‘Swatch X Omega’ นาฬิกาที่ ‘ทักษิณ’ เลือกใส่ หลังเหยียบแผ่นดินมาตุภูมิ
ไม่ใช่ “Patek Philippe” แล้ว! หลัง “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรีกลับไทย ความสนใจพุ่งเป้าไปยังการปรากฏตัวทันที หนึ่งในนั้นคือ “นาฬิกาข้อมือ” พบ มีการเปลี่ยนจากนาฬิการ้อยล้านสู่ “Swatch X Omega” สนนราคาขาย 8,700 บาท แต่ราคารีเซลพุ่งพรวดหลักหมื่น
การกลับมาประเทศบ้านเกิดในรอบ 15 ปี ภายหลังการทำรัฐประหารปี พ.ศ.2549 ของอดีตนายกรัฐมนตรี “ทักษิณ ชินวัตร” กลายเป็นประเด็นร้อนที่ได้รับความสนใจตลอดทั้งวัน ตั้งแต่การประกาศกลับประเทศ การติดตามเที่ยวบินมายังประเทศไทย รวมถึงรายละเอียดเล็กๆ น้อยๆ อย่างการแต่งกาย-เครื่องประดับที่เลือกใช้ โดยเฉพาะนาฬิกาข้อมือที่มีการเปลี่ยนจาก “Patek Philippe Grand Chime” นาฬิกาหรูมูลค่า 113 ล้านบาท เป็นนาฬิการุ่น “Swatch X Omega Bioceramic MoonSwatch Mission To Mars” เมื่อถึงสนามบินดอนเมือง สนนราคาขายเปิดตัวที่ 8,700 บาท ที่ปัจจุบันราคารีเซลในท้องตลาดทะลุหลักหมื่นบาทไปเรียบร้อยแล้ว
- รู้จัก “Swact X Omega Bioceramic MoonSwatch”
เดือนมีนาคม ปี 2022 นาฬิกาแบรนด์หรู “Omega” จับมือกับนาฬิกาสายสตรีทแฟชัน “Swatch” ออกคอลเล็กชันพิเศษรุ่น “MoonSwatch” สร้างปรากฏการณ์ห้างแตก โดยก่อนวันเปิดจำหน่ายมีผู้ให้ความสนใจจำนวนมาก ด้วยคอนเซปต์ที่น่าสนใจ หยิบแรงบันดาลใจจากอวกาศมาใช้ออกแบบดีไซน์ตัวเรือนทั้งหมด 11 แบบ จนต้องมีการจำกัดการขายคนละ 1 เรือนเท่านั้น แต่อย่างไรก็ตาม หลังมีกระแสให้ความสนใจเป็นจำนวนมาก ท้ายที่สุดแบรนด์ “Swatch” ก็ตัดสินใจออกมาประกาศยกเลิกการจำหน่ายหน้าร้าน เปลี่ยนเป็นช่องทางออนไลน์แทน
“Swact X Omega Bioceramic MoonSwatch” ทุกรุ่นมาพร้อมสิทธิบัตรของแบรนด์อย่าง “Bioceramic” ที่ตัวนาฬิกาจะมีส่วนผสมของเซรามิกถึงสองในสาม เสริมด้วยน้ำมันละหุ่งอีกส่วนหนึ่ง ออกแบบโดยมีเรื่องราวเชิงลึกจากฝั่ง “Omega” มาแต่งเติมให้การพบกันของนาฬิกาทั้งสองค่ายมีความสมบูรณ์แบบยิ่งขึ้น โดยโมเดลที่นำมาใช้เป็น “ต้นแบบ” มาจากนาฬิการุ่น “Speedmaster” นาฬิกาที่ “นาซ่า” เลือกใช้ในการจับเวลาที่มนุษย์เหยียบดวงจันทร์เป็นครั้งแรกในปี 1969 “Swact X Omega Bioceramic MoonSwatch” จึงตั้งต้นจากการเรื่องราวของระบบสุริยะ สู่ดีไซน์ของดวงดาวทั่วทั้งช้างเผือกที่เรารู้จักกันดี ดังนี้
