'พิธา' ร่วมค้าน 'เหมืองถ่านหินอมก๋อย' ชูร่างกฎหมายเปลี่ยนประเทศใน 4 มิติ
'พิธา' เข้าร่วมกิจกรรมคัดค้าน 'เหมืองถ่านหิน' อมก๋อย จ.เชียงใหม่ โชว์กึ๋นชงร่างกฎหมายเปลี่ยนแปลงประเทศใน 4 มิติ
เมื่อวันที่ 28 ก.ย. 2566 นายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคก้าวไกล ร่วมเสวนากิจกรรม "ชัยชนะจะสมปองต้องต่อสู้ 4 : ปี แห่งการไม่สยบยอมให้อมก๋อยกลายเป็นเหมืองถ่านหิน" ที่ภาคประชาสังคมและประชาชนในพื้นที่อำเภออมก๋อย จังหวัดเชียงใหม่ ร่วมกันจัดขึ้น
นายพิธา กล่าวว่า ในฐานะพรรคการเมือง หน้าที่แรกของเราในกระบวนการนิติบัญญัติ คือ การเสนอร่างกฎหมายเปลี่ยนแปลงประเทศ ในประเด็นนี้เราแบ่งเป็น 4 มิติ นั่นคือ
- มิติแรก เราเห็นความไม่ยุติธรรมในการจัดสรรทรัพยากร มีที่ดินป่าสงวน ที่อุทยาน ฯลฯ นับล้านไร่ที่ประชาชนและหน่วยงานท้องถิ่นไม่สามารถทำอะไรได้ ไม่สามารถก่อสร้างถนน เดินสายไฟฟ้า แต่เมื่อเป็นนายทุนก็สามารถขออนุญาตสัมปทานรัฐทำเหมืองแร่ได้ไม่ยาก สุดท้ายก็คือ คนอื่นอยู่ได้แต่คนในพื้นที่อยู่ไม่ได้ นี่คือความเหลื่อมล้ำในการเข้าถึงทรัพยากร โดยเพาะอย่างยิ่งในกลุ่มชนเผ่าพื้นเมือง พรรคก้าวไกลจึงเสนอชุดกฎหมายปฏิรูปที่ดินทั้งระบบให้ประชาชนได้รับความเป็นธรรม
- มิติที่สอง คือร่างกฎหมายที่เกี่ยวข้องโดยตรงกับการกำกับดูแลรักษาและส่งเสริมสิ่งแวดล้อม เช่นร่าง พ.ร.บ.เหมืองแร่ สิ่งแวดล้อม การรายงานการปลดปล่อยและการเคลื่อนย้ายมลพิษ (PRTR)
- มิติที่สาม ในขณะที่ตนกำลังพูดอยู่นััน ศาลก็กำลังอ่านคำพิพากษาเจ้าหน้าที่อุทยานแก่งกระจานที่อาจมีความผิดในคดีการเสียชีวิตของบิลลี่ พอละจี รักจงเจริญ นักปกป้องสิทธิมนุษยชนกะเหรี่ยงบางกลอย เหตุการณ์ทำนองนี้ยังเกิดขึ้นอยู่ตลอดเวลา ดังนั้นมิติที่สามจึงมีความสำคัญ สำหรับการคุ้มครองสิทธิเสรีภาพของผู้ที่ออกมาวิจารณ์คัดค้านโครงการต่างๆ ของรัฐ เช่นกฎหมายป้องกันการฟ้องปิดปากหรือ Anti-SLAPP รวมถึงกฎหมายป้องกันและปราบปรามการอุ้มหายซ้อมทรมาน ที่ผ่านสภาได้สำเร็จในสภาชุดที่แล้ว
- มิติที่สี่ คือประเด็นที่เกี่ยวข้องในการยกระดับคุณภาพชีวิตและความเสมอภาคของพี่น้องประชาชน เช่น ร่างกฎหมายการศึกษา การพัฒนาสาธารณูปโภค น้ำประปาดื่มได้ ความเสมอภาคทางเพศ ชาติพันธุ์ สิทธิของชนเผ่าพื้นเมือง ฯลฯ
“ทั้งหมดนี้คือเรื่องที่ผ่านมา แต่ผมจะขอพูดเรื่องอนาคตบ้าง ในทิศทางภาพใหญ่ของโลก รัฐบาลไทยควรต้องประกาศได้แล้วว่าอย่างช้าที่สุด ภายในปี 2578 จะปลดระวางถ่านหินให้หมดไปจากประเทศไทย และเราสามารถเริ่มใช้และเพิ่มสัดส่วนใช้พลังงานสะอาดได้ทันที และพี่น้องประชาชนสามารถผลิตกระแสไฟฟ้าจากพลังงานสะอาดขายเข้าระบบโดยได้ราคาเป็นธรรมได้ เช่นโซลาร์พาวเวอร์ นั่นคือหลักการของประชาธิปไตยทางพลังงาน” นายพิธา กล่าว
หลังจบวงเสวนา นายพิธาได้ร่วมชมนิทรรศการการต่อสู้และร่วมกับประชาชนเพื่อเดินรณรงค์ปกป้องพื้นที่ทำกินของพี่น้องปนะชาชน
โดยหลังจากนี้ นายพิธา ในฐานะประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค มีกำหนดการร่วมกับ สส. พรรคก้าวไกล จัดเวที “ก้าวต่อไปเชียงใหม่ท้องถิ่น" ที่สนามฟุตบอลหญ้าเทียม เทศบาลเมืองแม่เหียะ จ.เชียงใหม่ วันที่ 29 ก.ย. 2566 เวลา 15.00 น. เป็นต้นไป