'เศรษฐา' ลั่นรัฐบาลเทหมดหน้าตัก ชี้มีจำกัดด้านงบประมาณคาดใช้ได้ต้นปีหน้า

'เศรษฐา' ลั่นรัฐบาลเทหมดหน้าตัก  ชี้มีจำกัดด้านงบประมาณคาดใช้ได้ต้นปีหน้า

'เศรษฐา' ลั่นรัฐบาลเพื่อไทยเทหมดหน้าตัก - ชี้มีจำกัดด้านงบประมาณคาดใช้ได้ต้นปีหน้า สั่ง 17 รมต.ห้ามพูดทำไม่ได้ เพราะประชาชนเลือกมาให้ทำงาน

เมื่อเวลา 12.00 น. ที่พรรคเพื่อไทย นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯ และรมว.คลัง ได้เป็นประธานการประชุมรัฐมนตรีพรรคเพื่อไทย รวม 17 คน ก่อนรับประทานอาหารเที่ยงร่วมกัน ประกอบด้วย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และ รมว.พาณิชย์  นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.การต่างประเทศ นางพวงเพ็ชร ชุนละเอียด รมต.ประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายสุทิน คลังแสง  รมว.กลาโหม นางสุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รมว.การท่องเที่ยวและกีฬา นายประเสริฐ จันทรรวงทอง รมว.ดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม นายเสริมศักดิ์ พงษ์พานิช รมว.วัฒนธรรม  นพ.ชลน่าน ศรีแก้ว รมว.สาธารณสุข  นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม

นางมนพร เจริญศรี รมช.คมนาคม นายสุรพงษ์ ปิยะโชติ รมช.คมนาคม  นายเกรียง กัลป์ตินันท์ รมช.มหาดไทย นายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง นายจักรพงษ์ แสงมณี รมช.การต่างประเทศ นายไชยา พรหมา รมช.เกษตรและสหกรณ์  และ นพ.พรหมินทร์ เลิศสุริย์เดช ประธานคณะกรรมการนโยบายพรรคเพื่อไทย ว่าที่เลขาฯ นายกฯ 

นายเศรษฐา กล่าวว่า เป็นครั้งแรกที่พบกันอย่างเป็นทางการ ซึ่งน่ายินดีว่าพรุ่งนี้ (5 ก.ย.) เรามีถวายสัตย์ฯ ทุกคนก็ทราบขั้นตอนแล้วว่าเป็นอย่างไรบ้าง ตนเคยพูดว่าเราเป็นรัฐบาลภายใต้การนำของพรรคเพื่อไทย จากนี้ต่อไปตนจะระวังคำพูด เพราะเราเป็นรัฐบาลของประชาชนที่มีพรรคร่วม 11 พรรค เพื่อเป็นการให้เกียรติพรรคร่วมรัฐบาล ตรงนี้เป็นเรื่องที่สำคัญ เพราะเราเป็นรัฐบาลของประชาชน ช่วงการเลือกนายกฯ และแต่งตั้งรัฐมนตรี นายภูมิธรรม พูดหลายหนเราใช้ต้นทุนที่สูง

"ผมอยากเปลี่ยนเป็นคำว่า เราเทหมดหน้าตัก ซึ่งการทำงานครั้งนี้ เรามีผู้มีเกียรติที่นั่งอยู่ที่นี่ ที่ได้รับเกียรติของพี่น้องประชาชนเลือกเข้ามาดูแลบ้านเมือง การเทหมดหน้าตักเป็นเรื่องที่เราต้องทุ่มเทการทำงานเพื่อพี่น้องประชาชน เชื่อว่าทุกท่านตระหนักดี ก็เป็นเรื่องสำคัญที่สุดในช่วงเวลานี้ ทั้งเรื่องการทำงาน ระยะเวลา และขีดจำกัดของงบประมาณก็เป็นเรื่องสำคัญ"

นายเศรษฐา กล่าวอีกว่า ตนไม่อยากให้ขีดข้อจำกัดงบประมาณ หรือบอกเข้ามาบริหารช้าไปนิดหนึ่ง ซึ่งการใช้งบประมาณคาดว่าจะได้ใช้ต้นปีหน้า แต่ไม่ได้หมายความว่างบประมาณจะเป็นขีดจำกัดไม่ให้เราทำงาน นโยบายใดที่จะสามารถดำเนินการได้อย่างรวดเร็ว  (Quick win) เราเชื่อว่าเรามีควิกวินหลายที่เราทำได้ เพื่อดูแลทุกข์สุขยกระดับความเป็นอยู่ของประชาชน อะไรที่ทำได้ก่อนก็ทำ

เข้าใจว่าแต่ละกระทรวง ทบวง กรม ก็มีแผนบางอย่างขึ้นอยู่งบประมาณ ถ้าอะไรทำได้หรืออะไรที่เป็นควิกวินเพื่อให้ประชาชนเห็นว่าเราทุ่มเททำงานอย่างเต็มที่ ตนก็อยากให้เข็นออกมาให้ได้ก่อน และเวลาที่ไปพูดคุยกับประชาชนอย่าไปบอกว่าทำไม่ได้ เราถูกเลือกเข้ามาเพื่อให้ทำให้ได้ ถือว่าเรื่องที่สำคัญที่สุด"

โดยจากนี้จะมีการรับฟังความคิดเห็นและเสียงสะท้อนจาก สส.และรับฟังความคิดเห็นกับข้าราชการ เพื่อร่วมกันผลักดันงาน แก้ไขปัญหาประชาชนอย่างมีประสิทธิภาพ รัฐมนตรีที่รับผิดชอบในแต่ละประเด็น หากจะมีการลงพื้นที่รับฟังปัญหาประชาชน ขอให้ทำงานร่วมกับ สส. อยากให้ใกล้ชิดและคล่องตัว เน้นการรับฟังปัญหาพี่น้องประชาชนเป็นหลัก 

นายเศรษฐา กล่าวต่อว่า ดังนั้นรัฐบาลของประชาชนเราต้องลดช่องว่างระหว่างฝ่ายบริหาร และประชาชนให้ได้เรื่องนี้เป็นเรื่องที่สำคัญ และเราอยากให้ประชาชนเข้าถึงผู้บริหารได้ อยากให้เป็นมิติใหม่ของการทำงานให้รัฐบาลนี้ ถ้าได้มีโอกาสคุยกับพรรคร่วมรัฐบาลกันจะเน้นย้ำเรื่องนี้อีกครั้งหนึ่ง

 

 

 

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์