เปิดสูตรแบ่งโควตา ปธ.กมธ. พบ มีแค่ 8 พรรคได้สิทธิ "ก้าวไกล - เพื่อไทย" ได้เท่ากัน 10 ที่

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า หลังจากที่พรรคก้าวไกล เรียกร้องให้ นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ แบ่งโควตากรรมาธิการสามัญ (กมธ.) 35 คณะ เพื่อให้มีกลไกของสภาฯ ทำงานเพื่อแก้ปัญหาให้ประชาชน

 

ล่าสุด นายวันมูหะมัดนอร์ ให้สัมภาษณ์เมื่อ 28 ส.ค. ระบุว่าในอีก 2-3 วันนี้ จะเรียกพรรคการเมืองหารือถึงการแบ่งโควตาดังกล่าว โดยมี นายพิเชษฐ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาฯ คนที่สอง ซึ่งมีหน้าที่รับผิดชอบเป็นผู้ดำเนินการ

 

ทั้งนี้มีรายงานข่าวจากสภาฯ ระบุว่าการจัดสรรโควตา กมธ. นั้นจะเป็นไปตามสัดส่วนของ สส. ในแต่ละพรรคการเมือง ที่มีการคำนวณตามสูตร จำนวน กมธ. ทั้งหมด ที่มี 535 คน คูณด้วย จำนวน สส. แต่ละพรรคการเมือง และหารด้วย จำนวน สส.ที่มี 499 คน

 

ทำให้มี พรรคการเมืองที่ถึงเกณฑ์รับตำแหน่ง ประธาน กมธ. รวมทั้งสิ้น 8 พรรคการเมือง คือ  

• พรรคก้าวไกล ได้เท่ากับพรรคเพื่อไทยคือ พรรคละ 10 คณะ
• พรรคภูมิใจไทย 5 คณะ
• พรรคพลังประชารัฐ 3 คณะ
• พรรครวมไทยสร้างชาติ 3 คณะ
• พรรคประชาธิปัตย์  2 คณะ
• พรรคชาติไทยพัฒนา 1 คณะ
• พรรคประชาชาติ 1 คณะ

รายงานข่าวระบุอีกว่า การจัดสรรประธาน กมธ. ในแต่ละคณะ พรรคฝ่ายรัฐบาล พรรคฝ่ายค้าน ต้องนำมาหารือเพื่อตกลงกันอีกครั้งว่า พรรคใดจะได้ประธาน กมธ. คณะใดบ้าง โดยเฉพาะ สส. จากพรรคร่วมรัฐบาลคาดว่าจะมีผู้แสดงเจตจำนงในโควตาประธาน กมธ. ที่ตรงกับรัฐมนตรีของพรรค ที่ได้ทำงานในกระทรวงๆ นั้น เพื่อให้เกิดการทำงานสอดประสานร่วมกันได้อย่างมีประสิทธิภาพ  

ผู้สื่อข่าวรายงานด้วยว่าตามธรรมเนียมที่เคยปฏิบัติมาทุกสมัย การจัดสรรโควตา ประธาน กมธ.ให้แต่ละพรรคนั้น จะดำเนินการหลังจากที่มีการจัดสรรโควตารัฐมนตรีแล้วเสร็จและมีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ตำแหน่งรัฐมนตรีในกระทรวงต่างๆ ให้แล้วเสร็จ เพื่อให้การจัดสรรโควตา ปธ.กมธ. เป็นไปตามโควต้ากระทรวงที่พรรคการเมืองนั้นๆ ได้รับ  

 

ทั้งนี้ต้องจับตาว่าหากการจัดสรรโควตาที่พรรคก้าวไกลได้รับมากกว่าพรรคการเมืองอื่น ที่เป็นพรรคร่วมรัฐบาลอาจจะเบียดโควตาประธาน กมธ. ของพรรคดังกล่าวได้ ซึ่งอาจจะส่งผลให้การตรวจสอบถ่วงดุลในกลไกของ กมธ. สภาฯ มีความเข้มข้นมากขึ้น.

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์