"ศศิน" หวั่น "พัชรวาท" คุม "ทส." รวบอำนาจ กระทบงานอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม
"ศศิน" ห่วง โผครม. "พัชรวาท" นั่งรองนายกฯ ควบ รมว.ทรัพยากรฯ หวั่น รวบการตัดสินใจไว้คนเดียว ไม่เคยมีแบบนี้ ชี้ โครงการสำคัญ มีหลายคณะถ่วงดุล กลไกเดิม ลุงป้อม-ลูกท็อป รวมร่างในน้องลุง แถมมี "ธรรมนัส" คั่ว รมว.เกษตรฯ คุมหน่วยงานสร้างเขื่อน
นายศศิน เฉลิมลาภ นักวิชาการด้านสิ่งแวดล้อม โพสต์เฟซบุ๊คส่วนตัวระบุถึงโผครม. โดยเฉพาะตำแหน่งรมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) ที่มีชื่อพล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ ประธานที่ปรึกษาพรรคพลังประชารัฐ ดำรงตำแหน่ง ว่า เรื่องที่เกี่ยวข้องกับระบบบริหารจัดการทรัพยากรและสิ่งแวดล้อม ถ้าคุณพัชรวาท เป็นรองนายกควบ รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม คือ การรวบการตัดสินใจทั้งหมดไว้ที่คุณพัชรวาทคนเดียว ก่อนนี้ไม่เคยมีแบบนี้
รัฐมนตรีกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ดูแลระบบการจัดการสิ่งแวดล้อมในระดับปฎิบัติ และส่งต่อการตัดสินใจสำคัญให้โครงสร้างกรรมการระดับชาติ ในคณะกรรมการสิ่งแวดล้อมแห่งชาติ ที่มีรองนายกฯ ที่ได้รับมอบหมายหน้าที่มาดูแล เป็นประธานดำเนินการประชุมเพื่อมีมติตัดสินใจผ่านโครงการไปยัง ครม.
ในบอร์ดนี้มีรัฐมนตรีสิ่งแวดล้อมเป็นรองประธาน ตามหลักการก็จะกรองงานทางวิชาการและความเหมาะสมมาให้ อะไรพอทำได้ อะไรควรเก็บรักษาชะลอไว้ก่อน ก็มาจากหน่วยงานปฎิบัติในกระทรวง ประธานสิ่งแวดล้อมชาติมาขอมติให้ผ่านไปถึง ครม. ก็หมายความว่าคงต้องทำแน่ถ้าไม่ติดอะไรทางเทคนิคอีก
ยกตัวอย่างชุดที่แล้ว มีคุณท๊อป นายวราวุธเป็น รัฐมนตรีที่ว่า มีลุงป้อม พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ เป็นรองนายกฯ กำกับดูแล และเป็นประธานกรรมการสิ่งแวดล้อมชาติ ระบบปกติก็จะเป็นแบบนี้
มีการทักท้วงถ่วงดุลด้านสิ่งแวดล้อมในกรรมการชาติหลายครั้ง เช่น ขยายถนนผ่านป่าอุทยานน้ำหนาว หรือการสร้างเขื่อนวังโตนดในป่าอุทยานเขาสิบห้าชั้น แรกๆ กรรมการสิ่งแวดล้อมเบรคทั้งสองโครงการแม้ผ่าน EIA แล้ว
ปลายรัฐบาล ลุงป้อมที่เป็นประธานกรรมการน้ำแห่งชาติด้วย ก็มีข่าวว่าหน่วยงานสร้างเขื่อนก็เร่งผลักดันโครงการเขื่อนมาทางลุง และก็เอามาผ่านโครงการเขื่อนในอุทยานเขาสิบห้าชั้นในกรรมการชาติ
แต่ปัจจุบันก็ยังติดขั้นตอนเล็กๆที่ไป ครม. ไม่ได้ เพราะกรรมการอุทยานแห่งชาติที่ยังมีคุณวราวุธเป็นประธานยังไม่มีมติเพิกถอนพื้นที่น้ำท่วม เพราะยังมีข้อมูลด้านผลกระทบต่อป่าที่สำคัญและขยายปัญหาช้างป่า ออกนอกพื้นที่หากน้ำท่วมตรงนี้
ซึ่งรัฐมนตรีวราวุธที่ใกล้ชิดปัญหาก็ทราบดี จึงมิได้เร่งผลักดันให้ผ่าน แม้ว่าช่วงหาเสียง ลุงป้อมผู้ซึ่งไม่รู้ ก็โดนหน่วยงานสร้างเขื่อนพาทัวร์ไปหาเสียงสร้างแหล่งน้ำ
คราวนี้กลไกทั้งลุงป้อมและลูกท๊อป ถูกรวมร่างมาในตัวคุณพัชรวาท น้องลุงป้อม
แล้วมีร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า เลขาธิการพรรคพลังประชารัฐ มากำกับดูแลหน่วยงานสร้างเขื่อนอย่างกระทรวงเกษตรและสหกรณ์
นี่เป็นข้อสังเกตสำคัญ ต่อโผ ครม. ของผมครับ หมดวาระการทำงานที่มูลนิธิสืบฯแล้ว ผมจะขอทำงานแบบนี้ ที่ใช้ประสบการณ์ส่งสัญญาณบอกสังคมและคนทำงานอนุรักษ์รุ่นใหม่ ตามประสาผู้ผ่านประสบการณ์มายาวนานะครับ