‘จอมทอง’ต้องคำสาป‘2อาถรรพ์เขย่าส้ม’ จังหวะ‘บ้านใหญ่-บ้านใหม่’สางแค้น

อาจเรียกได้ว่า “ค้านสายตา” รวมถึงถูกตั้งคำถามอยู่พอสมควร หลังกลางดึกวันที่ 1พ.ย. พรรคก้าวไกลแถลงมติเกี่ยวกับผลสอบกรณี คุกคามทางเพศของสส.พรรคใน2กรณี กรณีแรกคือ กรณีของ “วุฒิพงศ์ ทองเหลา” สส.ปราจีนบุรี ซึ่งพรรคมีมติออกจากพรรค 

ขณะที่อีกกรณีคือ กรณีของ “ปูอัด” ไชยามพวาน มั่นเพียรจิตต์ สส.กทม. ซึ่งเสียงส่วนใหญ่ 106 เสียง จาก 128 เสียงที่มาประชุม เห็นควรให้ขับออกจากพรรค แต่เสียงไม่ถึง 3 ใน 4 ของ สส.และกรรมการบริหารพรรคที่มีอยู่ 116 เสียง จึงยังไม่สามารถมีมติให้ขับพ้นออกจากสมาชิกพรรคได้

ความแตกต่างกันของ2กรณีนอกเหนือจากจะนำมาซึ่งดราม่า ไม่เว้นแม้แต่ในพรรคที่ถึงขั้นขึ้นรูปจอดำ สมาชิกสุภาพสตรีบางคนถึงขั้นทวงถามไปยัง “ปูอัด” ไชยามพวาน ถึงความรับผิดชอบในฐานะผู้แทนประชาชน 

พิศรักปมฉาวดังกล่าว ไม่เพียงแต่ทิ้งไว้ซึ่งแรงสั่นสะเทือนที่อาจลุกลามจนฉุดคะแนนนิยมพรรคก้าวไกลแต่เพียงเท่านั้น

แต่ยังเป็นปมร้อนที่ฝ่ายคู่แข่งนำมา "ขยี้ซ้ำ" หวังผลไปที่การลดทอนความเชื่อมั่นของตัว "ไชยามพวาน"  รวมถึงพรรคก้าวไกลเป็นรอบที่สอง หลังเจอพิษ “งูเห่าอนาคตใหม่” มาแล้วในการเลือกตั้งเมื่อปี2562 

อย่างที่รู้กันพื้นที่ดังกล่าวถือเป็นขุมกำลังบ้านใหญ่ทั้งบ้าน “วีรกุลสุนทร”โดยเฉพาะโซนจอมทองเกือบทั้งหมด รวมถึงบ้านใหญ่ “ม่วงศิริ”  ที่แผ่อำนาจมาตั้งแต่ยุคกำนันปลิว ม่วงศิริ ผู้เป็นพ่อ

ย้อนกลับไปการเลือกตั้งเมื่อปี2562 เขตจอมทองถือเป็นหนึ่งในหลายพื้นที่ที่เจอกระแส “พรรคส้มล้มแชมป์” เวลานั้นพรรคอนาคตใหม่ส่งให้“อ๋า”โชติพิพัฒน์ เตชะโสภณมณี ลงชิง กวาดไป27,651คะแนน ตีตั๋วผู้แทนเข้าสภา

ขณะที่ผู้สมัครหน้าใหม่ อย่าง “อ้น”ทิพานัน ศิริชนะ ในนามพลังประชารัฐ ได้กระแสลุงตู่  ตีตื้นมาที่ 26,015 คะแนน  แพ้ไปอย่างน่าเสียดายเพียง 1พันกว่าคะแนน 

ขณะที่“ซ้อนัน”นันทพร วีรกุลสุนทร อาซ้อบ้านใหญ่แชมป์เก่าเวลานั้นสังกัดพรรคประชาธิปัตย์ และเป็นศรีภรรยา“เฮียล้าน” สุทธิชัยวีรกุลสุนทร อดีตสก.หล่นมาอยู่อันดับ4 ได้คะแนน17,247 คะแนน

