'กฤษฎา'โผล่ รทสช. พบ 'พีระพันธุ์' จับตานั่ง รมช.คลัง
รทสช. ถกเครียดเกือบ 3 ชม. โยน "พีระพันธุ์" เลือก 3 คนนั่งเก้าอี้รัฐมนตรี เผย คนนอกนั่ง รมช.คลัง ยันพรรคไม่แตก ด้าน 'กฤษฎา'โผล่พบ หัวหน้าพรรค
เมื่อเวลา 19.00 น. วันที่ 28 ส.ค. ที่พรรครวมไทยสร้างชาติ (รทสช.) นายเอกนัฏ พร้อมพันธุ์ เลขาธิการพรรครวมไทยสร้างชาติ ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะกรรมการบริหารพรรค ใช้เวลาประชุมเกือบ 3 ชั่วโมง ว่า วันนี้ได้มีการร่างหลักเกณฑ์ในการพิจารณาตัวบุคคลไปรับตำแหน่งรัฐมนตรี โดยหัวหน้าพรรคได้นำร่างหลักเกณฑ์นี้มาให้คณะกรรมการบริหารพรรคพิจารณา ถือเป็นหลักเกณฑ์ทั่วไป ซึ่งกำหนดว่าผู้ที่จะไปนั่งรัฐมนตรีของพรรคต้องมีคุณสมบัติอย่างไร ทั้งนี้มติเห็นว่าส่วนบุคคลแต่ละตำแหน่งให้หัวหน้าเป็นผู้พิจารณาและส่งชื่อให้กับพรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาล
ผู้สื่อข่าวถามว่า เป็นการมอบให้หัวหน้าโดยที่คณะกรรมการบริหารพรรคไม่มีความเห็นเลยใช่หรือไม่ นายเอกนัฏ กล่าวว่า เป็นการให้ไปพิจารณาตามหลักเกณฑ์ที่ได้ให้ไว้ เมื่อถามว่า ในที่ประชุมได้มีการพิจารณาตัวบุคคลด้วยหรือไม่ นายเอกนัฏ กล่าวว่า ที่ประชุมได้เห็นด้วยกับการที่หัวหน้าพรรคจะไปรับตำแหน่งรองนายกฯควบรมว.พลังงาน ทั้งนี้พรรครวมไทยสร้างชาติ มี 4 กระทรวง ประกอบด้วย รมว.พลังงาน รมว.อุตสาหกรรม รมช.เกษตรและสหกรณ์ และรมช.คลัง ซึ่ง 3 ตำแหน่ง หัวหน้าพรรคจะเป็นผู้พิจารณา และส่งชื่อให้พรรคแกนนำจัดตั้งรัฐบาล ณ วันนี้ถือเป็นอำนาจของหัวหน้าพรรค
เมื่อถามว่า ที่มีชื่อออกมาทางหน้าสื่อถือเป็นแคนดิเดตที่ทางพรรคได้วางไว้หรือไม่ นายเอกนัฏ กล่าวว่า เป็นการคาดการณ์ ยืนยันว่าให้ความเป็นธรรมกับสส. ทุกคนทุกพื้นที่อย่างเท่าเทียม ซึ่งการพิจารณาความอาวุโส ความเหมาะสมประสบการณ์ การทุ่มเททำงานให้กับประชาชนตรงนี้ถือเป็นหลักที่วางไว้
เมื่อถามว่า มีคนนอกเข้ามาร่วมหรือไม่ นายเอกนัฏ กล่าวว่า มีได้ เช่น กระทรวงการคลัง เป็นต้น เพราะอาจจะต้องมีความรู้ความสามารถเฉพาะตัวและเฉพาะด้านด้วย โดยมอบอำนาจให้หัวหน้าสามารถพิจารณาคนนอกได้
เมื่อถามว่า จะส่งชื่อทั้งหมดให้กับพรรคแกนนำได้เมื่อไหร่ นายเอกนัฏ กล่าวว่า ตอนนี้กำลังพิจารณาไม่นานก็คงรู้แล้ว คืนนี้ก็เป็นไปได้ที่จะส่งชื่อ เมื่อถามว่า มีอดีตนายแบงค์เข้ามาเป็นรัฐมนตรีหรือไม่ นายเอกนัฏ กล่าวว่า ยังไม่รู้ ต้องถามหัวหน้าพรรค เมื่อถามว่ากรณีที่มีข่าวจะให้ มล.ชโยทิต กฤดากร สส.บัญชีรายชื่อ และนางพิชชารัตน์ เลาหพงศ์ชนะ สส.บัญชีรายชื่อ เป็นรัฐมนตรีและเจ้าตัวปฏิเสธไปแล้วจริงหรือไม่ นายเอกนัฏ กล่าวว่า ไม่ใช่ไม่รับ จริงๆยังไม่เคยมีการพิจารณาหรือส่งชื่อไปก่อนหน้านี้เลย ฉะนั้นข่าวที่ออกมาก่อนหน้านี้ เป็นเพียงการคาดการณ์เท่านั้น ที่พูดว่าส่งไปแล้วดึงกลับมาใหม่ เคาะแล้วเปลี่ยนใหม่ ไม่เป็นความจริง เพราะกระบวนการทั้งหมดมีกระบวนการเดียว ชื่อที่จะถูกพิจารณามีครั้งเดียว และส่งครั้งเดียวส่งแล้วไม่มีดึงกลับ ไม่ได้เป็นไปตามที่มีข่าวลือออกไป และยืนยันว่าไม่มีการให้สมาชิกพรรคโหวต เป็นการมอบสิทธิ์ให้หัวหน้าพิจารณา ทั้งนี้ตามข้อบังคับพรรคเราสามารถเปิดให้สมาชิกโหวตได้ แต่เมื่อเสนอชื่อมาก็เป็นอำนาจกรรมการบริหารพรรค
