"สามารถ" ไม่แปลกใจปมตัดสิทธิ "ช่อ พรรณิการ์" เชื่อเจ้าตัวเคลื่อนไหวต่อ
"สามารถ" ไม่แปลกใจปมศาลฎีกา พิพากษา ตัดสิทธิการเมือง "ช่อ พรรณิการ์" ตลอดชีวีต เชื่อเจ้าตัวยังคงเคลื่อนไหวต่อ
นายสามารถ เจนชัยจิตรวนิช อดีตผู้ช่วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม กล่าวถึงกรณีที่ศาลฎีกามีคำพิพากษาให้ "ช่อ พรรณิการ์" น.ส.พรรณิการ์ วานิช อดีต สส.พรรคอนาคตใหม่ ถอนสิทธิรับเลือกตั้งตลอดไปและไม่มีสิทธิดำรงตำแหน่งทางการเมือง ฐานฝ่าฝืนจริยธรรมร้ายแรงตามกฎหมาย จากกรณีที่นายศรีสุวรรณ จรรยา เลขาธิการสมาคมองค์การพิทักษ์รัฐธรรมนูญไทย ยื่นหนังสือต่อ ป.ป.ช. ให้ตรวจสอบกรณีโพสต์ภาพ และข้อความ เชื่อมโยงสถาบัน ว่า ตนไม่ได้รู้สึกแปลกใจ เพราะก่อนหน้านี้ น.ส.พรรณิการ์ เคยถูกตัดสิทธิทางการเมือง 10 ปี สมัยดำรงตำแหน่งโฆษกพรรคอนาคตใหม่
เชื่อว่า น.ส.พรรณิการ์ ยังคงมีความพยายามติดต่อสื่อสารกับประชาชน เยาวชนคนหนุ่มสาวเรื่องแนวคิดเกี่ยวกับสถาบัน และสุดท้ายก็ต้องมีการแก้รัฐธรรมนูญ และการ ออกพ.ร.บ.ล้างมลทิน หรือ พ.ร.บ.นิรโทษกรรมอย่างแน่นอน
“คุณช่อเค้าไม่ได้ตกใจหรือสะเทือนใจเรื่องนี้เลย เขามีการสื่อสารใต้ดินกัน มีการจัดคลับเฮ้าส์ มีการจัดซูม มีการคุยผ่านคุยผ่านพอดแคสต์ หรือ แม้แต่การลงพื้นที่คุยกับนักเรียนในโรงเรียน เขาพยายามทำให้เด็กนั้นกล้าชน การต่อสู้กับผู้ใหญ่ซึ่งเขาอ้างว่าเป็นผู้มีอำนาจ ผมเองเคยดีเบตกับคุณช่อในรายการ Thailand talk ก็ได้ฟังแนวคิดของคุณช่อเห็นแล้วตกใจครับ ว่าคุณช่อเขามีความคิดอย่างนั้น และแนวความคิดของคุณช่อก็ถูกส่งไปยังเด็กคนอื่น อย่างเช่นคุณบุ้ง คุณหยกเป็นต้น ”นายสามารถ กล่าว
นายสามารถ ยังกล่าวย้ำด้วยว่า อำนาจการปกครองถูกแบ่งเป็น 3 อำนาจ คืออำนาจบริหาร อำนาจนิติบัญญัติ และอำนาจตุลาการ อำนาจบริหารก็คือรัฐบาล อำนาจนิติบัญญัติก็คือรัฐสภา อำนาจตุลาการก็คือศาล นั่นแสดงให้เห็นชัดเจนแล้วว่า อำนาจ ถูกถ่วงดุลไว้เรียบร้อยแล้ว
สิ่งสำคัญที่สุดขณะนี้ คือการสื่อสารกับประชาชนให้เข้าใจว่า สถาบันพระมหากษัตริย์ไม่ได้เกี่ยวข้องที่สำคัญรัฐบาลควรให้ความสำคัญเรื่องนี้ แล้วต้องดำเนินการกับขบวนการให้ข้อมูลล้มล้างสถาบันฯ จากต่างประเทศอย่างเข้มงวด และ จริงจัง ไม่ใช่ปล่อยให้พูดล้มล้างอยู่ทุกวัน