‘กัญชา’ เป็นยาวิเศษ ? ‘นิด-หนู’ ทิ้งอดีต คิดปัจจุบัน
ในยามที่ “เพื่อไทย-ภูมิใจไทย” กลายเป็นพันธมิตรทางการเมือง ขณะที่ร่างพ.ร.บ.กัญชา ร่างเดิม 94 มาตรา รีเทิร์นเข้าสภาอีกครั้ง ไม่ต่างจากนโยบายกัญชาที่ถูกบรรจุในคำแถลงนโยบาย จับตากัญชาเวอร์ชั่น "รัฐบาลเศรษฐา"
คืนชีพ ! “กฎหมายกัญชาฯ” ล่าสุด พรรคภูมิใจไทยปัดฝุ่นผลักดันร่าง พ.ร.บ.ที่แท้งกลางสภาฯ ระหว่างการพิจารณา วาระ 2 ในสภาฯ ชุดที่แล้ว จำนวน 94 มาตรา หวนคืนสภาอีกครั้ง
ฝั่งภูมิใจไทยให้เหตุผลการเสนอกฎหมาย อ้างถึงคำสั่งศาลปกครองสูงสุดที่ “ยกคำร้อง” ของกลุ่มแพทย์ ที่ยื่นฟ้อง “มท.หนู” อนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย สมัยเป็น รมว.สาธารณสุข กรณีปลดล็อกกัญชาออกมาเพื่อการใช้ประโยชน์
เหตุผลที่ศาลยกคำร้อง ระบุว่า ผู้ร้องไม่ได้รับความเสียหายจากนโยบาย สิ่งที่ผู้ร้องกล่าวหากัญชา ว่าใช้กันอย่างแพร่หลาย เกิดผลกระทบเชิงลบทางสังคม ล้วนแล้วแต่เป็นการคาดเดาถึงสิ่งที่ยังไม่เกิด
พรรคภูมิใจไทย ถือว่า “นโยบายกัญชา” เป็นผลงานชิ้นโบว์แดง ในยุค “หมอหนู”
ทบทวนความจำในช่วงไฟนอล ก่อนรูดม่านสภาฯ ชุดที่แล้ว เวลานั้นเกิดศึกชิงแต้ม โดยเฉพาะ “3 พรรค” ทั้ง ประชาธิปัตย์เพื่อไทย พลังประชารัฐ เปิดเกมผสมโรง“ขวางกฎหมายกัญชา” โดยให้เหตุผลในทำนองเดียวกัน ในเรื่องการปรับแก้ ที่เปรียบเป็นการ“ตัดกางเกงผิดแบบ”
ซ้ำยังมีข้อเสนอ“สุดโต่ง” เพื่อเปิดให้มีการใช้กัญชาเพื่อสันทนาการ ชนิด “พี๊! ได้อย่างเสรี”
ขณะที่ “ภูมิใจไทย” ในฐานะเจ้าของร่างเวลานั้น ได้ชิงเกมเร็ว โต้กลับ “เกมซ่อนกล” ที่หวังเตะสกัดแผน “โกยแต้ม” ที่กำลังเข้าสู่โหมดเลือกตั้ง
ความอลม่านปั่นป่วนที่เกิดขึ้นในสภาฯ เวลานั้น ที่สุดบทสรุปของ “พ.ร.บ.กัญชา” จบลงด้วยการ “แท้งคาสภาฯ” กระทั่งรูดม่านสภาชุดที่ 25 ก่อนเข้าสู่โหมดเลือกตั้งในที่สุด
ทบทวนความจำอีกนิด ในช่วงของการหาเสียงเลือกตั้งช่วงต้นปี 2566 นโยบายกัญชาถูกหยิบยก เป็นวาทกรรมหาเสียง "เขย่ารายวัน"
โดยเฉพาะ “เศรษฐา ทวีสิน” แคนดิเดตนายกฯ พรรคเพื่อไทย ที่เปิดฉากซัดแรง จนเกิดวิวาทะกลางเวทีปราศรัย จ.นครพนม เมื่อ 1 พ.ค.2566
