"พัชรวาท" มอบแนวทางทำงาน "ทส." ขยัน ซื่อสัตย์ สั่ง เร่งรับมือ "PM2.5-เอลนีโญ"
"พัชรวาท” นำถก ผู้บริหาร ทส. มอบมอตโต้ “ขยัน ซื่อสัตย์ อดทน มีวินัย” เป็นแนวทางทำงาน สั่ง เร่งหามาตรการแก้ PM2.5 รับมือ เอลนีโญ จ่อดัน ร่างพ.ร.บ.อากาศสะอาด เข้าสภา ยก พระราชดำรัส ร.9 ปลุกขวัญ ขรก. ขอให้ทำจริง
พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม (ทส.) เป็นประธานการประชุมผู้บริหารกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม โดยมี นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมผู้บริหารระดับสูงกว่า 58 คน เข้าร่วมประชุม ที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
โดยพล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวว่า ตามที่มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯแต่งตั้งคณะรัฐมนตรีและนายกรัฐมนตรี พร้อมคณะรัฐมนตรี ได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภา เมื่อวันที่ 11 - 12 กันยายน2566 นั้น ตนต้องขอขอบคุณผู้บริหารของทุกหน่วยงาน ที่ได้เตรียมความพร้อม และจัดเตรียมข้อมูลสำหรับการชี้แจงให้เป็นอย่างดี สำหรับการประชุมวันนี้ ตนก็ขอแนะนำแนวทางการทำงาน เพื่อให้ทุกท่านนำไปเป็นแนวทาง ปฏิบัติงานให้บรรลุตามเป้าหมาย และเป็นนโยบายของรัฐบาลที่กำหนดต่อไป
“สำหรับหลักในการทำงานที่ผมยึดถือมาโดยตลอดในการรับราชการตำรวจ และผมคิดว่าสิ่งนี้เป็นสิ่งที่ดี อยากให้ทุกท่านนำไปยึดเป็นหลักในการปฏิบัติงานด้วยเช่นกัน ก็คือ “ขยัน ซื่อสัตย์อดทน มีวินัย” โดยขยัน ในความหมายของผมคือ การมาทำงานตรงเวลา ไม่เกียจคร้านซื่อสัตย์ คือ การทำงานตรงไปตรงมา โปร่งใส อดทน แม้งานจะหนักแต่ต้องสู้ ยึดประโยชน์ของประชาชนเป็นที่ตั้ง มีวินัย ทำตามหน้าที่ ผู้บังคับบัญชาสั่งงานต้องยึดปฏิบัติ” พล.ต.อ.พัชรวาทกล่าว
พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวอีกว่า ส่วนในเรื่องเนื้องาน ตนเข้าใจว่า ทุกท่านทราบเนื้องานกันอยู่แล้วเพราะรับราชการกันมานาน ก็ทำตามลำดับ แต่อยากให้ช่วยกันเร่งรัดดำเนินงานในส่วนที่เกี่ยวข้อง เช่น ใกล้จะฤดูหนาว ปัญหาที่จะเกิดขึ้นคือ เรื่องไฟป่า PM 2.5 ก็ขอให้ทุกท่านเตรียมรับมือให้พร้อม จะทำกันอย่างไร ให้ทุกคนช่วยกันคิด แนะนำ และแสดงความคิดเห็นในส่วนที่จะทำให้กระทรวงของเราพัฒนา ดียิ่งขึ้น ส่วนการทำงานร่วมกันจากนี้ ก็ต้องมีการบูรณาการร่วมกันทั้งภายในและภายนอกหน่วยอย่างมีประสิทธิภาพ เพื่อรักษาชื่อเสียงหน่วยงาน อย่าให้ใครมาตำหนิการทำงานของกระทรวงของเราได้ และหากมีปัญหาก็ให้รายงานผู้บังคับบัญชาตามลำดับ
