"เดชอิศม์" ย้ำเอกสิทธิ์16ส.ส.โหวต "เศรษฐา" โต้ดีล"ภูมิธรรม" อะไหล่เพื่อไทย

"เดชอิศม์" ย้ำเอกสิทธิ์16ส.ส.โหวต "เศรษฐา" โต้ดีล"ภูมิธรรม" อะไหล่เพื่อไทย

"เดชอิศม์" ย้ำอีกรอบ "16 สส." โหวต "เศรษฐา" ไร้เงื่อนไขร่วมรัฐบาล ปัดดีล "ภูมิธรรม" ขอเป็นพรรคอะไหล่ ลั่นเป็นฝ่ายค้าน100% ยกเหตุปี62 ปชป.เห็นต่างร่วมรัฐบาล "บิ๊กตู่" สุดท้าย ไปนั่งประธานสภาฯ-รมช.

ที่พรรคประชาธิปัตย์ นายเดชอิศม์ ขาวทอง รักษาการรองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ กล่าวภายหลังรับมอบดอกไม้จากตัวแทนพรรค 4 ภาค เพื่อให้กำลังใจกรณีที่มีการยื่นให้ตรวจสอบ 16 สส. พรรคประชาธิปัตย์ ที่ลงมติเห็นชอบ ให้นายเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี ที่เป็นการสวนมติพรรค ว่า ในที่ประชุมพรรคประชาธิปัตย์ได้มีการพูดคุยกันถึงแนวทางลงมติซึ่งมี 3 แนวทางคือไม่เห็นชอบ งดออกเสียง และเห็นชอบ

ซึ่งนายชวน หลีกภัย ส.ส.บัญชีรายชื่อ ขอที่ประชุมลงมติไม่เห็นชอบ ไม่ว่าพรรคจะมีมติอย่างไร แต่ในที่ประชุมพรรคไม่ได้มีการลงมติ และเพิ่งทราบภายหลังว่าการเดินออกจากห้องประชุมของนายชวน ติดภารกิจไปงานศพ และก่อนหน้านี้การเสนอชื่อแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคก้าวไกล ก็ติดเรื่องมาตรา112

ส่วนแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทยก็มีกระแสจะล้มอีก แต่เห็นว่าการไม่มีรัฐบาล จึงตกลงกันว่า เมื่อ3 เสาหลักพรรค โหวตงดออกเสียงและไม่เห็นชอบ ซึ่งก็ลังเลว่าเป็นมติพรรคหรือไม่ จึงตัดสินใจโหวตเห็นชอบ พร้อมเห็นว่าพรรคประชาธิปัตย์แปลกตรงที่เสียงส่วนน้อยจะดังกว่าเสียงส่วนมาก และอดีตสส. หรือ สส. สอบตกจะมีเสียงดังกว่า สส. สอบได้ คนที่อยู่นอกพรรคเสียงดังกว่าคนในพรรค เราจึงมาบวชทีหลังโดยไม่ได้ตรวจสอบว่าคะแนนผ่านหรือไม่ผ่าน แต่เหตุผลที่ลงมติเพราะอยากให้ประเทศเดินหน้าได้

ส่วนที่พูดว่าไปขอร่วมรัฐบาลไม่อายเขาหรือไม่นั้น ยืนยันเป็นครั้งที่ร้อยว่าตัว สส. ไม่มีอำนาจในการเข้าร่วมรัฐบาลกรรมการบริหารพรรค ตัวบุคคลก็ไม่มีอำนาจ หลักของประชาธิปัตย์คือต้องเทียบเชิญมา ประชุมร่วมกัน แล้วลงมติ

พร้อมยกตัวอย่างการเลือกตั้งปี 2562 ที่พรรคมีการถกเถียงกันมาก โดยนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะและนายสาธิต ปิตุเตชะ ได้คัดค้าน ไม่อยากร่วมรัฐบาล หรือส่งเสริมพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา หรือ สืบทอดเผด็จการ ถกเถียงกัน 1 วัน 1 คืน สุดท้ายจบตรงลงมติ 61 คน ขอให้ร่วมรัฐบาลเพื่อให้เดินหน้าไปได้

ส่วนอีก 16 คนเห็นว่ามีคนร่วม แต่ผลสุดท้ายคุณสาธิต ก็มารับตำแหน่งในรัฐมนตรี ช่วยว่าการกระทรวงสาธารณสุข นายชวน รับตำแหน่งประธานสภาฯ ส่วนที่ตนบอกว่าใครไม่โหวตใครรับไม่ได้ แล้วออกไปหมายถึงนายอภิสิทธิ์ เวชชาชีวะ ไม่ได้ตั้งใจมาพูดในวันนี้เพื่อขับไล่ใคร จึงขออย่านำเรื่องอื่น มาโยงใยเพื่อทำร้ายให้คนเกลียดชัง 

