เกมจำแลง‘ทักษิณ-ธนาธร’ ‘ดีลไม่ลับ’ฉบับ‘2ศาสดา’

“ดีลลับฉบับฮ่องกง” ถูกเก็บงำมานานกว่า 4 เดือน แต่จู่ๆ  “ธนาธร จึงรุ่งเรืองกิจ” ประธานคณะก้าวหน้า “ผู้นำความคิด” พรรคก้าวไกล ยอมรับกลางรายการ “กรรมกรข่าว คุยนอกจอ” ในช่วงก่อนการจัดตั้งรัฐบาลเดือน ก.ค.2566 ได้เดินทางไปพบ “ทักษิณ ชินวัตร” อดีตนายกรัฐมนตรี ที่เกาะฮ่องกงจริง

แม้เขาจะปฏิเสธว่า การพูดคุยดังกล่าวเป็นการพบปะพูดคุยกับนักการเมืองทั่วไป ไม่ได้ไปต่อรองเรื่องจัดตั้งรัฐบาล และตัวเขาไม่ได้มีอำนาจในพรรคก้าวไกล 

มุมนี้อ่านเกมได้ว่า เป็นการเลี่ยงบาลี หลบหลีกครหา "ครอบงำ" อันนำไปสู่การยื่นยุบพรรคก้าวไกลในอนาคต

แต่ประโยคที่น่าสนใจคือ ธนาธร พูดถึงการเป็น “พันธมิตร” ระหว่าง “พรรคเพื่อไทย” กับ “พรรคก้าวไกล” ที่จะทำให้ประเทศก้าวหน้าที่สุด และกลับมาเป็นประชาธิปไตย

“พรรคเพื่อไทยคือมิตร แม้จะอยู่คนละฝั่ง เพื่อไทยเป็นรัฐบาล เราเป็นฝ่ายค้าน ก้าวไกลเป็นฝ่ายค้าน” ศาสดาพรรคส้มย้ำ

ย้อนไปช่วงการจัดตั้ง “รัฐบาลพรรคเพื่อไทย” ที่เวลานั้นอยู่ในช่วง “หย่าร้าง” พรรคก้าวไกล มีข่าว “ศาสดาส้ม” เดินทางไปฮ่องกง เพื่อพบ“นายใหญ่ค่ายแดง” 

ต่อมา “สื่อหลายสำนัก” มีการเปิดข้อมูลธนาธรไปฮ่องกง 24 ก.ค.2566 ด้วยเที่ยวบินไฟลต์ CX700 BKK-HKG และกลับเมืองไทย 25 ก.ค.2566 เที่ยวบินไฟลต์ HX733 HKG-BKK

ข่าวที่เล็ดลอดออกมาในช่วงนั้น พูดถึงการเจรจาของ “ศาสดาแดง” กับ “ศาสดาส้ม” ทั้งการถอยแก้มาตรา 112 ภายใต้สูตรจัดตั้งรัฐบาลที่ไม่มี “พรรค 2 ลุง” แต่ดีลดังกล่าวถูกคว่ำไป เมื่อที่สุดพรรคเพื่อไทยจับมือพรรค 2 ลุงตั้ง “รัฐบาลสลายขั้ว” 314 เสียง ผลักก้าวไกลเป็นฝ่ายค้าน 

ยิ่งไปกว่านั้น ในห้วงเวลาเดียวกันนั้นเอง ยังมีเสียงเรียกร้องจาก “กองเชียร์เพื่อไทย” ขอให้ “ธนาธร” เคลียร์ข้อสงสัยประเด็น “ดีลลับ” ที่ไม่ได้มีแค่สูตรจัดตั้งรัฐบาล หากแต่ยังรวมไปถึงการ “นิรโทษกรรม” บรรดาคดีความทางการเมืองสีเสื้อต่างๆ ทั้ง “เหลือง-ส้ม-แดง” อีกด้วย 

ท่าทีของ “ศาสดาส้ม” ที่แตกต่างกันลิบลับ ระหว่างการวิพากษ์อย่างดุเดือดวิจารณ์ประเด็น “กู้มาแจก” ในโครงการดิจิทัลวอลเล็ต ที่ดำเนินโครงการโดยรัฐบาล ภายใต้การนำของ “เศรษฐา ทวีสิน” เมื่อวันที่ 17 พ.ย. กับการพูดถึงการเป็นพันธมิตร “นายใหญ่ชั้น 14” และ “พรรคเพื่อไทย” เมื่อวันที่ 20 พ.ย. 

นอกจากจะถูกจับตาไปที่ความสัมพันธ์ “นายใหญ่” กับคนในตระกูล “จึงรุ่งเรืองกิจ” ที่แยกสาแหรก 2 พรรค ระหว่าง “เอก ธนาธร” ฝั่งส้ม กับ “อาเจ็ก” สุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รมว.คมนาคม รวมถึง พงศ์กวิน จึงรุ่งเรืองกิจ รองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ลูกพี่ลูกน้องที่แม้จะอยู่คนละพรรค แต่ก็ไม่ถึงกับตัดขาดความสัมพันธ์เสียทีเดียว 

“จังหวะการเมือง” ที่เกิดขึ้นของ “ธนาธร” ซึ่งเลือกที่จะออกมาพูดเรื่องนี้ในช่วงเวลานี้ ย่อมทิ้งไว้ซึ่งปริศนาคาใจเกี่ยวกับ “ดีลรัก-ไม่ลับ” ที่หวังทอดสะพานอะไรบางอย่าง ท่ามกลางเกมการเมืองที่จะเกิดขึ้นในภายภาคหน้าหรือไม่?