“สุดท้ายนี้ผมขอยกพระราชดำรัสของ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวรัชกาลที่ 9 เมื่อวันที่ 5 ธันวาคม 2521 ในเรื่องรักษาทรัพยากร พระบรมราโชวาทในการเสด็จออกมหาสมาคม ในงานพระราชพิธี เฉลิมพระชนมพรรษา ดังความตอนหนึ่งว่า ”…ธรรมชาติแวดล้อมของเรา ไม่ว่าจะเป็นแผ่นดิน ป่าไม้ แม่น้ำ ทะเล และอากาศ มิได้เป็นเพียงสิ่งสวยๆ งามๆ เท่านั้น หากแต่เป็นสิ่งจำเป็นสำหรับการดำรงชีวิตของเรา และการคุ้มครองสิ่งแวดล้อมของเราไว้ให้ดีนี้ ก็เท่ากับเป็นการปกปักรักษาอนาคตไว้ให้ลูกหลานของเราด้วย...”ดังนั้น ผมขอให้กระทรวงช่วยกันทำงานให้ราบรื่นต่อไป ซึ่งเป็นคำสั้นๆง่ายๆแต่ขอให้ทำจริง” พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าว
ขณะที่ นายจตุพร กล่าวว่า ขอขอบคุณท่านรองนายกฯและรมว.ทรัพยากรธรรมชาติฯ ที่ให้สิ่งยึดเหนี่ยวการทำงาน ในเรื่องการขยัน ซื่อสัตย์ อดทน มีวินัย ซึ่งขอให้ส่วนราชการทั้งหมด รับไปปรับใช้ เพื่อประโยชน์สูงสุดของประชาชน และเพื่อรักษาชื่อเสียงของกระทรวงต่อไป
โดยภายหลังการประชุมผู้บริหารกระทรวง พล.ต.อ.พัชรวาท ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า การประชุมผู้บริหารกระทรวงในวันนี้ ตนได้มอบคำแนะนำการทำงาน ตามหลักการทำงาน คือ“ขยัน ซื่อสัตย์ อดทน มีวินัย” เพราะการทำงานจะมีความชัดเจน ส่วนการขับเคลื่อนงาน ก็เป็นที่ทราบกันดีอยู่แล้วว่า ผู้บริหาร ข้าราชการ ทำงานดีอยู่แล้ว ตนเพียงมาให้ข้อคิด และคำแนะนำเท่านั้น
เมื่อถามว่า ภารกิจแรกที่จะขับเคลื่อนคืออะไร พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวว่า ตอนนี้ใกล้เข้าสู่หน้าหนาว ตนก็มีความเป็นห่วงในเรื่องไฟป่า และ PM 2.5 จึงจะช่วยแก้ปัญหาในเรื่องนี้ ส่วนปัญหาภัยแล้ง ตนก็ได้รับรายงานว่า ทางปลัดกระทรวง ได้เตรียมการไว้ทั้งหมดแล้ว ส่วนกรณีที่นายกรัฐมนตรี เน้นย้ำเรื่องการรับมือเอลนีโญ ทางกระทรวงก็ได้รับทราบแนวทางการควบคุมทั้งหมดแล้ว แต่ก็เป็นสิ่งธรรมชาติ ที่สามารถเกิดขึ้นได้ เราก็จะดูแลอย่างใกล้ชิดต่อไป
เมื่อถามว่า จะผลักดัน พ.ร.บ.อากาศสะอาด อย่างไร พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวว่า เรื่องนี้ กรมควบคุมมลพิษ ได้จัดทำร่างพ.ร.บ.ไว้เสนอครม.เรียบร้อยแล้ว เพื่อจะเสนอเข้าสู่สภาฯต่อไป
เมื่อถามต่อว่า โครงการ คทช.จะดำเนินการต่ออย่างไร พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวว่า คทช.ก็กำลังดำเนินการต่อ เพื่อให้เป็นประโยชน์กับพี่น้องประชาชนอย่างต่อเนื่อง เช่นเดียวกับแนวทางการแก้ปัญหาสิทธิที่ดินของกลุ่มชาติพันธุ์ ซึ่งก็มีข้อกฎหมายที่ชัดเจนอยู่แล้ว
หลังจากที่มีการประชุมผู้บริหารกระทรวงฯ พล.ต.อ.พัชรวาท ได้มีการประชุมเตรียมความพร้อมเกี่ยวกับข้อมูลของกระทรวงฯ ในการลงพื้นที่ของคณะนายกรัฐมนตรีฯ ในวันที่ 15-17 กันยายนนี้ ที่จังหวัดเชียงรายและเชียงใหม่