‘นายกฯ’ โชว์ผลงาน 60 วัน แก้ปากท้อง รับ เวลานอนไม่พอ แต่หมดสิทธิ์บ่นเหนื่อย
”เศรษฐา“ แถลงผลงานครบ 60 วัน มาตรการเร่งด่วน “ลดราคาพลังงาน” แก้หนี้นอกระบบ ลั่น “ดิจิทัลวอลเล็ต” 10 พ.ย. เคลียร์ ชี้ “วีซ่าฟรี” หนุนท่องเที่ยว สานต่อรถไฟความเร็วสูง เกณฑ์ทหารแบบสมัครใจ ยัน พัฒนา ”กอ.รมน.“ ไม่ยุบ รับ เวลานอน เวลาทำงาน ไม่พอ ชี้ ปากท้องเรื่องใหญ่ ต้องกระตุ้นศก.
นายเศรษฐา ทวีสิน นายกฯและรมว.คลัง แถลงผลงานรัฐบาลครบรอบ 60 วัน ผ่านรายการพิเศษ Chance of Possibility จากนโยบายสู่การลงมือทำจริง 60 วัน ทางช่อง NBT ว่า มาตรการเร่งด่วน ลดรายจ่ายค่าไฟจาก 4 บาทกลางๆ เป็น 4.10 บาท แล้วก็เป็น 3.99 บาท เป็นการบ่งบอกถึงวิธีการทำงานของรัฐบาล อะไรทำได้เราทำก่อน ถ้าทำได้อีก ก็จะทำให้อีก ทำเพิ่มเติมต่อไปเราตระหนักดีว่าพี่น้องประชาชนเดือดร้อนมาโดยตลอด
เรื่องลดราคาค่าน้ำมันดีเซล ตอนนั้นเบนซินยังศึกษายังไม่ดีพอเราก็ยังไม่ลดจนกระทั่งจะลดวันที่ 10 พ.ย.นี้ ซึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมารมว.พลังงาน ก็ได้ประกาศไปแล้วอันนี้คือลดรายจ่ายส่วนหนึ่ง ลดรายจ่ายทางด้านดอกเบี้ย มีการพักหนี้เกษตร เรื่องจะทำต่อไปคือการดูแลปัญหาหนี้ครัวเรือน จะเป็นการลดปัญหาเรื่องหนี้สิน แต่อาจจะถือว่าเป็นระยะกลาง
นายกฯ กล่าวว่า ระยะกลางจะมีการลดหนี้ของหนี้นอกระบบ มีผู้ทำผิดกฎหมายเรื่องการชาร์จดอกเบี้ย อัตราดอกเบี้ยที่สูงเกินกว่ากฎหมายกำหนด ทำให้พี่น้องประชาชนต้องจ่ายเงินต้นเงินต้นไม่เคยลด เราก็ต้องลงไปบูรณาการอย่างชัดเจน ผมคิดว่าภายในอาทิตย์นี้หรืออาทิตย์หน้าน่าจะมีการแถลงข่าวเรื่องนี้และลงไปปฏิบัติการได้ภายในกลางเดือนธันวาคมนี้
นายกฯ กล่าวว่า เรื่องของดิจิทัลวอลเล็ต ผมเองก็จะมีการแถลง full package เพื่อให้ทุกฝ่ายเข้าใจในวันที่ 10 พ.ย.นี้ จะมีการแถลงพร้อมทั้งหน่วยงานที่เกี่ยวข้องไม่ว่าจะเป็นเรื่องหลักการ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องที่มาที่ไปของเงิน ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของใครได้รับบ้าง เป็นเรื่องของใช้กับสินค้าประเภทใดได้บ้าง กับระยะทางที่กำหนดไว้ตามบัตรประชาชนเป็นกิโลเมตร หรือเป็นอำเภอหรือเป็นตำบล จะมีการชี้แจงให้เกิดขึ้นได้ เรื่องของดิจิทัลวอลเล็ตในการเพิ่มรายได้
