'เศรษฐา' ชี้ นโยบายดี ไม่ใช่แค่รักษาวินัยการเงิน แต่ต้องตอบสนองประชาชน

'เศรษฐา' ชี้ นโยบายดี ไม่ใช่แค่รักษาวินัยการเงิน แต่ต้องตอบสนองประชาชน

"เศรษฐา" เผย ประชุม ครม. เร็ว แต่มีประสิทธิภาพ แจ้ง 2 เรื่องใหญ่ กระตุ้นเศรษฐกิจ - ท่องเที่ยว รับสะเทือนใจ แรงงานไทยในอิสราเอล ยอมเอาเงิน 5 หมื่น - แสน แลกเสี่ยงในอิสราเอล ชี้ นโยบายดีไม่ใช่แค่รักษาวินัยการเงิน แต่ต้องตอบสนองประชาชน

ที่ทำเนียบรัฐบาล นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ให้สัมภาษณ์ภายหลังการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) ซึ่งใช้เวลาประมาณ 2 ชั่วโมง ว่า การประชุม ครม.เร็ว และมีประสิทธิภาพ วันนี้เรื่องใหญ่ที่แจ้งในที่ประชุม ครม.มี 2 เรื่องหลักใหญ่คือ เรื่องการกระตุ้นเศรษฐกิจ นโยบายการท่องเที่ยว และอีกหลายๆนโยบาย แต่เหนือสิ่งอื่นใดตนคิดว่าเรื่องที่สำคัญที่สุดคือ เหตุการณ์ที่อิสราเอล โดยปัญหาที่เราเผชิญอยู่ในเรื่องของแรงงานไทย จริงๆ แล้วต้องบอกตรงๆ เป็นเรื่องที่ทำให้ตนสะเทือนใจอย่างมาก เป็นเหตุว่าทำไมรัฐบาลเราถึงต้องกระตุ้นเศรษฐกิจให้มีการขยายตัวเร็วที่สุดเพื่อซ่อม และสร้างอนาคตให้กับประชาชน ขอให้ลองคิดดูแรงงาน 20,000-30,000 คน ที่อยู่ต่างแดนต้องเสี่ยงชีวิต พอมีคนเอาเงินเข้ามาล่อก็จะอยู่ต่อเพื่อเงินหลักหมื่นหลักแสน ถ้าเกิดเขาถามกลับมาว่านายกฯ ไม่เข้าใจหรอก ว่าการที่มีคนเอาเงินมาให้ 50,000 หรือ 100,000 บาท เพื่อให้อยู่ต่อ และต้องเสี่ยงชีวิตมันมีความสำคัญกับพวกเขาขนาดไหน

นายกฯ กล่าวว่า เรื่องนี้ตนตระหนักดี ฉะนั้นเรื่องการกระตุ้นเศรษฐกิจจึงเป็นเรื่องที่สำคัญสุดที่จะทำให้พี่น้องประชาชนนับหมื่นคนที่ต้องเสี่ยงชีวิตอยู่ เพื่อที่จะนำเงินมาช่วยคน หลักแสนหรืออาจจะหลักล้านได้ เป็นห่วงโซ่ที่ต้องพึ่งการดูแลของพวกเขา ตนคิดว่าเป็นเรื่องที่น่าสะเทือนใจมาก 

"จริงๆ แล้วนโยบายการเงินการคลังที่ดีไม่ใช่แค่รักษาวินัยการเงินอย่างเดียว แต่สำคัญเหนือสิ่งอื่นใดต้องตอบสนองความต้องการของพี่น้องประชาชน ยกระดับความเป็นอยู่ของพี่น้องประชาชนให้ดี ไม่ใช่ต้องเอาชีวิตมาเสี่ยงเพื่อให้ได้ซึ่งเงิน ตรงนี้เป็นเรื่องสำคัญที่สุด”นายเศรษฐา กล่าว

นายเศรษฐา กล่าวว่า เรื่องนี้ได้มีการพูดคุย และสั่งการ รมว.แรงงานให้ช่วยดูแล และกระทรวงอื่นๆ ด้วย หากเขากลับมาแล้วต้องช่วยดูแลตรงนี้ให้ดี และเป็นเรื่องที่ตนเชื่อว่ารัฐมนตรีทุกท่านตระหนักดี 

เมื่อถามว่า จะมีมาตรการอะไรที่จะกระตุ้นแรงงานไทยที่กลับมาหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า ได้ให้รัฐมนตรีไปดู ซึ่งได้สั่งการไปแล้ว เดี๋ยวคอยฟังเขากลับมาก่อน ขณะที่ ร้อยเอก ธรรมนัส พรหมเผ่า รมว.เกษตรและสหกรณ์ ได้ช่วยดูแรงงานที่เดินทางกลับมาเพราะแรงงานภาคการเกษตรที่กลับมาจากอิสราเอลเป็นแรงงานที่มีคุณภาพ ซึ่งต้องดูเรื่องผลตอบแทนให้มันดีขึ้น

นายกฯ กล่าวอีกว่า ส่วนรายงานความคืบหน้าเรื่องของตัวประกัน ผู้บาดเจ็บ และคนเสียชีวิตยังเท่าเดิมอยู่ การที่เราเอาคนกลับเข้ามาได้วันหนึ่ง 600-800 คน ยังเป็นไปได้อยู่ และมีผู้แสดงเจตจำนงจะกลับมาก็มีมากขึ้น และต้องขอขอบคุณพี่น้องสื่อมวลชนที่ช่วยกันเสนอข่าวให้กับแรงงาน และญาติพี่น้องทั้งหลายให้บอกให้กลับมาเถอะ มันไม่คุ้มที่จะเสี่ยงชีวิตอยู่ 

เมื่อถามว่า เรื่องข่าวที่จะมีการปล่อยตัวประกันได้รับรายงานจากฝ่ายความมั่นคงเพิ่มเติมหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่ายัง เดี๋ยวบ่ายๆ จะมีการโทรคุยกัน หวังว่าคงจะได้รายละเอียดบ้าง เพราะเรายังไม่ทราบชะตากรรม 19 ชีวิตนี้เป็นอย่างไรบ้าง ก็ต้องเรียนอย่างนี้ตรงๆ แต่ได้มีการคุยกันอย่างต่อเนื่อง 

 

 

 

พิสูจน์อักษร....สุรีย์  ศิลาวงษ์