศไทยเมื่อโครงสร้างการเมืองไม่ตอบสนองความต้องการทางเศรษฐกิจ ตำนานความเชื่อจึงกลายเป็นที่พึ่งทางใจให้ประชาชนไปโดยปริยาย อย่างปรากฏการณ์ “ครูกายแก้ว” ซึ่งไม่ใช่เรื่องน่าแปลกใจเพราะก่อนหน้านี้เราก็เคยมีจตุคามรามเทพ ตุ๊กตาลูกเทพ ท้าวเวสสุวรรณ ไอ้ไข่ นี่นับเฉพาะความเชื่อร่วมสมัย อีกหนึ่งที่กำลังเป็นกระแสแบบไม่เอะอะคือศาลเจ้าแม่ทับทิมสะพานเหลือง ท่ามกลางประเด็นประวัติศาสตร์ชุมชนกับการพัฒนาอย่างไร้ทิศทาง
ส่วนที่สถิตสถาพรมานานอย่างพระพิฆเนศวร ท้าวมหาพรหม ฯลฯ อันนี้ต้องยกขึ้นหิ้งเพราะป็อปปูลาร์มาตั้งแต่ไหนแต่ไร เรื่องเทพ เรื่องมู (เตลู) ก็ว่ากันไป แต่คนที่จะทำหน้าที่ดลบันดาลให้ประชาชนอยู่ดีกินดีแบบถ้วนหน้าต้องเป็นหน้าที่ของ“รัฐบาล” เรื่องนี้ต้องถามภาคเอกชน นายเกรียงไกร เธียรนุกุล ประธานสภาอุตสาหกรรมแห่งประเทศไทย (ส.อ.ท.) เผยว่า ภาคเอกชนคาดหวังอยากได้ “ดรีมทีมเศรษฐกิจ” เข้ามาในคณะรัฐมนตรีชุดใหม่เนื่องจาก ณ วันนี้ปัญหาเรื่องเศรษฐกิจมีมากทั้งในและต่างประเทศ เศรษฐกิจเป็นปัญหาใหญ่ที่รออยู่ ดังนั้นคนที่จะเข้ามาแก้ปัญหานี้ได้ต้องเป็น “ดรีมทีมเศรษฐกิจ” ตั้งแต่รองนายกฯ ด้านเศรษฐกิจ และรัฐมนตรีกระทรวงเศรษฐกิจทุกคนที่จะต้องทำงานเป็นทีมเดียวกันอย่างใกล้ชิด
ชัดเจนว่า เมื่อขาดความเชื่อมั่น คนไทยหลายคนเลือกใช้บริการสายมูฯ เมื่อใจสบายขึ้นปัญหาที่ว่าใหญ่ก็ดูเหมือนเบาลง แต่คนที่จะลงมือปฏิบัติแก้ปัญหาประชาชนหนีไม่พ้นนักการเมือง พรรคการเมืองต้องทำนโยบายตามที่หาเสียงไว้ ประชาชนออกไปหย่อนบัตรให้เป็นรัฐบาล เมื่อได้เป็นแล้วก็ต้องทำหน้าที่ให้ดีที่สุดอย่าให้ประชาชนผิดหวัง ระหว่างที่กำลังเจรจาหาพรรคร่วมรัฐบาลนี้ สิ่งที่ต้องพึงตระหนักคือต้องหาคนที่มีความสามารถมารับหน้าที่รัฐมนตรี อย่าดูแค่ผลประโยชน์และการต่อรอง ขอให้จำไว้เลยว่า รัฐบาลต้องเป็นที่พึ่งอย่าปล่อยให้ประชาชนผิดหวังจนต้องไปพึ่งครูกายแก้ว!!!