'จุลพันธ์' มั่นใจ พ.ร.บ. กู้เงิน ทำดิจิทัลวอลเล็ต ผ่านสภาฯ ทันใช้ พ.ค.67

เมื่อวันที่ 14 พ.ย. 66 เวลา 08.30 น. ที่ทำเนียบรัฐบาล  นายจุลพันธ์  อมรวิวัฒน์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง ในฐานะประธานคณะอนุกรรมการนโยบาย เติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ระบุขณะนี้อยู่ระหว่าง ส่งความเห็นให้คณะกรรมการกฤษฎีกาพิจารณา ส่วนจะส่งคำตอบกลับมาในอีกกี่วันนั้นยังตอบไม่ได้ ขณะนี้ยังไม่มีความเคลื่อนไหวเพิ่มเติม เพราะยังอยู่ระหว่างการปรึกษาฝ่ายกฎหมายให้เรียบร้อยเสียก่อน ส่วนกระแสสังคมมีความเห็นค้านกับการออกพ.ร.บ.เงินกู้ เป็นเรื่องปกติเพราะมีทั้งคนเห็นด้วยและเห็นต่าง แต่เรามีหน้าที่ทำให้ถูต้องตามกฎหมาย และพร้อมรับฟังความเห็นต่าง โดยที่ผ่านมามีการปรับเปลี่ยน รูปแบบบางส่วนตามที่รับฟังมา ทำโครงการนี้ให้เป็นประโยชน์มากที่สุด และเป็นไปตามกรอบของกฎหมาย

ส่วนที่หลายฝ่ายเรียกร้องให้เปิดเผยบันทึกการประชุม ของแต่ละหน่วยงานที่เห็นอย่างไร เช่นคณะกรรมการกฤษฎีกา และธนาคารแห่งประเทศไทย นายจุลพันธ์ ระบุ หากมีการถามมาสามารถตอบได้อยู่แล้ว ไม่มีอะไร เป็นเรื่องลึกลับซับซ้อน ซึ่งการมีความเห็นแตกต่างในแต่ละประเด็นเป็นเรื่องปกติ ส่วนจะมีการเปิดเผยบันทึกการประชุมหรือไม่ เป็นอีกเรื่องหนึ่ง เพราะไม่แน่ใจข้อกฎหมาย แต่ตนเองสามารถตอบได้แต่ละประเด็น

นายจุลพันธ์ ยังกล่าวถึง ความเห็นของนางสาวศิริกัญญา ตันสกุล รองหัวหน้าพรรคก้าวไกล ค้านการออก พ.ร.บ.เงินกู้ ที่รัฐบาลอ้างว่าเศรษฐกิจโตไม่ตามเป้า ว่ามุมมองของนางสาวศิริกัญญา มีมิติต่างกัน อาจจะเห็นความจำเป็น และความหนักหน่วงของสถานการณ์ทางด้านเศรษฐกิจแตกต่างจากรัฐบาล ขณะที่รัฐบาลมองว่าความเดือดร้อนของประชาชน มาถึงจุดแล้ว และเห็นว่า ทิศทางการเจริญเติบโต ทางเศรษฐกิจมีปัญหา 

ซึ่งสุดท้ายมีขั้นตอนของกฎหมาย ที่ผู้มีอำนาจวินิจฉัยจะมีความเห็นออกมา โดยความเห็นที่แตกต่าง สามารถมาพูดคุยหารือกันได้ ส่วนเสียงเรียบร้อย ให้สามารถ ใช้เงินดิจิทัล 10,000 บาทได้ในเดือนเมษายนนั้น ไม่ทัน ในเรื่องของกรอบเวลา เพราะการออกพ.ร.บ. มีขั้นตอนทางกฎหมาย ในกรณีที่ไม่มีอุปสรรคใดๆ เร็วสุด จะสามารถออกได้ในเดือนพฤษภาคม

นายจุลพันธ์ยังแสดงความมั่นใจว่าเมื่อพ.ร.บเงินกู้ นำเข้าสภาจะผ่านการพิจารณา โดยตนมีความมั่นใจไม่เช่นนั้นคงจะไม่ออก พ.ร.บ.เงินกู้ 

เมื่อถามย้ำว่าพรรคร่วมให้ความมั่นใจกับรัฐบาลหรือไหม นายจุลพันธ์ ระบุ ไม่ได้เป็นผู้ประสานแต่เท่าที่ฟังทุกคนเห็นถึงความเดือดร้อนของประชาชน และความจำเป็นทางด้านเศรษฐกิจเช่น เดี๋ยวกลับสมาชิกวุฒิสภาก็ไม่น่าจะเป็นอุปสรรค ทุกคนคงจะเห็นถึงปัญหา