สมศักดิ์ เผย ‘พ.ร.บ.ความมั่นคง’ ม.21 ต้องปรับปรุง ให้การพัฒนา จชต.เดินต่อได้
“สมศักดิ์” นั่งหัวโต๊ะ ถก กพต. นัดแรก หารือ ”กฎอัยการศึก-พ.ร.ก.ฉุกเฉิน-พ.ร.บ.ความมั่นคง“ ชี้ ม.21 ยังไม่สมบูรณ์ ต้องปรับให้เดินหน้าต่อได้ พร้อม ลุยแก้จนชายแดนใต้ เล็งจัดเมืองคู่ขนาน 5 รัฐของมาเลเซีย
ที่ทำเนียบรัฐบาล นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รองนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ก่อนเป็นประธานการประชุมคณะกรรมการยุทธศาสตร์การพัฒนาจังหวัดชายแดนภาคใต้ (กพต.) ว่า คณะกรรมการ กพต. ชุดนี้มีรัฐมนตรี 15 คนเป็นกรรมการ และผู้ว่าราชการจังหวัดชายแดนภาคใต้ 5 จังหวัด ถือเป็นการประชุมครั้งแรกในรัฐบาลชุดนี้ โดยมีวาระเพื่อทราบ 6 วาระ มีเรื่องสำคัญ เช่น การเร่งรัดติดตามกฎหมายเกี่ยวกับการแก้ไขปัญหาความไม่สงบในจังหวัดชายแดนภาคใต้ รวมถึงเรื่องเกี่ยวกับกฎหมายด้านความมั่นคง 3 ฉบับ ได้แก่ กฎอัยการศึก พ.ร.ก.ฉุกเฉิน และ พ.ร.บ.ความมั่นคง ซึ่งมีมาตราที่สำคัญมากคือ มาตรา 21 พ.ร.บ.ความมั่นคง ที่ก่อนหน้านี้ยังไม่ค่อยสมบูรณ์นัก ต้องมีการแก้ปรับปรุงเพื่อให้เดินหน้าต่อได้ การประชุมครั้งนี้จะมีการบูรณาการร่วมกัน
นายสมศักดิ์ กล่าวว่า นอกจากนั้น ยังมีเรื่องพิจารณาคือ การแก้ไขปัญหาความยากจนในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ ซึ่งในพื้นที่ดังกล่าวมีครอบครัวและประชากรที่มีรายได้น้อย 1 แสนกว่าราย เราจะมาแยกแยะและแก้ไขปัญหาเพื่อรองรับนโยบายของนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง ที่ต้องการเชื่อมสัมพันธ์กับมาเลเซีย ในส่วนของ 5 จังหวัดชายแดนภาคใต้นั้น เราคิดว่าควรจัดให้เป็นเมืองคู่ขนานกับ 5 รัฐของมาเลเซีย โดยจะสอบถามไปยังกรรมการทั้งหมด
เมื่อถามว่า คำสั่งหัวหน้า คสช. ที่ 14/2559 ที่ให้อำนาจกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร (กอ.รมน.) เหนือกว่าศูนย์อำนวยการบริหารจังหวัดชายแดนภาคใต้ (ศอ.บต.) จะทำให้มีปัญหาในการทำงานหรือไม่ นายสมศักดิ์ กล่าวว่า เมื่อวันที่ 22 พ.ย.ที่ผ่านมา ทางสำนักงานสภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) ได้มีการตั้งคณะอนุกรรมการบูรณาการและขับเคลื่อนงานด้านกฎหมายในพื้นที่จังหวัดชายแดนภาคใต้ จึงคิดว่าจะทำให้เรื่องนี้เดินหน้าไปได้ เพราะเรามีการพูดคุยในระดับบริหาร ทุกอย่างจะแก้ได้ คณะอนุกรรมการชุดนี้จะมีการบูรณาการร่วมกันระหว่าง ศอ.บต. และ กอ.รมน.ส่วนหน้า