"ก้าวไกล" พ่ายเสียงข้างมาก เลื่อนวาระถกคำถามประชามติแก้รธน.

"ก้าวไกล" พ่ายเสียงข้างมาก เลื่อนวาระถกคำถามประชามติแก้รธน.

"พรรคก้าวไกล" ชงเปลี่ยนวาระประชุม เลื่อนญัตติถกคำถามประชามติ แก้รธน.พิจารณาก่อน อ้างเดินคุยทุกพรรคแล้ว ด้าน "ครูมานิตย์" ขอนิมนต์อย่ามายุ่งกันอีก ก่อนเสียงข้างมากเอาชนะวาระของ "ก้าวไกล"

ผู้สื่อข่าวรายงานถึงการประชุมสภา ที่มี นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ เป็นประธานที่ประชุม  พบว่านายพริษฐ์ วัชรสินธุ สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล เสนอต่อที่ประชุมให้เปลี่ยนระเบียบวาระ โดยนำญัตติ ขอให้สภาฯพิจารณาเห็นชอบและแจ้งให้ คณะรัฐมนตรี (ครม.) ดำเนินการให้มีการออกเสียงประชามติเพื่อสอบถามความเห็นของประชาชนต่อการจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่  ซึ่งถูกบรรจุในเรื่องที่ค้างพิจารณาลำดับที่ 33 ขึ้นมาพิจารณาก่อน ซึ่งจะไม่มีผลกระทบต่อการพิจารณาวาระอื่นๆที่กำหนดไว้ในระเบียบวาระ

\"ก้าวไกล\" พ่ายเสียงข้างมาก เลื่อนวาระถกคำถามประชามติแก้รธน.

นายพริษฐ์ อภิปรายว่า มีความจำเป็นอย่างยิ่งที่สภาฯ ต้องทำให้เกิดความชัดเจน หลังจากที่สังคมถกเถึยงในประเด็นการแก้ไขรัฐธรรมนูญ ซึ่งอาจจะใช้เวลาดำเนินการจากวันนี้ จนถึงมีรัฐธรรมนูญใหม่ คือ 2 ปี ซึ่งการเสนอคำถามประชามติเดียวกันที่หลายพรรคการเมืองเคยลงมติเห็นชอบแล้วในสภาฯ ชุดที่ผ่านมา  เมื่อ 3 พ.ย. 65 ดังนั้นการเสนอของตนเพื่อยืนยันหลักการของสภาฯ ที่เคยลงมติมาแล้วในรอบที่ผ่านมา

 

“มีความจำเป็นต้องทำให้เกิดความชัดเจน โดยใช้เวทีของสภาฯ เพราะ ครม.ยังไม่มีความชัดเจนว่าจะทำได้โดยเร็วหรือไม่ แม้จะระบุว่าจะทำเรื่องในนัดแรกที่มีการประชุม หรือหาก ครม.ทำได้โดยเร็วต่อการจัดทำประชามติหรือไม่ อย่างไร บทบาทในสภาฯ ที่มีทุกพรรคต้องถกเถียงให้ตรงกัน ในคำถามประชามติที่ควรออกแบบให้ดี” นายพริษฐ์ อภิปราย

 

ทั้งนี้ในกรณีดังกล่าว มีผู้เห็นคัดค้าน โดยนายอรรถกร ศิริลัทธยากร สส.ฉะเชิงเทา พรรคพลังประชารัฐ อภิปรายคัดค้าน เนื่องจากว่า เรื่องที่บรรจุในวาระพิจารณาลำดับก่อนหน้านั้นมีความสำคัญและเร่งด่วนต่อการแก้ปัญหาให้เกษตรกร เช่น ผู้เลี้ยงกุ้ง ซึ่งตนเสนอและบรรจุไว้ในลำดับที่ 3 อย่างไรก็ดีการเลื่อนระเบียบวาระตนไม่ขัดข้อง หากทุกพรรคการเมืองเห็นพ้องต้องกัน ดังนั้นตนไม่เห็นด้วยและต้องการให้คงระเบียบวาระไว้เช่นเดิม

อย่างไรก็ดีนายรังสิมันต์ โรม สส.บัญชีรายชื่อ อภิปรายเพื่อหาทางออกว่าในวันที่ 31 ส.ค. ทราบว่าจะมีการเสนอข้อหารือเพื่อปรึกษาปัญหาของประชาชนในประเด็นเรื่องสินค้าและผลผลิตทางการเกษตรตกต่ำ ดังนั้นอาจใช้โอกาสเพื่อหารือถึงประเด็นกุ้งร่วมด้วยได้ หากนายอรรถกร รับปากว่าในวันพรุ่งนี้ ( 31ส.ค.) จะพิจารณาญัตติเรื่องคำถามประชามติ พรรคก้าวไกลพร้อมถอนญัตติของนายพริษฐ์เพื่อเปลี่ยนระเบียบวาระ

 

ขณะที่นายอรรถกร ตอบโต้ว่า ตนไม่สามารถให้คำสัญญาได้ เพราะตัดสินใจเองไม่ได้ หากจะเปลี่ยนวาระ ต้องหารือกันจะสำเร็จหรือไม่ตนไม่รับรองและขณะนี้มี สส. หลายคนที่ยื่นญัตติไว้ ดังนั้นอย่าแซงดีกว่า อย่างไรกดีมี สส.จากกพรรประชาธิปัตย์และพรรคภูมิใจไทยสนับสนุนนายอรรถกร และขอให้พิจารณาไปตามระเบียบวาระ ทำให้ต้องใช้การลงมติตัดสิน  อย่างไรก็ดีแม้นายวันมูหะมัดนอร์ กดสัญญาณให้แสดงตนแล้ว แต่ยังมีการอภิปรายพาดพิงไปมา ระหว่างพรรคก้าวไกล และพรรคเพื่อไทยรวมถึงพรรครวมไทยสร้างชาติ  ซึ่งพรรคก้าวไกลย้ำว่าได้เดินคุยกับพรรคก้าวไกลและพรรครวมไทยสร้างชาติแล้วไม่มีใครขัดข้อง

 

ทั้งนี้นายครูมานิตย์ สังข์พุ่ม สส.สุรินทร์  พรรคเพื่อไทย ขอใช้สิทธิพาดพิงว่า “อีก 1-2สัปดาห์ ครม.จะมีการประชุมนัดแรกแล้ว ดังนั้นไม่อยากให้หารือซ้ำซาก อย่าพาดพิงพรรคเพื่อไทย พรรคท่านที่เป็นผู้เจริญแล้วจะทำอะไรก็ทำ แต่ขอนิมนต์อย่ามายุ่งกับเขา”

 

จากนั้นได้มีการลงมติ โดยผลการลงมติพบว่า เสียงข้างมาก 262 เสียง ไม่เห็นด้วยกับการเลื่อนระเบียบวาระ ต่อ 143 เสียง ไม่ลงคะแนน 1 เสียง 

ทั้งนี้นายวันมูหะมัดนอร์ กล่าวตอนท้ายว่า ตนเห็นด้วยกับการเลื่อนหรือไม่เลื่อนระเบียบวาระ แต่ขณะนี้ยังไม่มีคณะกรรมการประสานงาน (วิป) ทำให้ไม่มีการหารือร่วมกัน ทั้งนี้การหารือในห้องประชุมถือว่าทำได้ แต่การใช้เวทีวิปจะทำให้ไม่เสียเวลาที่ประชุม.