นายเดชอิศม์ ย้ำว่า จะทำหน้าที่ฝ่ายค้านร้อยเปอร์เซ็นต์ พร้อมขออย่ามองคนอื่นต่ำตัวเองสูง อยากฝากถึงคนประชาธิปัตย์ให้ทุกคนมองมาที่พรรค ทั้ง 360 องศา

นายเดชอิศม์ ยังกล่าวว่า โดยเฉพาะเรื่องที่ได้จำนวนส.ส. ลดลง นโยบายโดนใจประชาชน ตรงต่อความต้องการของประชาชนหรือไม่ ถ้าไม่ต้องปรับต้องแก้ ต้องดูผลการเลือกตั้งในจังหวัดของตัวเอง เขตตัวเอง ต้องดูตัวเองให้ชัดอย่าฟังลิ่วล้อมากเกินไป


"ผู้ใหญ่บางคนที่ไม่ใช้สติและคิด และกาฝากในประชาธิปัตย์ก็มี เป็นใหญ่เป็นโต เพราะเลียแข้งเลียขาผู้ใหญ่ พร้อมเห็นว่าประชาธิปัตย์ต้องกลับมาเริ่มคิดและนับหนึ่งใหม่ อย่าหลงงมงายกับกาฝากบางคน อาจจะโดนติดคุกที่มีเรื่องมีคดี เราอย่าคิดว่าเป็นพรรคอื่นแล้วเราไม่ชอบจะเป็นคนชั่วหมด เป็นประชาธิปัตย์และต้องคนดีทั้งหมด เพราะประชาธิปัตย์มีทั้งเคยติดคุก ความจริงเท่านั้นที่จะพาให้ประชาธิปัตย์ เดินไปข้างหน้าถ้าไม่ยอมรับความเป็นจริงยากมากที่ชนะการเลือกตั้งสมัยหน้า" นายเดชอิศม์ ระบุ

นายเดชอิศม์ ยังเล่าย้อนว่า ตนรอคอยมา 17 ปีเต็ม ๆ ที่จะลงสมัคร สส. พรรคประชาธิปัตย์ ก่อนหน้านั้นมีการทำโพลแข่งกันในเขต 1 สงขลา นายเจือ ราชสีห์ โดยมีนายบัญญัติ บรรทัดฐาน เป็นหัวหน้าพรรค ตนเสนอตัวคิดว่าจะทำโพลแข่งกัน แต่อยู่ ๆ นายบัญญัติ ประกาศนายประพร เอกอุรุ เป็นผู้สมัครสส. เขต 5 สงขลา ทำให้ตนต้องย้ายไปพรรคไทยรักไทย

มาปี 2562 มีผู้สมัครประสงค์อยู่ 3 ท่าน และตนได้ลง เพราะมาจากการทำโพล ต้องขอบคุณนายอภิสิทธิ์ ที่ให้โอกาส และผลเลือกตั้งตนชนะที่หนึ่งของจังหวัดสงขลา

สำหรับเหตุผลที่โหวตให้นายเศรษฐาเป็นนายกฯ นายเดชอิศม์ กล่าวว่า อยากให้ประเทศเดินไปข้างหน้าได้ ตอนนั้นคิดว่าน่าจะไม่ผ่าน วันนี้เราประกาศชัดเจนเราเป็นฝ่ายค้านอย่างมีศักดิ์ศรี ไม่ต้องมากังวลเราเลย ให้ประเทศเดินไปข้างหน้าได้ ยืนยันไม่มีผลประโยชน์ในการโหวต

ข่าวที่ออกว่าตนไปเจรจากับนายภูมิธรรม เวชยชัย รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย นั้น ไม่ได้เจอกับนายภูมิธรรมเลย ตั้งแต่เป็นสส. มาจนถึงวันนี้ ไม่มีโอกาสพบนายภูมิธรรมตัวเป็น ๆ เลย

ส่วนกรณีที่มีสมาชิกพรรคยื่นให้นายจุรินทร์ ลักษณวิศิษฏ์ รักษาการหัวหน้าพรรค ตั้งคณะกรรมการตรวจสอบลงโทษ 16 สส. นายเดชอิศม์ กล่าวว่า ยอมรับได้หมด เพราะตนมาจากประชาชน คือหนึ่งหากประชาชนบอกให้ตนอยู่พรรคนี้ ตนจำเป็นต้องปรับปรุงแก้ไขให้พรรคนี้ดีขึ้น สองหากเห็นว่าไม่ควรอยู่พรรคนี้ ก็พร้อมที่จะไปต่สามถ้าไปแล้วยังไม่พอ ให้ตนเลิกเล่นการเมืองก็ได้ แต่ต้องถามประชาชนเพราะเขามีความคาดหวังในตัวตนและพรรคประชาธิปัตย์ ข้อหนึ่งข้อสองทำได้ แต่ข้อสามทำไม่ได้แน่ เพราะต้องถามประชาชนก่อน