ประเด็นนี้ในมุม “ผู้เชี่ยวชาญด้านความมั่นคง” ในระดับทีมยุทธศาสตร์ วิเคราะห์ว่า ท่าทีของธนาธร ที่ออกมาจะมีผลในแง่ของการย้อนรอยสร้างแรงกดดันให้กับ “ทักษิณ” และ “พรรคเพื่อไทย” อีกทั้งจะเกิดความหวาดระแวงในขั้วรัฐบาล ณ ปัจจุบันหรือไม่? อย่างไร? เป็นเรื่องน่าขบคิด

 

ต้องไม่ลืมว่า รัฐบาลชุดนี้นอกเหนือจะมาจากการจับมือ “พรรค2ลุง” แล้ว ยังมีเสียงจากสว.250คน ซึ่งล้วนเป็นสายลุงยกมือโหวตอุ้ม ซึ่งสว.ชุดนี้จะพ้นวาระในวันที่11 พ.ค.2567 หรือในอีก 6 เดือนข้างหน้า นั่นหมายความว่า หลังหมดวาระสว.จะไม่สามารถกำหนดเกมโหวตนายกฯได้อีกต่อไป 

หากเกมการเมือง "เปลี่ยน" ขึ้นมา จะมีเกมต่อรองอะไรที่เปลี่ยนแปลงไปด้วยหรือไม่? ประเด็นนี้ต้องจับตา!

นอกจากนี้ยังมีความเห็นจาก “สมชาย แสวงการ” สว.ที่ออกมาโพสต์เฟซบุ๊ก “สมชาย แสวงการ” เมื่อวันที่14พ.ย.ที่ผ่านมา 6วันก่อนที่ “ธนาธร” จะออกมายอมรับถึงการพบเจอ“ทักษิณ”

สว.สมชายผู้นี้ ตั้งข้อสังเกตถึงการทำหน้าที่ฝ่ายค้านของพรรคก้าวไกลว่า “แปลกใจมากมั้ย ทำไมไม่เคยได้ยิน 150 สส.ก้าวไกล ผู้นำพรรคฝ่ายค้านตรวจสอบ หรือพูดถึง นช.เทวดา แม้แต่คำเดียว ใครรู้สาเหตุแจ้งให้ทราบด้วยครับ

ต้องไม่ลืมว่า ที่ผ่านมามีข่าวคราว “นายใหญ่” ศาสดาแดง หลุดลอดออกมาเป็นระยะว่า เตรียม “คืนสู่อิสรภาพ” ในช่วง ธ.ค.2566 หรือช่วงต้นปี 2567  

สอดรับกับ “เกมการเมือง” ซึ่ง “คนการเมือง” หลากหลายสำนัก ประเมินใกล้เคียงกัน ขอให้มีการจับตาไปที่ช่วงไตรมาสแรก ต่อเนื่องไตรมาส2 ปี2567 อย่างยิ่งยวดเพราะน่าจะได้เห็นสัญญาณอะไรบางอย่าง

อีกหนึ่งชอตที่ต้องจับตา เช่นกันคือการวางยุทธศาสตร์​ "ดีลเหนือดีล" ของ "ผู้มีอำนาจ"  ในการสกัดขัดขวาง "พลพรรคสีส้ม" เพื่อก้าวสู่อำนาจ โดยมี "ซูเปอร์ดีล" ระหว่างผู้มีอำนาจและนายใหญ่ศาสดาแดงล็อกไว้อีกชั้น หากนายใหญ่แดงผิดข้อตกลงก็อาจกระทบไปถึง "ซูเปอร์ดีล"เดิมเช่นกัน

ขณะที่องคาพยพ2ฝ่าย ไทม์ไลน์หลังเปิดประชุมสภาในวันที่12ธ.ค.นี้ มีวาระร้อนการเมืองที่น่าสนใจทั้ง “ฝ่ายส้ม” ก่อนหน้าจุดพลุเสนอ “กฎหมายนิรโทษกรรม” เข้าสู่สภา ไปเมื่อช่วงเดือน ต.ค. ก่อนปิดสมัยประชุมสภาฯ

ไม่ต่างจากองคาพยพ “ซีกรัฐบาล” ที่เตรียมเสนอกฎหมายนิรโทษกรรมประกบร่างก้าวไกล ภายหลังเปิดสมัยประชุมสภาฯ ในเดือน ธ.ค.นี้ เช่นเดียวกัน 

เช่นนี้ ต้องจับตาท่าทีของ “ศาสดาส้ม” ในการวางกลศึก ในยามที่พรรคก้าวไกลยังคงเล่นบทฝ่ายค้านในรัฐบาลเศรษฐา และยังถูกมองว่าเป็น “เสี้ยนหนาม” สำคัญของพรรคเพื่อไทยในสนามการเมืองอนาคต

ไม่ต่างจาก “ค่ายสีแดง” ล่าสุด ที่มีเพียง “ภูมิธรรม เวชยชัย” รองนายกฯ และ รมว.พาณิชย์ ที่ออกมาพูดถึงเรื่องนี้ในลักษณะ “ไม่ยอมรับ แต่ก็ไม่ปฏิเสธ” โดยบอกเพียงให้เป็น  “เรื่องของคนสองคน”

เหนือสิ่งอื่นใดคือ “ดีลไม่ลับฉบับฮ่องกง” ที่เกิดขึ้น เป็นการตอกย้ำว่าเขาทั้งสองคือศาสดา “ผู้คุมเกม” ตัวจริง!