เวลคัม‘ทักษิณ’นับหนึ่งรัฐบาลผสมสี ‘แดง’ผนึก‘เหลือง’ โดดเดี่ยว ‘ส้ม’

เวลคัม‘ทักษิณ’นับหนึ่งรัฐบาลผสมสี ‘แดง’ผนึก‘เหลือง’ โดดเดี่ยว ‘ส้ม’

“ทักษิณ-หัวขบวนอนุรักษ์นิยม” ไม่สามารถทำได้อย่างที่คาดหวัง ทุกอย่างจะไหลไปเข้าทาง “ก้าวไกล-ด้อมส้ม” ทันที การเลือกตั้งครั้งหน้ายิ่งจะยากรับมือกับกระแส “ส้ม” แม้วันนนี้จะโดน “แดง-เหลือง” โดดเดี่ยวก็ตาม

“แน่สิ” เป็นคำตอบของ “โทนี่” ทักษิณ ชินวัตร ตอบคำถามสำนักข่าวบีบีซีไทย ถึงกำหนดการเดินทางกลับมายังประเทศไทย ในเวลา 09.00 น. วันที่ 22 ส.ค. ภายหลัง “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร ออกมาประกาศผ่านช่องทางโซเชียลมีเดีย

แม้ “ทักษิณ” จะกล่าวอ้างว่าการเดินทางกลับไทยไม่เกี่ยวข้องกับการโหวตเลือกนายกรัฐมนตรี ในวันที่ 22 ส.ค. ซึ่งเป็นวันเดียวกัน แต่ความเคลื่อนไหวทางการเมืองของ “ทักษิณ” มักผูกโยงกับความเคลื่อนไหวทางการเมือง

เหตุผลหลักในการเลื่อนกลับจากกำหนดการเดิม 10 ส.ค. ทั้งที่ “แพทองธาร” ประกาศด้วยตัวเอง เป็นผลกระทบชิ่งมาจากการเลื่อนโหวตนายกรัฐมนตรี จากวันที่ 4 ส.ค. ออกไป เพราะต้องรอศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยการโหวต “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” หัวหน้าพรรคก้าวไกล รอบสอง

ที่สำคัญในห้วงเวลาดังกล่าว การผสมพันธุ์ข้ามขั้ว เพื่อจัดตั้งรัฐบาล ยังสร้างสตอรี่ไม่เสร็จสมบูรณ์ ตอนจบเลยยังมาไม่ถึง เมื่อพรรคเพื่อไทย จัดฉากเชิญ 9 พรรคร่วมจัดตั้งรัฐบาล เรียงคิวแถลงข่าวร่วมกันอย่างเป็นทางการ รวบรวม 238 เสียง
 

ต่อด้วยการส่ง “ทีมเจรจา” พูดคุยกับ พีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ โดยลับลวงพรางพบเจอกันที่โรงแรมเอสซีปาร์ค โรงแรมในเครือชินวัตร

ขณะเดียวกันดีลไม่ลับกับพรรคพลังประชารัฐ ผ่าน “ผู้กองมนัส” ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ เสร็จสิ้นเรียบร้อยแล้วเหมือนกัน แม้ข้อเสนอของพรรคพลังประชารัฐจะสูงลิบ แต่ถูกกดดันด้วยเงื่อนระยะเวลา “ขุนพลป่ารอยต่อ” ไม่ต้องการตกขบวน จึงต้องรีบกระโจนขึ้นรถไฟ

เมื่อดีลรัฐบาลข้ามขั้วเคาะจบ ว่าที่รัฐบาลเพื่อไทยสามารถรวบรวมเสียงได้ 314 เสียง ต้องการเสียงจาก สว. อีกอย่างน้อย 62 เสียง จึงจะสามารถส่ง “เสี่ยนิด” เศรษฐา ทวีสิน แคนดิเดตนายกรัฐมนตรี พรรคเพื่อไทย ได้มีคะแนนเสียงเกิน 375 เสียง เกินกึ่งหนึ่งของที่ประชุมร่วมรัฐสภา
 

ดังนั้นการต้อนรับ “ทักษิณ” กลับไทย กับการนับหนึ่งการจัดตั้งรัฐบาลข้ามขั้ว จึงถูกจัดฉากให้อยู่ในห้วงเวลาเดียวกัน เพื่อเซ็ตอีเวนต์ “รัฐบาลพิเศษ” หวังสร้างความปรองสมานฉันท์ให้คนในชาติ กลับมาสมัครสมานสามัคคี

เนื่องจาก “ทักษิณ-เพื่อไทย” ตัวแทน “สีแดง” หันมาจับมือกับ “พรรคสองลุง” – “เครือข่ายอนุรักษ์นิยม” – “คนเสื้อเหลือง” ซึ่งเป็นคู่แข่งคู่แค้นทางการเมือง และสร้างรอยแค้น สร้างบาดแผลให้กับสังคมไทยมาอย่างยาวนาน

ทว่าวาทกรรมรัฐบาลพิเศษ เพื่อสร้างความสมานฉันท์ อาจจะไม่ใช่เรื่องจริง เหตุผลหลักที่ “แดง-เหลือง” ต้องมาผนึกจับมือกันตั้งรัฐบาล เพราะทั้ง “แดง-เหลือง” ต่างมีศัตรูตัวใหม่ที่น่ากลัวกว่าคือ “พรรคก้าวไกล-ด้อมส้ม” ซึ่งเติบโตทางการเมืองอย่างรวดเร็ว

ที่สำคัญสามารถเผยแพร่อุดมการณ์ทางการเมือง จุดยืนทางการเมือง ฝังรากหยั่งลึกลงไปในจิตใจของ “แฟนคลับ-ฐานเสียง” จนยากเกินจะหยุดยั้ง เพราะโลกการรับรู้ข้อมูลข่าวสารไร้ขีดจำกัด การเติบโตของ “ด้อมส้ม” จึงยากจะคุมกำเนิด

การจับมือกันเฉพาะกิจของ “แดง-เหลือง” ต้องติดตามว่าจะสามารถจัดการกับ “ด้อมส้ม” ได้อย่างไร “ทักษิณ-หัวขบวนแดง” จะกอบกู้ความนิยมของตัวเองให้กลับมาพุ่งสูงขึ้นได้หรือไม่ “หัวขบวนอนุรักษ์นิยม” จะมีวิธีการบริหารจัดการ “ด้อมส้ม” อย่างไรไม่ให้เติบโตขึ้นกว่าเดิม

เดิมพันของ “ทักษิณ-หัวขบวนอนุรักษ์นิยม” จึงสูงลิบ แม้มีเวลา 4 ปีให้อยู่ในสถานะรัฐบาล สามารถสร้างคะแนนนิยมผ่านการใช้อำนาจรัฐ หากฟื้นเศรษฐกิจสำเร็จ หากเพิ่มเงินในกระเป๋าประชาชนได้ ก็อาจจะสามารถฟื้นคะแนนนิยมของตัวเอง

แต่หาก “ทักษิณ-หัวขบวนอนุรักษ์นิยม” ไม่สามารถทำได้อย่างที่คาดหวัง ทุกอย่างจะไหลไปเข้าทาง “ก้าวไกล-ด้อมส้ม” ทันที การเลือกตั้งครั้งหน้ายิ่งจะยากรับมือกับกระแส “ส้ม” แม้วันนนี้จะโดน “แดง-เหลือง” โดดเดี่ยวก็ตาม