ส่วนเรื่องของเกษตรกรเป็นเรื่องสำคัญ เราจะต้องให้องค์ความรู้เรื่องของผลผลิตต่อไร่ของพืชผลหลายๆ ชนิด เรายังเป็นรองบางประเทศ แต่ไม่ใช่ว่าคนของเราไม่เก่ง เพราะว่าเรื่องขององค์ความรู้ยังไม่มีการใส่เข้าไปให้มันเต็มที่ตรงนี้ก็เป็นหน้าที่รัฐบาลที่ต้องพยายามทำ เรื่องของการใช้กลไกลการตลาด ในการเปิดการตลาดใหม่ๆ เช่น แอฟริกา ตะวันออกกลาง ขยายโอกาสก็เป็นการขยายรายได้ เพิ่ม Demand เพราะฉะนั้นราคาพืชผลก็น่าจะขยับขึ้นมาได้
เรื่องของภาคการท่องเที่ยวถือว่าเป็นการเพิ่มรายได้อีกส่วนหนึ่งอีกเหมือนกัน มีการให้วีซ่าฟรีกับคนจีน คาซัคสถาน ไต้หวัน อินเดีย มีเรื่องที่ไม่ต้องยกเว้นตม 6 ที่ทางภาคใต้ซึ่งอาทิตย์ที่ผ่านมานักท่องเที่ยวมาเลเซียร์ก็หลั่งไหลเข้ามาเต็มไปหมด คนรัสเซียเข้ามาอยู่ได้ฟรี 30 วัน
นโยบายที่ต้องใช้ระยะเวลา ต้องสนับสนุนให้เมืองรองเกิด ไม่ใช่มาแค่กรุงเทพฯ ภูเก็ต เชียงใหม่ พัทยา หัวหิน ทำให้การอยู่ของนักท่องเที่ยวยาวขึ้น การใช้จ่ายเยอะขึ้น เม็ดเงินไม่แค่กระจุตัวอยู่ที่หัวเมืองใหญ่อย่างเดียว อยากให้ลงไปที่เมืองรองด้วยเหมือนกันตรงนี้ เราก็ต้องดูเรื่องความพร้อมสนามบินด้วยสนามบินเชียงใหม่เอง ปัจจุบันมีความหนาแน่น นักท่องเที่ยวจากเกาหลีฯ ญี่ปุ่น จีน เขาอยากจะเที่ยวให้เต็มที่ แล้วก็อยากจะบินออกตอนหลังเที่ยงคืนกลับไปถึงประเทศเขาก็เช้าพอดีทำงานต่อได้
แต่สนามบินเชียงใหม่ก่อนวันที่ 1 พ.ย.ที่ผ่านมา ไม่อนุญาตให้มีการบินหลังเที่ยงคืน เราเข้าใจได้เสียงรบกวนพี่น้องประชาชนที่อาศัยอยู่บริเวณนั้น แต่เพราะการทำงานเชิงลึกมีการประสานงานอย่างดี ว่ามีความจำเป็นต้องขยายเวลาให้เครื่องบินขึ้นลงได้ ก็ไปเจรจากับคนที่อยู่ในพื้นที่ ใครเดือดร้อนตรงไหนมีการให้ผลตอบแทน หรือถ้าใครเอฟเฟคเยอะมากก็ให้เงินแล้วย้ายออกไป ส่งผลให้พื้นที่เห็นชอบขยายเวลาบินเป็น 24 ชั่วโมง ในระยะยาวเราจะไปสร้างสนามบินเชียงใหม่ International
แต่เพราะว่านโยบายหลักของเรานั้นไม่ใช่จะให้แค่เมืองหลักอย่างเช่นเชียงใหม่เป็นเมือง Destination ของท่องเที่ยวอย่างเดียว เราอยากให้ภาคเหนือ อยากให้ลำปาง ลำพูน เชียงราย เป็นด้วยเนี่ยเราก็คิดว่าก่อนที่จะคอยชื่อ Official เนี่ยเราก็จะตั้งว่าเป็นล้านนา International ใช่ไหมครับ หรือภูเก็ต International