"สว." เสนอแก้รธน. ปลดล็อก เว้นวรรคการเมือง หวังลงสมัครเป็นสว.ชุดหน้าได้

"สว." เสนอแก้รธน. ปลดล็อก เว้นวรรคการเมือง หวังลงสมัครเป็นสว.ชุดหน้าได้

"วุฒิสภา" พิจารณารายงาน กมธ.การเมืองฯ ชี้ควรมีวุฒิสภาทำหน้าที่ถ่วงดุล เสนอเพิ่มอำนาจ พบข้อเสนอหนุนแก้รธน. ปลดล็อกเงื่อนไข สว.ปัจจุบันต้องเว้นวรรคการเมือง2ปี-ห้ามลงสมัครสว.ชุดหน้า

ผู้สื่อข่าวรายงาน ถึงการประชุมวุฒิสภา ที่มีนายพรเพชร วิชิตชลชัย ประธานวุฒิสภา เป็นประธานที่ประชุม ได้พิจารณารายงานของคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การพัฒนาการเมืองและการมีส่วนร่วมของประชาชน เรื่อง วุฒิสภา : ความสำคัญและบทบาทในการปกครองระบบรัฐสภาไทย

 

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าข้อเสนอตามรายงานของกมธ.ฯ  ยืนยันให้รัฐสภา เป็นแบบ 2 สภาฯ คือ สภาผู้แทนราษฎร  และวุฒิสภา เพื่อให้มีวุฒิสภาเพื่อทำหน้าที่ตรวจสอบถ่วงดุลกับฝ่ายสภาฯ และตรวจสอบฝ่ายบริหาร และเสนอให้ทบทวนเนื้อหาในรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560  ในบทบัญญัติที่เกี่ยวข้องกับการได้มาซึ่ง สว.ที่มาจากการเลือกกันเองตามกลุ่มและอาชีพ  ใน 3 ประเด็น ได้แก่

 

1.สว. 200 คน ที่มีคุณสมบัติแตกต่าง มีความเชี่ยวชาญ ความรู้ ความสามารถและประสบการณ์ จำกัดอายุ และมีสุขภาพแข็งแรงสามารถปฏิบัติหน้าที่ได้อย่างเต็มที่ ดำรงตำแหน่งวาระ 5 ปี สามารถกลับมาทำหน้าที่ได้อีกวาระหนึ่ง โดยไม่รวมวาระแรกของสว.ชุดปัจจุบัน เพื่อไม่ให้มีผลต่อการปฏิบัติงานในระยะต้น ทั้งนี้กำหนดสว.ไม่ควรเป็นติดต่อกันเกิน 2 วาระ

2.ปรับคุณสมบัติของสว.ที่มาจากกลุ่มต่างๆ  20 กลุ่ม โดยวิธีเลือกกันเองห้ามเกี่ยวข้องกับพรรคการเมือง อย่างน้อย 5 ปีเพื่อให้ดำรงความเป็นกลาง  รวมถึงกำหนดลักษณะต้องห้ามของสว. ห้ามบุคคลอายุเกิน 85 ปี มีสุขภาพแข็งแรง

 

3.ให้บทบาทสำคัญในการเสนอและกลั่นกรองกฎหมาย ตรวจสอสบถ่วงดุลการทำงานของรัฐบาล และหน้าที่อื่นๆ เช่น มีอำนาจถอดถอนนักการเมือง และผู้ดำรงตำแหน่งระดับสูง

 

“กระบวนการได้มาของสว.ชุดถัดไปไม่สามารถป้องกันระบบทุนและพรรคการเมือง โดยเชื่อว่าจะมีการแข่งขันซื้อตัวบุคคลและสร้างเครือข่ายตั้งแต่ระดับอำเภอและระดับจังหวัด ผ่านกลุ่มการเมืองท้องถิ่น ดังนั้นการ สว.ควรมีที่มาจาก 3 ส่วน คอื สรรหาผู้ทรงคุณวุฒิ และผู้เชี่ยวชาญกการเลือกตั้งแต่ละจังหวัดและเลือกจากการกลุ่มอาชีพ เพื่อให้สว.มีความหลากหลายและเติมเต็มให้สมบูรณ์” รายงานกมธ.การเมือง วุฒิสภา ระบุ

