‘บิ๊กต่อ’เล่าเบื้องหลังค้นบ้านบิ๊กโจ๊กต่อสายคุยขณะเข้าเวรราชองครักษ์

‘บิ๊กต่อ’พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ สุขวิมล ผบ.ตร. คนที่ 14 ให้สัมภาษณ์รายการเจาะลึกทั่วไทย อินไซต์ไทยแลนด์ ถึงการบริหารองค์กรตำรวจภายหลังเกิดความขัดแย้งขึ้นในองค์กรว่า ตอนนี้กำลังจัดวางตำแหน่ง รองผบ.ตร. ในการควบคุมหน้างาน รวมถึงการแต่งตั้งโยกย้ายตามระบบคุณธรรม ตนกำลังจะปรับเปลี่ยนให้สำนักงานตำรวจแห่งชาติเป็นเหมือนบ้าน ตนเคยบอกกับน้องๆว่าคำว่า โฮม กับ เฮ้าส์ มันต่างกัน

“เวลาเรากลับบ้านกลับ เฮ้าส์ มันสร้างมาจากอิฐ หิน ปูน มันก็คือบ้านเหมือนกัน แต่เวลาเรากลับ โฮม มันเหมือนกัน แต่มันมีความรัก ความเข้าใจ ผมอยากสร้างสำนักงานตำรวจแห่งชาติให้มันเป็น โฮม ซึ่งเราต้องช่วยกัน ผมทำคนเดียวไม่ได้ มันต้องเริ่มที่ผู้บังคับบัญชาเป็นตัวอย่างที่ดี ที่จะนำพาองค์กร ผมคิดว่าไปได้ครับ”

ผู้ดำเนินรายการถามว่า จะเยียวยาองค์กรตำรวจโดยเริ่มจากการจัดวางหน้างานให้เหมาะสม ในระดับรองผบ.ตร. ใครจะดูแลอะไร พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวว่า กำลังทำอยู่ คอยดูแล้วกัน เดี๋ยวจะรู้ว่ามันไม่มีเหตุอะไรขัดข้องกันเลย ความมโนของคนมันก็ไป เดี๋ยวดูก็จะทราบ ถ้าเราไม่ทำ ไม่เอาผู้ช่วยขึ้นมาด้วย บอร์ดมันก็ไม่ครบที่จะพิจารณา เราจะทำระดับผู้บัญชาการให้เสร็จก่อน เพื่อที่จะพิจารณาลงไปเลือกผู้การ ทุกอย่างจะมีบอร์ดหมด เพื่อป้องกันการร้องเรียน ตอนนี้เราวางขั้นตอนไว้หมดแล้ว
 

เมื่อถามว่า จะแบ่งงานระนาบมีนัยเรื่องการเยียวยาองค์กรตำรวจด้วยใช่หรือไม่ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวว่า ใช่ครับ มันมีหลายอย่างที่พี่น้องคุยกันหมด แต่ไม่ใช่เราจะเอาภาพออกไปหมด แล้วว่าเอ๊ะสร้างภาพหรือเปล่า เราคุยกันหมด ตนมีเวลาปีเดียว ตอนนี้หายไป 2 วันแล้ว พี่น้องประชาชนรอไม่ได้ ตำรวจจะมาทะเลาะกันไม่ได้ ตำรวจมดงานก็รออยู่ ตนไม่ได้หยุดเลย ขอให้เราได้ทำงานก่อน ตอนนี้เหมือนเปลี่ยนบริษัท ก็ต้องขอเวลานิดนึง

เมื่อถามว่า พล.ต.อ.รอย อิงคไพโรจน์ รองผบ.ตร. จะดูงานด้านความมั่นคง บิ๊กโจ๊ก พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รองผบ.ตร. จะดูงานสืบสวนต่อหรือไม่ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวว่า ตนยึดตามอาวุโสเลือก คราวนี้ให้แต่ละท่านเลือกเลย ดูตามความเหมาะสม แล้วเอาผู้ช่วยเข้าไปช่วย เราคุยกันหมดแล้ว ทำตามธรรมเนียมที่เราเคยทำมา คุยกันหมดแล้ว ทุกคนแฮปปี้ ซึ่งพล.ต.อ.รอยได้เลือกก่อน จากนั้นพล.ต.อ.สุรเชษฐ์จะเลือก