ผู้สื่อข่าวถามย้ำว่า ยืนยันใช่หรือไม่ว่าการโหวตสวนมติพรรค เพราะหวังให้ประเทศเดินหน้า นายเดชอิศม์ กล่าวว่า ยืนยันต่อหน้าพระแม่ธรณีบีบมวยผม เราไม่มีเงื่อนไขและผลประโยชน์ใด ๆ หลังจากโหวตแล้วเราไม่ได้ไปพบใคร เพราะบอกแล้วว่าการร่วมรัฐบาลมี 3 ข้อ ไม่ว่าใครก็ตาม ไม่ว่าจะยิ่งใหญ่มาจากไหน หากอยู่ในพรรคประชาธิปัตย์ต้องได้รับเทียบเชิญ และต้องประชุมร่วมกันแล้วมีมติออกมา ซึ่งสส.ทั้ง 16 คน ได้ไปพูดคุยกันหน้าห้องประชุมว่าจะโหวตให้นายเศรษฐา แต่ก่อนหน้านั้นคุยกันอย่างไม่เป็นทางการ วันนั้นหลายคนบอกโหวตให้เถอะ โดยเสนอในที่ประชุมสส. นายชวน ก็คงได้ยิน และมีหลายคนบอกงดออกเสียง แต่คนที่บอกว่าไม่เห็นด้วยมีนายชวน คนเดียว

ส่วนกังวลหรือไม่หากพรรคจะมีมติออกมาให้ขับ 16 สส. นายเดชอิศม์ กล่าวว่า ไม่กังวล เพราะหลักของประชาธิปไตย เสียงส่วนใหญ่ว่าอย่างไรก็ต้องยอมรับมติ

ผู้สื่อข่าวถามต่อว่ายืนยันใช่หรือไม่ว่าการประชุมสส. พรรคประชาธิปัตย์ ไม่มีมติงดออกเสียงในการโหวตนายเศรษฐา นายเดชอิศม์ กล่าวว่า ตนคิดว่าเป็นอย่างนั้น เพราะนายจุรินทร์ เกรงใจนายชวน เพราะหากโหวตออกมาแล้วจะเป็น 1 ต่อ 24 เสียง จึงบอกว่าอย่าโหวตเลยให้เป็นเอกสิทธิ์ของสส. แต่หลายคนเข้าใจว่าเป็นมติเพราะด้วยความเกรงใจผู้ใหญ่ นั่นคือข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น โดยไม่มีมติออกมาว่างดออกเสียง เพราะถ้าเป็นมติต้องโหวตแข่งกันใน 3 แนวทางนั้น และเสียงส่วนใหญ่ในที่ประชุมดูเหมือนเห็นด้วยกับการงดออกเสียง

ส่วนที่โฆษกที่ประชุมออกมาแถลงว่างดออกเสียงถือเป็นการแถลงผิดใช่หรือไม่ นายเดชอิศม์ กล่าวว่า โฆษกน่าจะเข้าใจเหมือนหลายคนในวันนั้นว่าเป็นมติ เพราะเมื่อประชุมเสร็จทุกคนก็ต่างแยกย้ายกัน และเมื่อลงมติในที่ประชุมรัฐสภาทั้งนายชวน นายบัญญัติ บรรทัดฐาน นายจุรินทร์ ไม่ได้โหวตเหมือนกัน เราจึงยิ่งมั่นใจว่าไม่ได้เป็นมติพรรค

ขณะที่การโหวตเห็นชอบนายเศรษฐา แต่ไม่ได้ร่วมรัฐบาล ถือเป็นการโหวตให้ฟรีหรือไม่ นายเดชอิศม์ กล่าวว่า ไม่ถือว่าฟรี อย่างน้อยประเทศชาติก็ได้ประโยชน์ "เวลาเราเป็นฝ่ายค้านเราก็พูดได้เต็มคำว่า พวกผมให้โอกาสคุณไปใช้แล้วประเทศชาติไม่เกิดประโยชน์ เราเล่นแรงนะครับ"
 

ส่วนตอนมาโหวตให้นายเศรษฐา ได้เสียงเพียงพอแล้ว นายเดชดิศม์ กล่าวว่า ตอนนั้นไม่ได้เช็กเสียง เพราะกลุ่มเราลงมติตอนที่สภาโหวตไปได้แค่ 10% จึงไม่รู้ว่าเสียงพอหรือไม่ แต่เมื่อเสียงเขาครบแล้ว มติเรายังอยู่เหมือนเดิมเราก็โหวตตามนั้น

ส่วนตอนนี้มีตัวกลางมาประสานรอยร้าวบ้างหรือยัง เพราะรัฐบาลก็ได้ไปแล้ว แต่หัวหน้าพรรคและกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ยังไม่ได้ นายเดชอิศม์ กล่าวว่า ยังไม่มีใครมาคุยว่าจะเอาอย่างไร และวันศุกร์นี้จะกลับบ้านที่สงขลา ก็ยังไม่มีคำตอบให้ประชาชนจำนวนมากเลยว่ากรรมการบริหารพรรคจะได้เมื่อไหร่