คุกคามทางเพศ เขย่า ‘แลนด์สไลด์ส้ม’ เตะถ่วง สส.ลาออก-เสี่ยงแพ้เลือกตั้งซ่อม
"...“คลื่นสีส้ม” เวลานี้ค่อนข้างแผ่วบางลง สะท้อนให้เห็นผ่านการเลือกตั้ง “นายก อบจ.กาญจนบุรี” เมื่อ 22 ต.ค.ที่ผ่านมา สะท้อนให้เห็นว่า การคัดเลือกบุคคลเพื่อลงสมัครรับเลือกตั้งนั้น เป็นเรื่องสำคัญ เพราะบริบทการเมืองเปลี่ยน “กระแส” มิอาจสู้ “ตัวบุคคล” ได้..."
“องคาพยพสีส้ม” กำลังเป็น “ตำบลกระสุนตก” โดนเสียงวิพากษ์วิจารณ์ถาโถมในหลายประเด็น แม้แต่เรื่องคดีความที่กำลังคาราคาซังในชั้นศาลรัฐธรรมนูญ เช่น คดีการหาเสียงด้วยนโยบายการแก้ไขหรือยกเลิกประมวลกฎหมายอาญา มาตรา 112 คดีหุ้นสื่อที่มีการกล่าวหา “พิธา ลิ้มเจริญรัตน์” อดีตหัวหน้าพรรค ปัจจุบันเป็นประธานที่ปรึกษาหัวหน้าพรรคคนใหม่ “ชัยธวัช ตุลาธน”
แต่สิ่งที่สาธารณชนกำลังโฟกัสในตอนนี้ หนีไม่พ้นคดี “คุกคามทางเพศ” ที่มีการกล่าวหา สส.ของพรรค อย่างน้อย 2 กรณี
1.กรณี วุฒิพงษ์ ทองเหลา สส.ปราจีนบุรี หลังจากทางพรรคได้รับคำร้องจากผู้ร้องเรียน ทางพรรคได้ริเริ่มกระบวนการสอบข้อเท็จจริงโดยคณะกรรมการวินัยพรรค เมื่อเดือนสิงหาคม โดยได้เชิญแต่ละฝ่ายที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อมูลเพิ่มเติมตลอดเดือนกันยายน พบว่าข้อกล่าวหาดังกล่าวมีมูล คาดว่าจะการวินิจฉัยจะได้ข้อสรุปภายในเดือน ต.ค.นี้
2.กรณี สส.ฝั่งธนบุรี รายหนึ่ง โดยช่วงสัปดาห์ที่ผ่านมากลุ่มผู้เสียหาย 3 รายได้รวมตัวกันแจ้งข้อมูลต่อคณะกรรมการวินัยของพรรค ปัจจุบันอยู่ในขั้นตอนเชิญบุคคลทุกฝ่ายที่เกี่ยวข้องมาชี้แจงข้อเท็จจริง
ทั้ง 2 เรื่องเรียกได้ว่า “สั่นสะเทือน” ความเชื่อมั่นของ “ก้าวไกล” เป็นอย่างยิ่ง โดยเฉพาะกรณีที่2 ซึ่ง “คนฝั่งธน” รู้ดีว่าพื้นที่ดังกล่าวเป็นฐานเสียงเดิมของ“บ้านใหญ่ฝั่งธน” เวลานี้ลามเป็นเกมการเมืองถูก “คู่แข่ง” ต่างพรรคแต่สนามเดียวกัน ขุดมาขยี้ซ้ำแถมโพสต์หราในโซเชียล หวังผลไปถึงการชิงคะแนนนิยมกลับคืนหากมีการเลือกตั้งในอนาคต
ยังไม่นับรวมกรณีก่อนหน้านี้เคยเกิดกรณีของ “สส.ก้าวไกล” ใช้กำลังทำร้ายร่างกายผู้หญิง ก่อนจบลงที่ฝ่ายชายและฝ่ายหญิงได้ “เคลียร์ใจ” กัน แต่ยังทิ้งไว้ซึ่งความ “คาใจ” จากประชาชน
นอกจากนี้ยังมีกรณี สก.ก้าวไกล ถูกกล่าวหาก่อเหตุล่วงละเมิดร่างกายผู้หญิงไม่ต่ำกว่า 4 คน ปัจจุบันพรรคได้ขับบุคคลดังกล่าวออกจากการเป็นสมาชิกแล้ว แต่ยังคงดำรงตำแหน่ง สก.อยู่