เมื่อถามว่า คดีของพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ ที่ค้างอยู่จะดำเนินการอย่างไร พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวว่า เราทำอยู่ แต่การจะมาออกข่าว คนมันมโน ทำให้องค์กรเสียหาย คดีไปตามพยานหลักฐาน มันไปพลิกไม่ได้ ต้องให้ความเป็นธรรมทั้งสองฝ่าย เราไม่ได้หยุดก็ว่ากันไป
 

เมื่อถามว่า สังคมวิจารณ์กันเยอะ เนื่องจากตำรวจที่บุกไปบ้านพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ มีตำรวจคอมมานโดไปด้วย พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวว่า “การขอกำลังเป็นเรื่องของตำรวจ PCT ไม่ได้เกี่ยวกับการขอกำลังเข้าค้น ถ้าผมรู้ผมต้องไป ผมเข้าเวรราชองครักษ์อยู่ ท่านรองโทรมาผมก็ถามว่าเรื่องอะไร ผมก็คุยกัน ผมไม่รู้จริงๆ เราคุยกันหมด เราอยู่กับแบบพี่น้อง ผมก็เช็คให้ ผมก็รับสายตลอด”

เมื่อถามว่า คืนวันที่ 28 ก.ย. พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ขอไปพบหรือพล.ต.อ.ต่อศักดิ์เรียกไปคุย พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวว่า “ผมเรียกมาคุยว่าเรื่องอะไร ผมรับนโยบายท่านนายกฯมาด้วยว่าไม่อยากเห็นคนในสำนักงานตำรวจแห่งชาติไม่ทะเลาะกัน บางทีผมอาจจะไม่มีอะไรกันเลย แต่มีคนไม่หวังดี ผมพยายามคุยกันน้องเราอย่าทะเลาะ หากเราทะเลาะกันคนไม่หวังดีจะเสี้ยมหรือเปล่า ถ้าเราคุยกันมันก็จบทั้งหมด”

เมื่อถามว่า นายกฯอยากให้มีการลดความขัดแย้งในองค์กร พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวว่า “ท่านมองภาพรวม คนนอกมององค์กร มันมีการทะเลาะกันหรือไม่ จังหวะของคดีมันพลั่งพลูพอดี คนก็จับโยง ถ้าทะเลาะกันไม่มีภาพแบบนี้หรอก ท่านนายกฯ ถามว่าในฐานะที่ผมเลือกคุณเป็นผบ.ตร.จะแก้ปัญหาอย่างไร ผมก็บอกว่าทุกอย่างอยู่ที่การพูดคุย แล้วผมไม่แก้ปัญหาปลายเหตุ ต้องแก้ต้นเหตุ แล้วก็เห็นภาพ”

เมื่อถามว่า ได้คุยอะไรกับพล.ต.อ.สุรเชษฐ์ พล.ต.อ.ต่อศักดิ์ กล่าวว่า “ผมเคยบอกโจ๊กไว้เสมอว่า ถ้าขาดจากพี่ไปแล้ว เอ็งหาที่จริงใจกับเอ็งแบบพี่ไม่ได้หรอก ผมไม่มีเล่ห์เหลี่ยม ผมคิดอย่างไร ผมพูดตรง ผมไม่เคยแทงใครข้างหลัง ถ้าจะเอาก็เอากันซึ่งหน้า แล้วมันจบ ผมบอกโจ๊กว่าเราต้องมีสติ การที่พวกผมไปปฏิบัติธรรม ทำให้ครองสติได้ แต่ถ้าเราขาดสติ เราจะแก้ปัญหาด้วยอารมณ์ ทำให้ปัญหามันเพิ่มเรื่อยๆ ผมโดนอะไรมาเยอะ แต่ผมนิ่ง ให้เวลาเป็นตัวเล่าดีกว่า”