รมช.คลังแจงไม่ชัด! กมธ.การเงินฯ ลุยขอรายละเอียดแจกเงินดิจิทัล เปิดเผย ปชช.
'ชัยวัฒน์' เผย 'จุลพันธ์' ยังแจงไม่ชัดปมกู้ 5 แสนล้านแจกเงินดิจิทัล เผย กมธ.การเงินฯ เตรียมทำหนังสือถึง กรรมการ-อนุฯขับเคลื่อน ขอบันทึกการประชุมทำโครงการทั้งหมด เปิดเผยต่อประชาชน
เมื่อวันที่ 15 พ.ย. 2566 ที่รัฐสภา นายชัยวัฒน์ สถาวรวิจิตร สส.บัญชีรายชื่อ พรรคก้าวไกล ในฐานะโฆษกกรรมาธิการ (กมธ.) การเงิน การคลัง สถาบันการเงินและตลาดการเงิน เปิดเผยภายหลังการประชุม กมธ.การเงินฯ ที่มีนายจุลพันธ์ อมรวิวัฒน์ รมช.คลัง เข้าชี้แจงกรณีการดำเนินนโยบายแจกเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท ของรัฐบาล ว่าการชี้แจงยังไม่มีความชัดเจนเพิ่มขึ้นไปกว่าที่นายกฯ ได้แถลงไป โดย รมช.คลัง ได้กล่าวถึงการเติบโตของหนี้สาธารณะและหนี้ครัวเรือนที่สูง เป็นสาเหตุหลักที่ทำให้เศรษฐกิจเปราะบางและเชื่อว่านโยบายดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท จะช่วยแก้ปัญหา ส่วนการดำเนินการปัจจุบัน ได้ยื่นร่าง พ.ร.บ.กู้เงิน 5 แสนล้านบาท ไปที่คณะกรรมการกฤษฎีกาเพื่อพิจารณาแล้ว
นายชัยวัฒน์ กล่าวว่า คงจะมีการพิจารณาข้อกฎหมายหลายฉบับที่เกี่ยวข้อง ว่าการออก พ.ร.บ.กู้เงิน เป็นไปตามหลักการของกฎหมายเหล่านี้หรือไม่ เช่น ต้องตีความ พ.ร.บ.วินัยการเงินการคลังของรัฐ 2561 มาตรา 53 เพราะมาตรานี้ระบุว่าการกู้เงินของรัฐบาล กระทำได้ต่อเมื่อต้องมีความเร่งด่วนและดำเนินการอย่างต่อเนื่องเพื่อแก้ไขปัญหาวิกฤติของประเทศ รวมถึงต้องพิจารณา พ.ร.บ.เงินตรา 2501 ว่าเงินดิจิทัลจะมีความสอดคล้อง มีเงินรองรับในระบบหรือไม่
นายชัยวัฒน์ กล่าวอีกว่า ในส่วนคำถามจาก กมธ.ในสัดส่วนพรรคก้าวไกล สรุปได้เป็น 2 ประเด็น ประเด็นแรก คือสังคมมีคำถามมากเรื่องที่นายกฯ มีการอ้างผู้แทนจากหน่วยงานที่เป็นคณะกรรมการฯ เช่น ธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ว่าเป็นผู้เสนอให้กู้เงิน จึงต้องการทราบว่าคณะกรรมการที่มาจากหน่วยงานต่างๆ มีการหยิบยกข้อมูลใดมาพิจารณาบ้างและมีความเห็นแย้งหรือเห็นด้วยในการดำเนินโครงการอย่างไรบ้าง จึงเสนอว่าควรมีการเปิดเผยบันทึกการประชุมเพื่อให้ประชาชนรับทราบ ซึ่งเรื่องนี้ได้ข้อสรุปว่า กมธ.การเงินฯ จะทำหนังสือไปยังคณะกรรมการนโยบายฯ และ คณะอนุกรรมการฯ ขับเคลื่อน เพื่อเรียกขอข้อมูลบันทึกการประชุม
นายชัยวัฒน์ กล่าวด้วยว่า อีกประเด็น คือได้ซักถามว่าหากโครงการนี้ติดขัดข้อกฎหมาย ไม่สามารถดำเนินการออก พ.ร.บ.กู้เงินได้ ทางรัฐบาลจะดำเนินการต่ออย่างไร ซึ่ง รมช.คลัง ตอบว่า ได้ตั้งไข่โครงการนี้ขึ้นมาแล้ว การกู้เงินเป็นแหล่งเงินแหล่งหนึ่ง หากทำไม่ได้ก็อาจต้องหาแหล่งเงินแหล่งอื่น ดังนั้น ต้องติดตามต่อว่าแหล่งเงินอื่นที่ว่านั้นคืออะไร ทั้งนี้ โครงการนี้กำหนดงบประมาณเงินกู้ไว้ที่ 500,000 ล้านบาท หากมีเงินไม่พอ ตนคาดว่าอาจมีการเปลี่ยนแปลงกลุ่มเป้าหมาย ไม่ใช่กลุ่มเดิมตามที่รัฐบาลวางไว้ และไทม์ไลน์ระยะเวลาในการดำเนินโครงการนี้ อาจไม่ใช่เดือนพฤษภาคม 2567 ตามที่รัฐบาลประกาศ