ไม่ต่างจาก“สุวัฒน์ ม่วงศิริ”  บ้านใหญ่ม่วงศิริ ลูกชายกำนันปลิว สวมเสื้อภูมิใจไทยได้คะแนนมาอันดับ7ด้วยคะแนนเพียง2,379 กว่าคะแนน

ทว่า ภายหลังการยุบพรรคอนาคตใหม่ ได้เกิดปรากฎการณ์สส.เทใจออกห่างส้ม หนึ่งในนั้นคือ “อ๋า”โชติพิพัฒน์ ที่ย้ายไปสังกัดภูมิใจไทย

ส่วน“เฮียล้าน”ขนบ้านวีรกุลสุนทรย้ายเข้าพรรคก้าวไกลได้ไม่นาน ก่อนที่ต่อมาจะเปลี่ยนมาสังกัดพรรคเพื่อไทยในท้ายที่สุด

ศึกเลือกตั้งสก.เมื่อปี2565“เฮียล้าน”สวมเสื้อเพื่อไทยลงรักษาแชมป์สนามสก.ได้สำเร็จ

ส่งผลไปถึงสนามใหญ่เมื่อต้นปี2566  “เฮียล้าน” ส่ง“ลิ้ม”ศรัณยสัณฑ์ วีรกุลสุนทร  เจ้าของฉายา “ล้านจูเนียร์”ลูกชายคนโตลงชิงในเขตดังกล่าว

ขณะที่พรรคก้าวไกลขอล้างแค้นส.ส.แปรพักต์ส่ง “ปูอัด”​ไชยามพวาน  ผู้ร่วมก่อตั้งแอปStart Dee  และตัวแทนกลุ่มรีโซลูชั่นรณรงค์แก้ไขรัฐธรรมนูญฉบับประชาชนลงชิงเขตดังกล่าว 

เช่นนี้จึงไม่แปลกในวันที่มีข่าวฉาวเกิดขึ้นในค่ายส้ม “ไอติม” ไพริษฐ์ วัชรสินธุ ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล และเป็นอดีตแกนนำกลุ่มรีโซลูชั่น ซึ่งคุ้นเคยกับ “ปูอัด” เป็นอย่างดี จะรีบชิงออกมาสยบครหารวบรวมเสียง"โหวตอุ้ม"  โดยเขาย้ำชัดเป็นหนึ่งในสส.ที่ “โหวตขับ” ปูอัด-ไชยามพวาน พ้นพรรค

ขณะที่ในช่วงหาเสียง ปูอัดพร้อม สส.ตัวแม่เหล็กพรรค อาทิ “รังสิมันต์ โรม” โฆษกพรรคเวลานั้น ถึงขั้นเคียงคู่ลงพื้นที่เคาะประตูบ้าน ลงทุนยกมือไหว้ขอโทษน้อมรับความผิดพลาดในการคัดเลือกผู้สมัครรอบที่แล้วเพื่อขอโอกาสแก้ตัวรอบนี้อีกครั้งและจะไม่ให้เกิดเหตุการณ์เหมือนในอดีต

ส่วนคู่แข่งคนอื่นยังมี “อ้น”ทิพานัน  ที่ขยับขึ้นบัญชีรายชื่อ พรรครวมไทยสร้างชาติ ส่ง “มินทร์ ลักษิตานนท์” ทีมงานและอดีตผู้สมัครสก.ลงชิงเขตดังกล่าว

ไม่ต่างจาก “สุวัฒน์” ที่จบดีลที่การผนึกกำลัง“ม่วงศิริ”ในสาย“ประเสริฐ ม่วงศิริ”ผู้เป็นอา ภายใต้ชายคาพรรรคประชาธิปัตย์ ลงสู้ศึกในการเลือกตั้งครั้งดังกล่าวเช่นเดียวกัน 

อย่างที่รู้กันว่าในการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมาสนามเมืองหลวงถูกสีส้มปกคลุมไปถึง32เขต จากทั้งหมด33เขต ไม่เว้นแม้แต่เขต26 ประกอบด้วย บางขุนเทียน(เฉพาะแขวงท่าข้าม) และจอมทอง(ยกเว้นแขวงบางขุนเทียน) ​ “ปูอัด”​ไชยามพวาน ชนะแบบท่วมท้นด้วยคะแนน 46,570 คะแนน ขณะที่ “เสี่ยลิ้ม”ศรัณยสัณฑ์ จากพรรคเพื่อไทย ได้คะแนนมาเป็นลำดับ2ด้วยคะแนน 19,813 คะแนน 

