'ปานปรีย์' เผย ภาพเบลอ ไม่มั่นใจใช่ตัวประกันไทย สีหน้าสดใส ไม่ถูกพันธนาการ
"ปานปรีย์" เผย ภาพเบลอ ไม่มั่นใจใช่ตัวประกันไทยหรือไม่ พบคนหลายชาติถูกจับ ยันไม่ถูกพันธนาการ สีหน้าสดใส สรุปตัวเลข แรงไทยในอิสราเอล เหลืออีกเป็นหมื่น
วันที่ 7 ต.ค.เวลา 08.40 น.ที่ทำเนียบรัฐบาล นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวถึงการช่วยเหลือแรงงานไทย อิสราเอลที่ถูกจับเป็นตัวประกัน ล่าสุดมีผู้เสียชีวิต 34 คน บาดเจ็บ 18 คน และถูกควบคุมตัว 24 คนขณะนี้กำลังรอฟังข่าวดี ซึ่งยอมรับว่าในประเทศอิสราเอลมีการปฏิบัติการ ค่อนข้างหนักในฉนวนกาซา
เมื่อถามว่าจะมีการเพิ่มเที่ยวบินเพื่อไปรับแรงงานไทยที่จะกลับใจเดินทางกลับประเทศไทยหรือไม่ นายปานปรีย์ ระบุ ตอนนี้แรงงานไทยในอิสราเอลไม่อยากกลับแล้ว และศูนย์ที่รองรับผู้อพยพ แรงงานไทย ที่สถานทูตไทยประจำอิสราเอลจัดตั้งขึ้น ได้ยุบไปแล้ว แต่ยังมีศูนย์พักพิงชั่วคราว เพื่อรองรับคนไทยที่เปลี่ยนใจจะกลับ และจากข้อมูลที่ตนได้เดินทางไปประเทศกาตาร์ และประเทศอียิปต์ได้รับข้อมูลจากผู้นำระดับนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศทราบว่า ตัวประกันยังอยู่ในเขตฉนวนกาซ่าเพียงแต่คนที่จับตัวไปมีกลุ่มอื่น ประมาณ 2-3 กลุ่ม ไม่ใช่กลุ่มฮามาสเพียงอย่างเดียว ดังนั้นตัวประกันน่าจะแยกกันอยู่ แต่หากมีการปล่อยตัวประกัน คิดว่าจะปล่อยในช่องทางที่ปลอดภัย เช่นชายแดนประเทศอียิปต์ ซึ่งกระทรวงการต่างประเทศได้ประสานงานกับประเทศอียิปต์ไว้แล้ว โดยให้เจ้าหน้าที่ไทยสามารถไปรับตัวแรงงานไทยในอิสราเอล ที่ถูกปล่อยตัวในช่องทางนั้นได้
นายปานปีรย์ ยังสรุปตัวเลขแรงงานไทยในอิสราเอล จากที่ได้รับรายงานเดิมมีประมาณ 30,000 คน กลับมาแล้วประมาณ 8,000 คน ยอมรับว่ายังเหลืออีกเป็นหมื่นคน แต่อยู่ในพื้นที่ที่ปลอดภัย
เมื่อถามย้ำว่ามีข่าวดีเรื่องตัวประกันพอจะระบุรายละเอียดได้หรือไม่นั้น นายปานปรีย์ ระบุ จากกรณีที่ตนเดินทางไปเยือนประเทศต่างๆและได้รับข้อมูล มีการพูดคุยกันว่า คนไทยจะได้รับการปล่อยตัว เป็นกลุ่มแรก
เมื่อถามว่าได้เห็นภาพคนไทยที่ถูกควบคุมตัว เป็นอย่างไรบ้าง นายปานปรีย์ กล่าวว่า ได้เห็นมาระยะหนึ่งแล้วแต่ ไม่แน่ใจว่าเป็นคนไทยหรือไม่ เนื่องจากภาพไม่ชัด ภาพเบลอ และเข้าใจว่ามีคนหลายสัญชาติที่ถูกจับไป