- Mission to Uranus สีน้ำเงินอ่อนที่อุทิศให้กับเทพเจ้าแห่งท้องฟ้าของกรีก
- Mission to Pluto อุทิศให้กับดาวเคราะห์แคระ ด้วยสีเทาและสีเบอร์กันดี
- Mission to Venus เฉลิมฉลองให้กับดาวเคราะห์แห่งความรักด้วยสีพาวเดอร์พิ้งค์และหน้าปัดย่อยทรงรี
- Mission to Saturn เรือนสีเบจอันงดงามและวงแหวนดาวเสาร์ที่ตำแหน่ง 6 นาฬิกา
- Mission to Mars นาฬิกาสีแดงดุดันกับชุดเข็ม “Alaska Project”
- Mission to Neptune เฉลิมฉลองให้กับดาวเคราะห์ยักษ์น้ำแข็งด้วยสีน้ำเงินเข้ม
- Mission on Earth ชวนระลึกถึงดวงดาวอันล้ำค่าของเราด้วยสีน้ำเงินและเขียว
- Mission to the Sun ดาวเด่นประจำคอลเล็กชันในสีทองซันบรัชสุกปลั่ง
- Mission to Mercury สีของดาวพุธเทาเข้มที่เข้ากับนาฬิกาอย่างลงตัว
- Mission to the Moon สีผิวของดวงจันทร์บนนาฬิกาสุดคลาสสิค
- Mission to Jupiter สีบรอนซ์ทองอันสวยงามกับเข็มสีที่คล้ายกับสีส้มจากอุลตร้าแมน
-นาฬิกา “Swact X Omega Bioceramic MoonSwatch” รุ่น Mission to Mars ที่ทักษิณใส่-
- ไม่ใช่นาฬิกาลิมิเต็ด ปัจจุบันยังมีขาย
แม้แบรนด์จะสื่อสารตั้งแต่เริ่มต้นว่า นาฬิการุ่นนี้ไม่ได้เป็น “Limited Edition” ยังคงมีการผลิตออกมาจำหน่ายเรื่อยๆ แต่ด้วยความพิเศษของการทำงานร่วมกันของทั้งสองแบรนด์ ดีไซน์ที่มีเรื่องราวแฝงอยู่เบื้องหลัง กระแสความสนใจที่พุ่งสูง รวมถึงการจำกัดการผลิตและวางขายหน้าร้านด้วยจำนวนน้อยชิ้น จึงทำให้ราคารีเซลในช่วงแรกดุเดือดอย่างมาก โดยพบว่า ในช่วง 1-2 เดือนแรกที่มีการเปิดตัววางจำหน่ายนั้น นาฬิกา “Swact X Omega Bioceramic MoonSwatch” ราคาพุ่งสูงมากถึงเรือนละ 80,000 บาท ในอังกฤษเคยมีราคารีเซลสูงถึงหลักแสนบาทก็มีเช่นกัน เรียกว่า ความนิยมของปรากฏการณ์นี้แผ่ขยายไปทั่วโลกเลยก็ว่าได้
อย่างไรก็ตาม ปัจจุบันหากเข้าไปดูที่หน้าเว็บไซต์ทางการของ “Swatch” จะพบว่า ยังมีนาฬิการุ่นดังกล่าววางขายครบทุกสี ปัจจุบันสนนราคาที่เรือนละ 9,300 บาท ใครเป็นแฟนนาฬิกาทั้งสองแบรนด์ ยังมีความชื่นชอบเป็นการส่วนตัวก็สามารถไปหาซื้อมาใส่กันได้ แต่ถ้าคิดจะซื้อเพื่อเก็งกำไรลงทุนในอนาคตก็อาจจะไม่เหมาะเสียแล้ว เพราะปัจจุบันแบรนด์ยังคงผลิตออกมาต่อเนื่อง และไม่ได้มีการประกาศว่า จะหยุดผลิตและจำหน่ายในเร็วๆ นี้
อ้างอิง: Bangkokbiznews, Bloomberg, Brand Buffet, South China Morning Post, Swatch