เราก็จะไปตั้งอยู่ตอนเหนือของภูเก็ต อยู่ในพื้นที่ของจังหวัดพังงา เราก็จะตั้งชื่อว่า อันดามัน International ตรงนี้เราได้เริ่มคิกออฟโครงการเหล่านี้ไปแล้ว เพื่อที่เราจะรองรับนักท่องเที่ยวต่อไปในอนาคต ยังมีอีกหลายๆ สนามบิน เราอาจจะต้องไปพัฒนาเพื่อ เช่น สนามบินน่าน อาจจะต้องอัพเกรดไปเป็น น่าน International Airport กระทรวงวัฒนธรรม กระทรวงต่างประเทศเองก็ช่วยกันผลักดันว่าต้องให้น่านเป็นเมืองมรดกโลก นักท่องเที่ยวต่างชาติจะเข้ามา
รถไฟความเร็วสูง 2 อาทิตย์ที่แล้วผมก็เดินทางไปประชุมที่ประเทศจีนอ เป็นเรื่องของการเชื่อมโยง Logistic ทั้งภูมิภาค ดำริมาโดยประธานาธิบดีสีจิ้นผิง 10 ปีแล้ว วันนี้เราก็ไปประชุมครั้งที่ 3 ทุกประเทศที่อยู่ในแผนงานได้ยืนยันตามเจตนารมณ์ว่าเราจะเดินต่อตรงนี้ ถ้าติดตรงไหนก็มาพูดคุยกัน
รถไฟความเร็วสูงเนี่ยเป็นเรื่องสำคัญ เรามีการก่อสร้างจากกรุงเทพฯไปถึงโคราช มี 14 สัญญา 14 ผู้รับเหมา เราก็จะต่อจากโคราชไปถึงขอนแก่น ขอนแก่นถึงหนองคาย หนองคายข้ามไปลาว แล้วก็ลาวไปถึงประเทศจีนได้
“ประเทศไทยมีศักยภาพสูงทางด้านเกษตรกรรม พืชผลต่างๆ ที่เราส่งไปจะมีประโยชน์มากถ้าเรามีรถไฟความเร็วสูง ผลไม้ต้องใช้เวลาในการเก็บเกี่ยวแล้วก็ส่งออก ถ้าเกิดเวลานานเกินไปในการขนส่ง เรื่องคุณภาพจะด้อยลงไป เพราะฉะนั้นเรื่องนี้เรายืนยันว่าเราจะดำเนินการต่อ แต่ว่าขั้นแรกเนี่ย ระหว่างที่จะมีการทำเรื่องรถไฟความเร็วสูงเนี่ยบางอย่างต้องมีทำรางคู่ก่อน" นายกฯ กล่าว
พืชเศรษฐกิจตัวใหม่คือทุเรียน คนจีนชอบมาก การบริโภคทุเรียนในประเทศจีนเฉลี่ย 7 กิโลกรัมต่อคน ประเทศไทย 5 กิโลกรัมต่อคน มาเลเซีย 11 กิโลกรัมต่อคน ปัจจุบันส่งออกประมาณสองแสนกว่าล้าน ต้องเน้นเรื่องการขนส่งซึ่งเป็นเรื่องสำคัญที่สุด
การไปต่างประเทศ ผมไปพบปะกับผู้นำต่างประเทศ ถือโอกาสนี้พบปะกับบริษัทใหญ่ๆ ที่สนใจที่จะมาลงทุนในประเทศไทย ไม่ว่าจะเป็นโรงงานผลิต ไม่ว่าจะเป็น Data Center พวกนี้เหล่านี้ต้องใช้ทรัพยากรทั้งนั้น ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของทรัพยากรน้ำ ตรงนี้เพียงพอ ปัจจุบันนี้พูดถึงเรื่องพลังงานสะอาด ต้องมีให้เพียงพอด้วย
"ก็เป็นเรื่องน่ายินดี แต่ขอไม่เอ่ยนามแล้วกันว่าอาทิตย์หน้าที่จะไปที่ซานฟรานซิสโก ไปที่ APEC จะมีการไปเจรจาต่อ แล้วก็จะมีการเซ็น MOU ด้วย" นายกฯ กล่าว