เมื่อถามว่า ในพรรคมีความขัดแย้งเรื่องตำแหน่งหรือไม่ ถึงทำให้ไม่ลงตัว นายเอกนัฏ กล่าวว่า ไม่มี จำนวนที่นั่งที่เราได้ ต้องเข้าใจว่านักการเมืองทุกคนอยากเป็นรัฐมนตรี และมีคนอยากเป็นมากกว่าตำแหน่งที่ได้ แต่ตอนนี้ได้มีการสื่อสารถึงสส.ทุกคนแล้ว ว่าการพิจารณาจะให้ความเป็นธรรม ซึ่งตนได้พูดคุยแล้วรวมถึงคนที่อยากเป็นแล้วไม่ได้เป็นแล้วผิดหวัง ทุกคนยืนยันกลับมาเหมือนกันจะทำงานต่อให้กับพรรคโดยหวังจะให้พรรคเติบโตขึ้นไปเรื่อยๆ ในอนาคตถ้าพรรคเติบโตประสบความสำเร็จเราก็จะมีตำแหน่งมากขึ้น ใครอยากเป็นรัฐมนตรีก็จะมีโอกาสได้รับการพิจารณา
เมื่อถามย้ำว่า ตกลงจะมีคนนอกเข้ามาใช่หรือไม่ นายเอกนัฏ กล่าวว่า มีได้ ทั้งหมดเป็นดุลพินิจของหัวหน้าพรรค โดยพิจารณาตามความเหมาะสม แต่ถ้าเป็นไปได้จะให้ความสำคัญกับสส.ในพรรคโดยเฉพาะกับสส. เขต ทั้งนี้ต้องดูสถานการณ์ภาพรวมรวมถึงองค์ประกอบของรัฐบาล และนโยบายที่เราพยายามผลักดัน เพราะในที่สุดการไปดำรงตำแหน่งไม่ใช่การตอบแทนสส. ดังนั้นบางตำแหน่งต้องเลือกคุณสมบัติพิเศษมาเพื่อผลักดันนโยบายพรรค เชื่อว่าในที่สุดทั้ง 4 คนจะเกิดความสมดุลย์ มีทั้งสส.และผู้บริหารพรรค และบางส่วนดึงคนนอกมา
"กับสส.ในพรรคผมได้คุยตลอดเวลา ทุกคนบอกแล้วแต่กรรมการบริหารพรรค และหัวหน้า เลขาฯ ไม่ว่าผลจะออกมาเป็นอย่างไรทุกคนเข้าใจดีเพราะมีคนอยากเป็นมากกว่าตำแหน่งที่ได้ และยืนยันจะทำงานร่วมกับพรรค ให้โตต่อไปไม่มีความแตกแยกแน่นอน เรื่องในบ้านมีความเห็นต่างเป็นเรื่องปกติ แต่ในที่สุดพรรคเราวันนี้มีความเข้มแข็ง ทุกคนมีความหวังพรรคจะมีอนาคตต่อไป เป็นสถาบันการเมืองไม่มีใครแตกแถวหรือแตกแยก ในฐานะผมเป็นแม่บ้านของพรรคเรื่องสมาชิกงอแงเป็นเรื่องธรรมดา อยู่ในบ้านเดียวกันมีคนบ่นปัญหาชีวิต มีตลอดอยู่แล้ว ในฐานะที่เป็นแม่บ้านมีสส. 36 คนก็มีปัญหาคนละแบบมาบ่นกับผมตลอด แต่ไม่ว่าจะมีปัญหาหรือความคิดเห็นต่างกันอย่างไร จะไม่นำไปสู่ความแตกแยกในพรรคแน่นอน และไม่มีใครแตกออกไปแน่นอน ผมขอยืนยันเพราะได้คุยกับทุกคนแล้ว" นายเอกนัฏ กล่าว
ทั้งนี้มีรายงานว่าสำหรับคนนอกที่อยู่ระหว่างการพิจารณาเป็นอดีตนายแบงค์
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อเวลา 19.50 น. นายกฤษฎา จีนะวิจารณะ เดินทางเข้าที่ทำการ พรรครทสช. โดยมีสีหน้าตกใจที่เจอผู้สื่อข่าว และปฏิเสธให้สัมภาษณ์ บอกแต่เพียงว่ามาพบหัวหน้าพรรค
ต่อมาเวลา 20.10 น. นายกฤษฎา ได้ลงมาจากห้องทำงานของนายพีระพันธุ์ พร้อมถือซองเอกสารสีน้ำตาลลงมาด้วย โดยนายกฤษฎาพยายามปฎิเสธตอบคำถามสื่อมวลชน เมื่อถามย้ำว่าได้ส่งคุณสมบัติในการเป็นรัฐมนตรีหรือยัง นายกฤษฎา กล่าวปฏิเสธว่า ยังครับ มาพูดคุยเรื่องงานเฉยๆ เมื่อถามว่า สรุปเป็นว่าที่รัฐมนตรีในโควตาของพรรคเพื่อไทยหรือพรรครวมไทยสร้างชาติ นายกฤษฎา หัวเราะพร้อมก้าวขึ้นรถ และ กล่าวว่า ตอนนี้ยังๆครับ เมื่อถามย้ำว่า แล้วท่านปลัดจะส่งให้มีการตรวจสอบคุณสมบัติเมื่อไหร่ นายกฤษฎา หัวเราะอีกครั้งพร้อมกล่าวว่า ก็ตอนนี้ยังเป็นปลัดอยู่ครับ ก่อนให้คนขับรถออกไปทันที