“ถ้าไม่เอาลุงตู่ ก็ต้องไม่เอาพรรคภูมิใจไทย” พร้อมขอให้กาเพื่อไทย 2 ใบ เพราะหากกาแบ่งให้ภูมิใจไทย พล.อ.ประยุทธ์ อาจกลับมา ปัญหายาเสพติดเป็นเรื่องใหญ่ ถ้าพรรคเพื่อไทยเป็นรัฐบาล ผู้เสพจะเปลี่ยนเป็นผู้ป่วย ผู้ค้ายาจะถูกจับโดยเด็ดขาด ยาเสพติดเยอะขนาดนี้
พรรคภูมิใจไทยยังเสนอกัญชาเสรีอีก เรายอมไม่ได้ และอย่าให้เขามาหลอกเรา พรรคเพื่อไทยเชื่อกัญชาทางการแพทย์อย่างเดียว” เศรษฐา ประกาศกร้าว
ต่อมา “อนุทิน” โต้กลับ โดยย้ำจุดยืนว่า “พรรคภูมิใจไทย ไม่สนับสนุนกัญชาเสรี” พร้อมเคลียร์ว่า การออกกฎหมายเป็นไปเพื่อควบคุมการใช้กัญชาในทางที่ผิด ส่งเสริมกัญชาทางการแพทย์ สุขภาพ และเศรษฐกิจ
วิวาทะครั้งนั้น ลุกลามถึงขั้นมีการฟ้องร้องหมิ่นประมาท ระหว่าง “อนุทิน” และ “เศรษฐา”
"อนุทิน" ยังย้ำชัดผ่านเวทีหาเสียง “หลังเลือกตั้งถ้าใครจะมาร่วมกับพรรคภูมิใจไทย หลังการเลือกตั้งต้องสนับสนุนกฎหมายกัญชา ”
ทว่าเมื่อบริบทการเมืองเปลี่ยนไป “พรรคเพื่อไทย” และ “ภูมิใจไทย” จากเดิมที่เคยอยู่ฝั่งตรงข้าม เปิดวิวาทะผ่านเวทีหาเสียง แปรเปลี่ยนมาเป็นพรรคร่วมรัฐบาล ไม่ต่างจากพี่น้อง “2 น.” นิด-หนู ที่ทิ้งเรื่องราวบาดหมางใจระหว่างกัน
โดยในวันแถลงข่าวจับมือร่วมรัฐบาลระหว่าง “พรรคเพื่อไทย” และ “ภูมิใจไทย” เมื่อวันที่ 2 ส.ค “อนุทิน” ตอบชัด “ถอนฟ้องเศรษฐา” ในคดีหมิ่นประมาท เพื่อเดินหน้าสู่การจัดตั้งรัฐบาลโดยเร็ว
ถัดมา 24 ส.ค. วันที่“เศรษฐา” รับพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ เป็นนายกฯ ได้ปรากฏภาพ อนุทินสวมกอดนายกฯ ใหม่ อย่างชื่นมื่น
กระทั่งในวันแถลงนโยบายรัฐบาลต่อรัฐสภา 11 ก.ย. ส่วนหนึ่งในคำแถลง “นายกฯเศรษฐา” ระบุชัดว่า “รัฐบาลจะดำเนินแนวทางนโยบายการใช้ประโยชน์จากกัญชาทางการแพทย์ และสุขภาพเพื่อสร้างมูลค่าในเชิงเศรษฐกิจ”
ขณะที่ “อนุทิน” ยืนยันว่า เนื้อหาในคำแถลงนโยบาย ผ่านการหารือร่วมกัน ระหว่างพรรคร่วมรัฐบาลมาแล้ว ถือเป็นข้อสรุปร่วมกัน
ดังนั้น ในยามที่ “เพื่อไทย-ภูมิใจไทย” กลายเป็นพันธมิตรทางการเมือง
ขณะที่ร่าง พ.ร.บ.กัญชา ร่างเดิม 94 มาตรา กำลังจะถูกเสนอเข้าสภาฯ อีกครั้ง ต้องจับตาว่า บทสรุปกัญชา “วิน-วิน” ของทั้ง 2 พรรคออกมาอย่างไร