'ไทย-ลาว' จับมือ แก้ 'PM2.5' จัดการหมอกควันข้ามแดน เร่งรัด ยุทธศาสตร์ฟ้าใส
“ไทย – ลาว” จับมือแก้หมอกควันข้ามแดน “พัชรวาท” หารือ เร่งรัด “ยุทธศาสตร์ฟ้าใส” ด้าน “มาดามบุนคำ” รมว.ทรัพยากรธรรมชาติฯ สปป.ลาว ขอบคุณความร่วมมือ เพื่อป้องกันสุขภาพ ปชช. ในลุ่มน้ำโขง
ที่กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พล.ต.อ.พัชรวาท วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม พร้อมคณะผู้บริหารจากกรมการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศและสิ่งแวดล้อม กรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช กรมควบคุมมลพิษ สำนักงานนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม และองค์การบริหารจัดการก๊าซเรือนกระจก ร่วมหารือกับมาดามบุนคำ วอละจิด รมว.ทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมแห่ง สปป. ลาว และคณะ ณ ห้องประชุม ชั้น 20 กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม
โดยในการหารือ พล.ต.อ.พัชรวาท กล่าวว่า รัฐบาลของนายกรัฐมนตรีเศรษฐา ทวีสิน ให้ความสำคัญกับเรื่องฝุ่น PM2.5 และได้ให้นโยบายไว้ในคราวการเยือนประเทศลาวครั้งล่าสุด การดำเนินงานร่วมกันเพื่อแก้ไขปัญหาสิ่งแวดล้อมที่สำคัญของสองประเทศ โดยเฉพาะการแก้ไขปัญหามลพิษจากหมอกควันข้ามแดน รวมถึงการเร่งรัดจัดทำแผนปฏิบัติการร่วม
ในการป้องกันและแก้ไขปัญหาหมอกควันข้ามแดน (Joint Plan of Action) ของ 3 ประเทศสปป.ลาว เมียนมา ภายใต้ยุทธศาสตร์ฟ้าใส (Clear Sky Strategy) โดยประเทศไทยพร้อมให้การสนับสนุนองค์ความรู้ด้านวิชาการในการใช้เทคโนโลยีดาวเทียมติดตามตรวจวัดจุดความร้อน และการใช้ประโยชน์ที่ดิน รวมถึงถ่ายทอดประสบการณ์ในการบริหารจัดการเกษตรในพื้นที่สูง การจัดทำแผนที่เสี่ยงไฟ การศึกษาเรียนรู้เพื่อการเฝ้าระวังและป้องกันไฟป่า
นอกจากนี้ ได้หารือการดำเนินงานภายใต้บันทึกความเข้าใจ (MOU) ระหว่างกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติสิ่งแวดล้อมแห่งราชอาณาจักรไทยและกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมแห่ง สปป.ลาว ที่ร่วมกันจัดทำขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2560 ซึ่งที่ผ่านมา มีกิจกรรมสำคัญต่างๆอาทิ โครงการจัดสร้างสวนรุกขชาติไทย – ลาว แผนปฏิบัติการด้านการจัดการมลพิษและสิ่งแวดล้อม แผนปฏิบัติการด้านนโยบายและแผนทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม แผนการดำเนินงานความร่วมมือด้านทรัพยากรน้ำ สปป.ลาว – ไทย และอยู่ระหว่างร่วมกันจัดทำบันทึกความร่วมมือด้านการต่อต้านการค้าสัตว์ป่าและพืชป่าที่ผิดกฎหมาย รวมถึงการสนับสนุนทางวิชาการแลกเปลี่ยนเรียนรู้เชิงนโยบายระหว่างไทย-สปป.ลาวด้านการเปลี่ยนแปลงสภาพภูมิอากาศ เพื่อจะเป็นประโยชน์ในการกำหนดนโยบายดำเนินงานและสนับสนุน สปป.ลาว เพื่อมุ่งสู่การบรรลุเป้าหมายความเป็นกลางทางคาร์บอน และการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์
ทั้งนี้ มาดามบุนคำ ได้กล่าวแสดงความยินดีกับการเข้ารับตำแหน่งใหม่ของ รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.ทส. และกระทรวงทรัพยากรฯ ที่ได้แสดงความขอบคุณกับกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อมแห่ง สปป. ลาว ที่ร่วมดำเนินงานเพื่อป้องกันปัญหาหมอกควันข้ามแดนที่ส่งผลกระทบต่อสุขภาพของประชาชนในภูมิภาคลุ่มน้ำโขงมาเป็นอย่างดี