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าในการนำเสนอรายงานของกมธ.ฯ ดังกล่าวมีผู้อภิปรายและเสนอความเห็นเพื่อปรับปรุงเนื้อหาจำนวนหนึ่ง พร้อมกับสนับสนุนการปรรับแก้ไขรัฐธรรมนูญ พ.ศ.2560  ที่ควรให้สว.ชุดปัจจุบันมีส่วนร่วม

 

โดย ว่าที่ร้อยตรี วงศ์สยาม เพ็งพาณิชภักดี  เลขานุการ กมธ. อภิปรายด้วยว่า สำคัญต้องมีเพื่อถ่วงดุลอำนาจในรัฐสภา  ทั้งนี้ในเดือนพ.ค.67 สว.ชุดปัจจุบันจะหมดวาระและมีการเลือกตั้ง ตามกลุ่มความเชี่ยวชาญ สาขาอาชีพ ทั้งนี้อาจมีบางกลุ่มของบางจังหวัดไม่มีตัวแทนเข้ามาสู่วุฒิสภา อย่างไรก็ดีตนขอจับตาคุณสมบัติของผู้ที่จะลงสมัคร สว. ว่าจะมีคุณสมบัติตรงกับหน้าที่ปฏิรูป  ยึดโยงประชาชนหรือไม่ ซึ่งตามรายงานของกมธ.การเมืองฯ ตนขอให้เขียนให้ชัดว่าจำเป็นต้องมีสว.

 

“อีก 7 เดือนที่ สว.ต้องเลือกตั้งใหม่ จำเป็นต้องแก้ไขรัฐธรรมนูญ โดยรัฐสภา เพราะ ผบ.เหล่าทัพที่จะได้ตำแหน่ง สว. หากได้รับตำแหน่ง จะเข้ามาทำหน้าที่ 7-8 เดือน หลังจากนั้นต้องติดล็อคอีก 2 ปี ดังนั้นต้องสื่อสารไปให้ชัด อย่างไรก็ดีสว.ผมมองว่าจำเป็นต้องมี เพื่อให้การแก้ไขรัฐธรรมนูญกระทำโดย 2 สภา” ว่าที่ ร้อยตรีวงศ์สยาม อภิปราย

 

ขณะที่ นายนายเสรี สุวรรณภานนท์ สว. ฐานะประธานกมธ.พัฒนาการเมืองฯ ชี้แจงว่าตนเข้าใจ คนหนุ่ม และคนอายุเยอะ คิดไม่ตรงกัน คนหนุ่มคิดว่ามีแรง ส่วนคนแก่คิดมาก และกังวลว่าจะถูกมองว่าทำเพื่อตนเองดังนั้นข้อเสนอที่เสนอมานั้นรวบรวม จุดยืนและความตั้งใจในการทำรายงานดังกล่าวต้องยอมรับว่าสิ่งใดในสังคมจับตามอง ว่าสิ่งที่เสนอในเรื่องนั้นๆ  ทำเพื่อตนเองหรือไม่ หากการใดทำแล้วขัดจริยธรรม ขาดคุณธรรม ขาดความชอบธรรม เพราะหาประโยชน์ใส่ตน สังคมไม่ยอมรับ ข้อเสนอนั้นอาจกระทบคนทำหน้าที่ที่อยากทำหน้าที่ต่อไป แต่เงื่อนไข และคุณสมบัติตามกฎหมายเสนอแบบนี้แต่แรก หากเสนอในช่วงที่เรามีอำนาจหน้าที่อาจไม่ยอมมรับ

\"สว.\" เสนอแก้รธน. ปลดล็อก เว้นวรรคการเมือง หวังลงสมัครเป็นสว.ชุดหน้าได้

“ผมเข้าใจความเห็นที่หลายหลายและประโยชน์การทำหน้าที่ ว่า ทำงานมาแล้วมีประโยชน์จะให้พักทำไม แต่ต้องยืนยันหลักการ ว่าไม่เสนอเพื่อตัวเอง แต่จะเสนอให้คนที่เกี่ยวข้องพิจารณา ผมยืนยันไม่มีเจตนาที่ทำเพื่อตัวเอง” นายเสรี กล่าว