ทั้งนี้ นายกฯ กล่าวอีกว่า เราก็เป็นเซลล์แมน ต้องไปบอกว่าประเทศไทยเปิดแล้ว ไม่มีเวลาไหนที่จะดีเท่าเวลานี้ที่จะมาลงทุนที่ประเทศไทย เรามีความพร้อมไม่ว่าจะเป็นมาตรการสนับสนุนทางภาษี พลังงานสะอาด ค่าครองชีพถือว่าดี
Health Care Service ของเราก็ระดับ World Class โรงเรียน International ของเราก็มีให้ลูกหลานเขาอย่างเพียงพอ เพราะฉะนั้น เรามีความครบในการที่จะเสนอตัวว่าประเทศไทยเนี่ย จะเป็น Hub ของการผลิตในอุตสาหกรรมต่างๆ
ความต้องการวัวของจีนและซาอุดิอาระเบีย เป็นส่วนหนึ่งของที่เราประกาศจะเพิ่มรายได้ 3 เท่าให้กับพี่น้องเกษตรกรภายในเวลา 4 ปี 2 ประเทศ มีความต้องการวัวอย่างมาก
“ในช่วง 10 ปีที่ผ่านมา หนี้ครัวเรือนขึ้นสูงมาก เราต้องมีการลดตรงนี้ลงไปให้ได้ ลดมี 2 อย่างคือ ลดหนี้ กับเพิ่มรายได้ เราทำทั้ง 2 ทาง” นายกฯ กล่าว
ส่วนปัญหายาเสพติด ถือว่าเป็นปัญหาวาระแห่งชาติ นายกฯ ต้องนั่งหัวโต๊ะบริหารจัดการ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของการยึดทรัพย์ ซึ่งกระบวนการยังช้าอยู่ คนที่ค้ายาเสพติดไม่ได้กลัวติดคุก กลัวเรื่องการถูกยึดทรัพย์
เรื่องปัญหาทางด้านสังคม ปัญหาเรื่องความเหลื่อมล้ำต่างๆ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องของรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ก็ตามที เรามีการตั้งคณะกรรมการมาแล้ว นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ ก็ได้เขียนไทม์ไลน์ที่ชัดเจน
สมรสเท่าเทียม อาทิตย์ที่แล้วมีการสั่งการไปอีก 2 อาทิตย์ต้องทำเรื่องของการสอบถามความเห็นของทุกภาคส่วน แล้วเอาเข้าคณะรัฐมนตรีให้ได้ น่าจะยื่นเข้าสภาต้นเดือนธันวาคม สุราชุมชนก็ต้องทำเหมือนกัน
"การเกณฑ์ทหารแบบสมัครใจ ตอนนี้ทางรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมก็มีการพูดคุยกับผู้บัญชาการเหล่าทัพ เรื่องสรรพกำลังของทหารด้วยว่าต้องลดอย่างไร แน่นอนครับว่าเราต้องให้เยาวชนเรามีสิทธิเสรีภาพในการเลือกประกอบอาชีพ ถือว่าเป็นเรื่องนึงที่ทำให้เกิดความเหลื่อมล้ำความไม่สบายใจของสังคม" นายกฯ กล่าว
