นายกฯ ขอแรงงานไทยในอิสราเอล รีบตัดสินใจกลับ หวั่นจู่โจมภาคพื้นจะอพยพลำบาก
นายกฯ เศรษฐา ย้ำ ห่วงแรงงานไทยในอิสราเอล ขอให้รีบตัดสินใจกลับ หวั่นอิสราเอลจู่โจมภาคพื้นถนนจะถูกตัดขาด การเดินทางจะยิ่งลำบากมากขึ้น
วันนี้ (29 ต.ค.66) เวลา 12.00 น. ณ กองบิน 23 จังหวัดอุดรธานี นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังให้สัมภาษณ์ถึงความคืบหน้าการช่วยเหลือแรงงานไทยในอิสราเอล กลับประเทศไทย ว่า ตั้งแต่เกิดเหตุการณ์ตัวเองก็นอนไม่หลับ ซึ่งสงครามควรจะให้จำกัดอยู่ในพื้นที่ แต่ตอนนี้ความอันตรายเริ่มจะขยายไปในภาคพื้นไม่อยากให้เกิดขึ้นเพราะมีแรงงานไทยอยู่ในพื้นที่เยอะ
ขณะที่ฝ่ายความมั่นคงและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยก็เป็นห่วงเรื่องนี้ แรงงานของจังหวัดอุดรธานีก็ทำงานอยู่ในพื้นที่สู้รบเยอะ หน่วยงานในจังหวัดรวมถึงสมาชิกสภาผู้แทนราษฎรต่างช่วยกันกระจายบอกกล่าว หากจะเดินทางกลับมาพร้อมกันแล้วมีขีดจำกัด
ปัจจุบันรัฐบาลรับคนกลับมาได้มากสุด 1,000 คนแล้ว หากเกิดสงครามในภาคพื้นดิน ถนนจะถูกตัดขาด การเดินทางจะยิ่งลำบากมากขึ้น ทั้งนี้ จะมีหนึ่งในคณะรัฐมนตรีเตรียมจะบินไปประเทศแถบตะวันออกกลางในเร็ว ๆ นี้เพื่อหารือการช่วยเหลือตัวประกัน
นายกฯ กล่าวต่อไปว่าตลอด 2 วันที่ผ่านมา รู้สึกไม่สบายใจเป็นอย่างมาก อยากให้แรงงานไทยรีบกลับมา แต่ยังคาดหวังว่าจำนวนคนที่เปลี่ยนใจไม่เดินทางกลับจะมีน้อยลง พร้อมกล่าวย้ำว่า รัฐบาลพร้อมที่จะเพิ่มเที่ยวบินรับคนไทยกลับให้มากขึ้น ทั้งฝ่ายความมั่นคงและกลาโหมให้ความสำคัญกับการลำเลียงคน แต่มีปัญหาเรื่องของการเดินทางอยู่เหมือนกัน จึงต้องขอให้รีบแจ้งว่าจะเดินทางกลับ โดยในวันอังคารนี้รัฐบาลจะออกมาตรการเสริมสำหรับแรงงาน ทั้งการออกมาตรการเงินกู้ระยะต่ำ และระยะยาวเพื่อให้ไปใช้หนี้ ซึ่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงานได้รวบรวมข้อเสนอมาแล้ว และจะนำเสนอในที่ประชุมคณะรัฐมนตรีในวันอังคารนี้
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ไม่อยากให้คิดหรือประเมินถึงขั้นว่าจะรับคนไทยกลับไม่ได้ หากนำคนไทยกลับมาประเทศผ่านสายการบินไม่ได้ก็ต้องอาศัยทางบก หากทางบกมีปฏิบัติการภาคพื้นก็จะเดินทางลำบาก มีความเสี่ยง รวมถึงความโหดร้ายจากสงคราม ซึ่งแต่ละฝ่ายก็ไม่ยอมยึดกติกาในการทำสงคราม ผู้เสียหายผู้บริสุทธิ์ก็จะเป็นเหยื่อ อย่างที่ตนเองได้ย้ำไปตั้งแต่วันแรกที่มีการสู้รบว่า ประเทศไทยไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของความขัดแย้ง และไม่อยากให้มีคนบาดเจ็บหรือเสียชีวิต จึงเป็นหน้าที่ของรัฐบาลที่จะต้องทำงานอย่างหนักเพื่อนำคนไทยกลับมาให้โดยเร็วที่สุด
นายกรัฐมนตรีกล่าวถึง กรณีที่อิสราเอลเปิดคลิปแรงงานไทยถูกทำร้ายในเวทียูเอ็นว่า กำลังให้ตรวจสอบอยู่ว่ามีข้อเท็จจริงอย่างไร แต่เป็นเรื่องที่น่าเสียใจเพราะไม่ใช่เรื่องที่จะมาเปิดเผย เป็นอะไรที่ไม่ค่อยดีเท่าไร แค่นี้สงครามก็โหดร้ายพอแล้ว อย่าไปเติมน้ำมันเข้าไปในไฟ เพราะประเทศไทยเป็นประเทศที่อยู่ตรงกลาง ไม่ได้เป็นส่วนหนึ่งของความขัดแย้ง ต้องการเพียงแค่ให้คนของเราปลอดภัยและตัวประกันออกมาเร็วที่สุด
ส่วนที่จะให้กองทัพอากาศเพิ่มเที่ยวบินไปรับคนไทยนั้น นายกรัฐมนตรีกล่าวว่า ต้องดูจำนวนคนที่แจ้งความประสงค์จะเดินทางกลับ หากเพิ่มเที่ยวบินไปแล้วคนเดินทางกลับมาน้อยก็จะไม่คุ้ม ขณะเดียวกันก็มีความเป็นห่วงเจ้าหน้าที่ไทยที่ปฏิบัติงานอยู่ที่อิสราเอล แต่มีหลายคนที่สมัครใจที่จะไปปฏิบัติภารกิจช่วยเหลือเอาคนไทยกลับ พร้อมกล่าวย้ำว่า บุคลากรที่เสนอตัวไปไม่มีขีดจำกัด ทุกคนให้ความร่วมมือเป็นอย่างดี