ภูมิธรรม ชี้ กู้ 5.6 แสนล้าน 'ดิจิทัลวอลเล็ต' ไร้ปัญหา สมัยประยุทธ์ ยังทำได้
"ภูมิธรรม" เผย ยินดีให้ ป.ป.ช. ตั้งทีมศึกษาตรวจความเรียบร้อย "ดิจิทัลวอลเล็ต" หากข้องใจ หารือได้ ชี้ กระตุ้นศก.เป็นกระดุมเม็ดแรก ทำ GDP โต ถ้าทำไม่ได้ อนาคตมืดมน แจง กู้ 5.6 แสนล้าน ไร้ปัญหา อ้างสมัยประยุทธ์ ยังทำได้ ใช้เป็นล้านล้าน
นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายก รัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ กล่าวถึงกรณีคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตแห่งชาติ (ป.ป.ช.) ตั้งคณะกรรมการเพื่อศึกษาและดำเนินการรับฟังความเห็นเกี่ยวกับนโยบายการแจกเงิน 10,000 บาท ผ่านดิจิทัลวอลเล็ต ว่า มองในแง่ดีป.ป.ช.พยายามดูให้เรียบร้อยและถูกต้องตามกฎหมายมากที่สุด ไม่มีปัญหาและยินดีให้ป.ป.ช.ศึกษา และแลกเปลี่ยนกับรัฐบาล ขอให้เอาวัตถุประสงค์ของโครงการ ที่ต้องการกระตุ้นเศรษฐกิจเป็นที่ตั้ง เนื่องจาก 9-10 ปีที่ผ่านมา เศรษฐกิจของประเทศ ล้มลุกคลุกคลาน หากฟังจากนักเศรษฐศาสตร์ทั่วโลก จะทราบว่าประเทศของเราอยู่ในระดับใด หากยังไม่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้ อนาคตข้างหน้าของเรานั้นมืดมน
นายภูมิธรรม กล่าวว่า หากเศรษฐกิจ ของเราตกลงมากกว่านี้ก็จะมีปัญหา ถ้าย้อนดูก่อนการรัฐประหาร ปี 2557 เช่น เมืองอุดรธานี เป็นเมืองที่คึกคักมาก ประชาชน จากฝั่งลาวเข้ามาเที่ยวในสมัย น.ส.ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร เป็นนายกรัฐมนตรี เศรษฐกิจเติบโต แต่เมื่อมีการรัฐประหาร นักท่องเที่ยวก็ค่อยๆหายไป กลุ่มธุรกิจเอสเอ็มอี ก็ค่อยๆล้มไป เศรษฐกิจฟุบมาจนถึงทุกวันนี้ เพราะฉะนั้น ถ้าปรารถนาจะให้ประเทศเติบโตได้ต้องพัฒนาเศรษฐกิจให้ได้
นายภูมิธรรม กล่าวว่า ดังนั้นวัตถุประสงค์ การกระตุ้นเศรษฐกิจ ถือเป็นกระดุมเม็ดแรก ที่จะทำให้ GDP ของประเทศเติบโต ก้าวพ้นหลุมดำของปัญหา ขอให้ป.ป.ช.คำนึงถึงวัตถุประสงค์และตรวจสอบตามวัตถุประสงค์ ดูว่ามีข้อกฎหมายอะไรบ้าง หากข้อกฎหมายนั้นล้าสมัย ก็ขอให้ช่วยกันมองว่า จะหาทางออกอย่างไร ไม่อยากให้ใช้วัตถุประสงค์ ของตนเป็นที่ตั้ง และฝากถึงป.ป.ช. หากติดข้องหมองใจ หรือเห็นแตกต่างกันก็ให้มาหารือกัน ช่วยกันคิด ช่วยกันพัฒนา
เมื่อถามย้ำว่า พร้อมที่จะปรับหลักเกณฑ์ แต่ไม่ถอยใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่าวัตถุประสงค์ต้องเอาเป็นที่ตั้ง แต่กระบวนการ ถ้าเป็นไปตามวัตถุประสงค์ก็จะดี ต้องไปดูว่าจะกระตุ้นเศรษฐกิจได้อย่างที่เราปรารถนาหรือไม่ ถ้ายังอยู่ในวัตถุประสงค์ที่สามารถกระตุ้นเศรษฐกิจได้ก็ถือว่าไม่มีปัญหา ขณะที่การกู้เงิน 5.6 แสนล้าน เป็นการกระตุ้นเศรษฐกิจที่ไม่มีปัญหายากลำบาก รัฐบาลพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา ใช้เงินเป็นล้านล้านบาท และเป็นพระราชกฤษฎีกาก็ออกมาแล้ว ไม่มีปัญหาอะไร ถ้าเห็นว่าประเทศวิกฤติต้องเดินหน้า ก็ควรจะต้องช่วยกัน ซึ่งตนคิดว่าโครงการนี้เป็นผลงานของประชาชนร่วมกันทั้งประเทศ ทุกคนจะมีส่วนร่วมเป็นกำลังซื้อช่วยกันในช่วงที่มีปัญหาเศรษฐกิจ ก็อยากขอความร่วมมือเรื่องนี้ไม่ใช่เรื่องของพรรคใด ไม่ใช่เรื่องของรัฐบาลคนเดียว