"เรื่องยุบหรือไม่ยุบกอ.รมน. ผมเองต้องบอกตรงๆ ผมเองก็ตกใจนะ ที่บอกว่าเอ๊ะ ทำไมท่านไม่ยุบ ผมไปหาเสียงที่ไหนไปเอาเทปมาดูได้ ผมไม่เคยบอกต้องยุบ นโยบายที่แถลงก็ไม่เคยบอกเรื่องนี้" ทุกๆ องค์กรไม่ใช่ กอ.รมน. อย่างเดียว ก็ต้องมีการพัฒนา เปลี่ยนแปลงไปตามการเปลี่ยนแปลงของสังคม สมัยก่อน กอ.รมน. รับมือเรื่องคอมมิวนิสต์ การก่อการร้าย วันนี้เรื่องสำคัญที่สุดคือเรื่องของปากท้องพี่น้องประชาชน ทางด้านผู้บัญชาการทหารบก กองทัพเองก็ตระหนักดีถึงเรื่องนี้ ก็จะมีการเปลี่ยนแนวทางในการที่จะใช้ กอ.รมน. เนี่ยเป็นแนวทางในการช่วยทำให้ชีวิตของพี่น้องประชาชนดีขึ้น โดยคำนึงถึงสิทธิเสรีภาพของพี่น้องประชาชน ไม่ให้ไปรุกรานสิทธิ์ ไม่ให้ไปกำจัดสิทธิของเขา ตรงนี้ก็มีการให้นโยบายไปและมีการพูดคุยกัน ก็ขอให้ดูกันไประยะกลางแล้วกัน
“ปัจจุบันนี้ก็มีที่ดินออกมาแล้วหมื่นกว่าไร่ แล้วก็จะทยอยออกมา ปัญหาน้ำท่วมเรื่องของภัยแล้งที่จะเกิดขึ้น เดี๋ยวคอยดูแล้วกันว่าทาง กอ.รมน. โดยที่ผมนั่งเป็นผู้อำนวยการ จะมีการพัฒนาไปได้มากน้อยขนาดไหนอย่างไร” นายเศรษฐา กล่าว
นอกจากนั้น นายเศรษฐา ยังได้เปิดเผยอีกว่า ที่ผ่านมา 60 วัน ในชีวิตเปลี่ยนไปเยอะไหม จริงๆ เราอาสาเข้ามาทำงาน ไม่มีสิทธิ์บอกว่าเหนื่อย ไม่มีสิทธิ์บอกอะไร แต่ว่าอุปสรรคสำคัญที่สุดก็คือเวลาไม่พอ เวลาไม่พอทุกอย่าง เวลาไม่พอในการทำงาน เวลาไม่พอในการนอน เพราะต้องมีงานพูดคุย มีงานทำอะไรหลายๆ เราตระหนักดีถึงความสำคัญที่จะต้องเร่งเข็นผลงานออกมา Quick Win เราต้องเร่งเข็นผลงานออกมา
ภาคส่วนที่สำคัญที่สุดภาคส่วนหนึ่งก็คือข้าราชการ ข้าราชการไทยเป็นข้าราชการที่มีคุณภาพแล้วก็รักประเทศชาติ ต้องการประเทศชาติพัฒนา เพราะฉะนั้นเรื่องของการที่เราต้องให้ความมั่นใจว่าการโยกย้ายข้าราชการ เรื่องของการให้การโปรโมทของข้าราชการ การฟังความคิดเห็นของทุกหน่วยงานเป็นเรื่องที่รัฐบาลนี้ให้ความสำคัญอย่างมาก
“เรื่องใหญ่ก็คือเรื่องของปากท้อง รัฐบาลนี้เราพยายามอย่างเต็มที่ที่จะทำทุกเรื่อง ที่เกี่ยวข้องกับเรื่องของปากท้อง อะไรทำได้เราจะทำก่อน แล้วก็จะทำอย่างไม่หยุดยั้ง ลืมเหน็ดเหนื่อย“
โดยนายกฯ กล่าวทิ้งท้ายว่า ต้องเข้าใจก่อนว่าปัจจุบันเศรษฐกิจอยู่ในภาวะที่ไม่ค่อยดี เพราะฉะนั้น การกระตุ้นเศรษฐกิจเป็นเรื่องสำคัญ ทุกกระทรวง ทบวง กรม ข้าราชการทั้งหลาย พยายามทำงานอย่างเต็มที่ ขอให้อดทน รัฐบาลนี้จะพยายามเข็นงานออกไปให้ได้โดยเร็วที่สุดเท่าที่สามารถทำได้