"ผู้ถูกควบคุมตัวก็มีสีผมสีดำเหมือนคนไทย จึงไม่แน่ใจว่า เป็นคนไทยหรือเป็นคนชาติอื่น ซึ่งเป็นภาพถ่ายที่นั่งขัดสมาธิ แต่ไม่ได้ดูรายละเอียดว่าบาดเจ็บหรือไม่ แต่มีสีหน้าที่สดใส ซึ่งอยู่ภายในห้อง และไม่แน่ใจว่าเป็นห้องบนดินหรือห้องใต้ดิน และไม่ได้ถูกพันธนาการ ส่วนจะเป็นภาพเดิมที่เคยออกสื่อหรือไม่นั้น ผมไม่ทราบเพราะไม่เห็นว่าภาพที่ออกสื่อเป็นอย่างไร"นายปานปรีย์ ระบุ
เมื่อถามว่า ภาพตัวประกันที่ได้เห็น ไม่สามารถนำมาเปิดเผยได้ใช่หรือไม่ นายปานปรีย์ กล่าวว่า คงลำบากเพราะไม่ใช่ภาพที่มีแต่คนไทยอย่างเดียว แต่มีชาติอื่นด้วย
เมื่อถามว่า ทางมาเลเซียช่วยเราอย่างไรบ้าง นายปานปรีย์กล่าวว่า อย่างที่ได้บอกไปว่าต่างคนก็ต่างมีเครือข่าย ก็ช่วยๆ กัน เราไม่ได้เกี่ยงว่าใครเป็นคนไปเจรจา ถ้าเจรจาแล้วมีความสำเร็จก็ยินดี ส่วนที่มีกลุ่มของนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาฯ ไปช่วยเจรจาด้วยนั้น ก็เป็นเรื่องที่ดี ถือเป็นการไปช่วยอีกทางหนึ่ง แต่ในส่วนของตน ตนไปพบผู้นำของแต่ละประเทศที่มีความใกล้ชิดกับทางฮามาส ก็ถือว่าไม่เป็นไร ต่างคนต่างช่วย ต่างทำความเข้าใจ ว่าประเทศไทยไม่ได้เป็นศัตรูกับกลุ่มฮามาส และคนไทยกำลังรอการปล่อยตัวของผู้ที่ถูกจับตัวไป เรื่องนี้ใครช่วยได้ก็ดี
เมื่อถามถึงกระทรวงการต่างประเทศได้การเตือนคนไทยที่อยู่ในประเทศใกล้เคียงกับอิสราเอล หากสงครามลุกลามไปถึงประเทศข้างเคียงเหล่านั้นหรือไม่ นายปานปรีย์กล่าวว่า ตอนนี้ยังไม่ไปไกลถึงขนาดนั้น วันนี้เราทำในส่วนของอิสราเอล ซึ่งได้ทำตามเป้าหมายที่วางไว้แล้ว โดยสามารถนำคนกลับมาได้มากถึง 35 เที่ยวบิน ซึ่งถือว่าเยอะมาก ตั้งแต่ 3 ตุลาคม-4 พฤศจิกายน สามารถนำคนกลับมาได้ 8 พันคน และเข้าใจว่าคนที่กลับมาก็มีความสุขดี ส่วนคนที่อยู่เขาก็เต็มใจอยู่
เมื่อถามว่า เท่าที่มีการไปพูดคุยกับประเทศต่างๆ มีแนวโน้มหรือไม่ว่ากลุ่มฮามาสจะปล่อยตัวประกันไทย นายปานปรีย์กล่าวว่า ตอนนี้เราก็ขอให้เขาปล่อยคนของเรา ซึ่งเชื่อว่าประเทศอื่นๆ ที่มีตัวประกันอยู่ก็ทำเช่นนี้เหมือนกัน แต่ตนไม่แน่ใจว่าประเทศอื่นๆ ได้ไปพบผู้นำของ 3 ประเทศที่ตนได้ไปพบหรือไม่ เพราะตนได้เดินทางไปพบผู้นำกาตาร์ ผู้นำอิหร่าน และผู้นำอียิปต์ ซึ่งได้เป็นการพบกันแบบตัวต่อตัว และได้มีการปรึกษาหารือกับผู้นำประเทศอื่นๆ ด้วย ไม่ใช่แค่ 3 ประเทศนี้ เมื่อถามว่า นายกฯ ได้กำชับหรือเร่งรัดอะไรเป็นพิเศษหรือไม่ นายปานปรีย์กล่าวว่า ไม่มี ปล่อยให้เป็นไปตามกระบวนการ