ประเด็นเหล่านี้เกิดขึ้นในรอบเพียงไม่ถึง 2 ปี สะท้อนให้เห็นถึงความไม่ชัดเจนในการ “คัดเลือกบุคคล” เพื่อมาลงสมัครรับเลือกตั้ง ทั้งระดับชาติ และระดับท้องถิ่น
ไม่ใช่แค่เคสเหล่านี้ ยังมีอีกหลายเคสที่แม้มิได้เป็นคณะทำงานของพรรค แต่ก็เป็นสมาชิกพรรคเช่นเดียวกัน
จึงไม่แปลกที่บรรดา สว. ซึ่งในทางการเมืองถือเป็น “ศัตรู” กับพรรคก้าวไกล ออกมาเรียกร้องให้นำเรื่องนี้มาถกในสภาฯ หวังสร้างแรงกระเพื่อมไปยัง “ฐานเสียงสีส้ม”
ประเด็นที่น่าสนใจ “ก้าวไกล” ในฐานะพรรคที่เป็นตัวแทนของ “คนรุ่นใหม่” มีนโยบายที่ค่อนข้าง “ก้าวหน้า” ไฉนจึง “ล่าช้า” ในการเคลียร์ประเด็นเหล่านี้
ทั้งที่ผ่านมาหากเกิดเหตุประเด็นดราม่าเกิดขึ้นกับพรรค ล้วนเคลียร์ปัญหาได้รวดเร็วทันท่วงที
ที่น่าสนใจประเด็นนี้ อาจเป็นเพราะว่าการวางตัว “คณะบุคคล” เพื่อคัดเลือกหรือสรรหาคนมาลงสมัครรับเลือกตั้ง สส. และผู้บริหารท้องถิ่นอาจไม่ดีเพียงพอ ดังนั้นจึงไม่อาจตรวจสอบข้อมูลของบุคคลที่เข้ามาขอรับการสรรหาได้อย่างถี่ถ้วน แต่บางครั้งกลับ “เชื่อ” ผู้สมัครรับเลือกตั้งจนเกินควร เพราะหาบุคคลที่เหมาะสมในพื้นที่นั้น ๆ ไม่ได้
แม้ “ก้าวไกล” ในยุค “ชัยธวัช ตุลาธน” เป็นหัวหอกนำทัพ ประกาศจะส่งผู้สมัครชิงเก้าอี้ “ผู้บริหารท้องถิ่น” ทั่วประเทศแทน “คณะก้าวหน้า” ที่จะวางมือเพื่อ “ปักธงทางความคิด” อย่างเดียว
แต่หากไม่แก้ไขปัญหาเรื่อง “คัดเลือกบุคคล” เพื่อเข้ารับการสรรหาให้สมัครรับเลือกตั้ง ย่อมจะเกิดปัญหาใหญ่ตามมาได้
นอกจากเรื่องนี้แล้ว “คลื่นสีส้ม” เวลานี้ค่อนข้างแผ่วบางลง สะท้อนให้เห็นผ่านการเลือกตั้ง “นายก อบจ.กาญจนบุรี” เมื่อ 22 ต.ค.ที่ผ่านมา
ยิ่งสะท้อนให้เห็นว่า การคัดเลือกบุคคลเพื่อลงสมัครรับเลือกตั้งนั้น เป็นเรื่องสำคัญ เพราะบริบทการเมืองเปลี่ยน “กระแส” มิอาจสู้ “ตัวบุคคล” ได้ หากเป็น “การเมืองท้องถิ่น” ที่ “บ้านใหญ่” มีบทบาทชี้นำสูง
ทว่า “ก้าวไกล” ยังคงติดภาพลักษณ์ “ดูดี-ก้าวหน้า” ทำตัวเหนือกว่า “พรรคอื่น” ทั้งที่ข้อเท็จจริงที่ผ่านมา ก็สะท้อนให้เห็นชัดว่า เป็น “พรรคการเมือง” พรรคหนึ่ง มีวิธีเล่นเกมการเมืองแทบไม่ต่างจากพรรคอื่น ๆ มากนัก
อาจล้ำกว่าในเรื่อง “การตลาดการเมือง” ที่ไปไกลเกินกว่าพรรคไหนจะเอื้อมถึงหรือทำได้ เพราะฉะนั้นหากไม่รีบแก้ไขปัญหา “เชิงโครงสร้าง” ภายในพรรคตัวเองให้เรียบร้อยก่อนจะสายเกินไป
“แลนด์สไลด์ส้ม” ในการเลือกตั้งครั้งหน้า คงเป็นได้แค่ “ฝัน” เท่านั้นเอง