ปธ.ศาลฎีกาตั้งคณะทำงานไกล่เกลี่ยก่อนฟ้อง ที่พึ่ง ปชช. ขจัดขั้นตอนซ้ำซ้อน
'อโนชา' ประธานศาลฎีกาป้ายแดง สั่งตั้งคณะทำงานพัฒนาระบบไกล่เกลี่ยก่อนฟ้อง ขจัดขั้นตอนซ้ำซ้อนล่าช้า เข้าถึงความยุติธรรมได้รวดเร็ว เป็นที่พึ่งแรกของประชาชน
เมื่อวันที่ 17 ต.ค. 2566 ผู้สื่อข่าวรายงานจากศาลฎีกาว่า ภายหลัง นางอโนชา ชีวิตโสภณ ดำรงตำแหน่งประธานศาลฎีกาคนที่ 49 พร้อมกำหนดแนวทางการบริหารงานแก่ศาลยุติธรรมทั่วประเทศ ภายใต้นโยบาย “ที่พึ่ง เที่ยงธรรม เท่าเทียม ทันโลก” ล่าสุด มีคำสั่งเมื่อวันที่ 16 ต.ค. 2566 แต่งตั้งคณะทำงานพัฒนาระบบไกล่เกลี่ยก่อนฟ้อง เพื่อให้การดำเนินการขับเคลื่อนนโยบายด้านกระบวนการไกล่เกลี่ยข้อพิพาททั้งก่อนฟ้อง และระหว่างการพิจารณาของศาล เป็นไปด้วยความเรียบร้อย พัฒนาช่องทางที่ประชาชนสามารถเข้าถึงความยุติธรรมได้อย่างสะดวกรวดเร็ว ปฏิรูประบบงาน ขจัดขั้นตอนที่ซ้ำซ้อนล่าช้าอันจะเป็นอุปสรรคในการบริการประชาชน
โดยมีนายอดุลย์ ขันทอง ผู้พิพากษาศาลฎีกา เป็นประธานคณะทำงาน นายปรัชญา อยู่ประเสริฐ ผู้พิพากษาอาวุโสในศาลแพ่ง นายเนติภูมิ มายสกุล ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะในศาลจังหวัดธัญบุรีช่วยทำงานชั่วคราวในตำแหน่งผู้พิพากษาหัวหน้าศาลประจำสำนักประธานศาลฎีกา นายภพ เอครพานิช รองเลขาธิการสำนักงานศาลยุติธรรม นายสุริยัณห์ หงษ์วิไล ผู้พิพากษาหัวหน้าคณะชั้นต้นในศาลเยาวชนและครอบครัวจังหวัดจันทบุรีช่วยทำงานชั่วคราวในตำแหน่งผู้พิพากษาศาลชั้นต้นประจำสำนักประธานศาลฎีกา และผู้อำนวยการศูนย์รักษาความปลอดภัย ผู้อำนวยการสำนักส่งเสริมตุลาการ นิติกร ข้าราชการชำนาญการ รวม 11 คนร่วมคณะทำงาน
สำหรับภารกิจสำคัญ “คณะทำงานพัฒนาระบบไกล่เกลี่ยก่อนฟ้อง” มีอำนาจหน้าที่ศึกษาระบบ จัดทำคู่มือแก่ศาลยุติธรรมทั่วประเทศเพื่อนำไปใช้ภายใต้มาตรฐานเดียวกัน พัฒนาช่องทางระบบไกล่เกลี่ยข้อพิพาทก่อนฟ้องที่ประชาชนเข้าถึงโดยสะดวกรวดเร็ว ไม่ก่อภาระค่าใช้จ่ายแก่ประชาชน ประสานความร่วมมือ จัดประชุมระดมความคิดเห็นกับหน่วยงานภาครัฐและเอกชนเพื่อความรวดเร็วและประสิทธิภาพในระบบไกล่เกลี่ย เสนอความคิดเห็นเกี่ยวกับระเบียบ ข้อบังคับ หลักเกณฑ์และวิธีการต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้องกับการไกล่เกลี่ยก่อนฟ้องในศาลยุติธรรมทั่วประเทศ และดำเนินการอื่น ๆ ที่เกี่ยวข้องกับระบบการไกล่เกลี่ยก่อนฟ้อง และการไกล่เกลี่ยระหว่างพิจารณาคดีของศาล โดยจะรายงานผลดำเนินการตามภารกิจทั้งหมดต่อประธานศาลฎีกาทราบต่อไป
การขับเคลื่อนและส่งเสริมกระบวนการระงับข้อพิพาททางเลือกให้สามารถไกล่เกลี่ยได้ในทุกขั้นตอน นอกจากช่วยให้ความขัดแย้งยุติลงด้วยความสมานฉันท์แล้วยังลดภาระค่าใช้จ่ายแก่คู่ความ โดยศาลยุติธรรมพร้อมเสมอจะเป็นที่พึ่งของประชาชนในโอกาสแรก จึงขอเชิญชวนประชาชนที่มีข้อพิพาทไม่ว่ากรณีใด ๆ สามารถขอใช้บริการได้ที่ศาลยุติธรรมทั่วประเทศ ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป โดยไม่เสียค่าใช้จ่ายแต่อย่างใด