ฉะนั้นเมื่อเจาะลึกไปที่สมรภูมิดังกล่าว ที่แม้จะอยู่ชานเมืองด้านฝั่งธน หรือการเลือกตั้งแต่ละครั้งอาจไม่ได้รับความสนใจมากนัก แต่เมื่อเกิด “พิศรักปมฉาว” เกิดขึ้น แน่นอน ว่าย่อมกลายเป็นเกมการเมืองที่เข้าทางคู่ต่อสู้ในการหยิบมา "ขยี้ซ้ำ" หวังผลไปที่การลดทอนความเชื่อมั่นของคู่ต่อสู้ 

ทั้ง “เสี่ยลิ้ม”ศรัณยสัณฑ์ ที่โพสต์ผ่านเฟซบุ๊คส่วนตัว รูปปูอัด3ไม้ทันทีที่ปรากฎข่าว หรือล่าสุดคล้อยหลังจากพรรคก้าวไกลมีมติไม่นานเจ้าตัว ได้โพสสเตตัสลายส้ม พร้อมข้อความ "คิดยังไงกับพวกที่ชอบพูดว่ามีอุดมการณ์สูง แต่จริยธรรมต่ำ" 

เขายังตอบคอมเม้นหนึ่งที่ขุดไปเมื่อครั้งเคยร่วมงานกับพรรคก้าวไกลว่า วันนี้"คายส้ม" เพราะอุดมการณ์ไม่ตรงกัน

ไม่เว้นแม้แต่อีกหนึ่งคู่ปรับเก่า “อ๋า”โชติพิพัฒน์ ซึ่งเป็นศิษย์เก่าค่ายส้มล่าสุด ยอมรับเป็นตัวตั้งตัวตีขึ้นป้าย “ไม่เอาสส.คุกคามทางเพศ” ร่วมทั้งยื่นกกต.เพื่อตรวจสอบกรณีดังกล่าว

หากอ่านเกมการเมืองในพื้นที่ในแง่ของการชิงกระแสอาจไม่ได้มีผลสักเท่าไรนัก เพราะการเลือกตั้งรอบที่ผ่านมา "โชติพิพัฒน์" ในสังกัดภูมิใจไทย ร่วงมาอยู่ลำดับ6ด้วยคะแนนเพียง  2,282 คะแนน 

ฉะนั้น การเคลื่อไหวดังกล่าว อาจเป็นเพียงการเอาคืนบ้านเก่ากระทบชิ่งไปยังคู่แข่ง ที่เคยตราหน้าตนว่าเป็น “สส.งูเห่า” ถึงขั้นมีการขนคนไปวางพวงหรีดหน้าสำนักงานพรรคเขตจอมทองมาแล้ว 

จากพิศรักปมฉาวที่เกิดขึ้นบวกมติพรรคก้าวไกลที่ออกมา แม้ดูเหมือนจะต่อลมหายใจ และทำให้ยามนี้  “ปูอัด”​ไชยามพวาน จะยังคงสถานะเป็นสส.พรรคก้าวไกลอยู่ก็ตาม แต่ด้วยแรงกดดันที่เกิดขึ้นเวลานี้ ลุกลามไปถึงขั้นทวงถามเรื่องจริยธรรม และความรับผิดชอบด้วยการลาออก

ไม่ต่างจากคู่แข่งที่พยายามขยี้ซ้ำในเรื่อง“2อาถรรพ์พรรคส้ม” หวังลดทอนความเชื่อมั่น เพื่อรอจังหวะสางปมแค้นหากมีการเลือกตั้งเกิดขึ้นหลังจากนี้

ซึ่งต้องติดตามว่าพรรคก้าวไกลจะแก้เกมอย่างไรเพื่อรักษากระแส "ส้มรักพ่อ" ไว้ดังเดิม!!