‘อนุดิษฐ์’ ชี้ จำเป็นต้อง ‘ซื้ออาวุธ’ ทดแทน แนะ ต้องโปร่งใส ตรวจสอบได้
"อนุดิษฐ์" ชี้ การจัดซื้อยุทโธปกรณ์ทดแทน มีความจำเป็น แต่ต้องโปร่งใส ตรวจสอบได้ ไม่ใช่ใช้การไม่ได้เหมือนอดีต มีปัญหาจนปัจจุบัน แนะ รัฐบาลหนุน อุตสาหกรรมป้องกันประเทศโดยคนไทย มีศักยภาพ มีฝีมือไม่แพ้ชาติใด ทั้งรถหุ้มเกราะ เรือรบ ชิ้นส่วนอากาศยาน หรือ อากาศยานไร้คนขับ
น.อ.อนุดิษฐ์ นาครทรรพ รองหัวหน้าพรรคไทยสร้างไทย กล่าวภายหลัง รับชมการสาธิตการใช้กำลังทางอากาศ ประจำปี 2567 ว่า ได้เห็นศักยภาพของนักบินและเจ้าหน้าที่หน่วยต่างๆที่มีมาตรฐานสูงไม่แพ้ชาติใด ไม่ว่าจะเป็นการสาธิตการรบแบบ Air To Air หรือ Air To Ground ที่ประทับใจผู้ชม รวมถึงการใช้กำลังทางอากาศช่วยเหลือประชาชน ทั้งการดับไฟป่า การใช้อากาศยานสนับสนุนด้านการแพทย์ฉุกเฉิน รวมทั้งภารกิจอื่นๆอีกมากมาย สะท้อนให้เห็นศักยภาพของกำลังทางอากาศไทยที่ไม่น้อยหน้าใครในภูมิภาค
ส่วนเรื่องการจัดซื้อ อาวุธยุทโธปกรณ์ ถือเป็นเรื่องร้อนที่ทุกฝ่ายคอยจับตา และหลายครั้งก็มีเรื่องที่ส่อว่าอาจมีการทุจริต ซึ่งเป็นเรื่องที่ยอมไม่ได้ อย่างไรก็ตาม การจัดซื้ออาวุธยุทโธปกรณ์มาทดแทนก็มีความจำเป็นเช่นกัน แต่การจัดซื้อนั้น ต้องโปร่งใส และต้องตอบได้ว่าซื้อมาทำอะไร ไม่ใช่ซื้อมาทิ้งหรือซื้อมาแล้วใช้ไม่ได้ ซึ่งคงปฏิเสธไม่ได้ว่ามันเคยเกิดขึ้นมาจริงๆในอดีต และมีหลายรายการ ที่เป็นปัญหามาจนถึงทุกวันนี้
น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวว่า มีโอกาสสนทนากับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม และบุคลากรของกองทัพหลายท่าน ทุกคนเห็นตรงกันว่า อุตสาหกรรมป้องกันประเทศที่ผลิตโดยฝีมือคนไทย มีศักยภาพ ไม่ว่าจะเป็นการผลิตรถหุ้มเกราะ การต่อเรือ หรือการผลิตชิ้นส่วนของอากาศยาน หรือกระทั่งการผลิตอากาศยานไร้คนขับ ตนเห็นด้วยอย่างยิ่ง และเห็นว่าถึงเวลาแล้วที่จะต้องสนับสนุน อุตสาหกรรมป้องกันประเทศของเรา โดยส่งเสริมให้ทุกเหล่าทัพ พยายามใช้ชิ้นส่วนที่สามารถผลิตในประเทศให้ได้มากที่สุด เมื่อกองทัพระบุในสัญญาจัดซื้ออาวุธต่างๆ ว่าต้องใช้ชิ้นส่วนที่ผลิตในประเทศด้วย ก็จะทำให้โรงงานต่างๆ สามารถเพิ่มสายการผลิต และเดินไปสู่การเป็นประเทศที่สามารถพึ่งพาตนเองได้ สุดท้ายอาวุธและชิ้นส่วนต่างๆเมื่อถูกผลิตในประเทศไทย เงินลงทุนก็จะหมุนเวียนในประเทศ สร้างงาน สร้างเงิน สร้างเทคโนโลยี และสามารถส่งออกนำเงินตรากลับเข้ามาในประเทศได้ในที่สุด และเชื่อว่าทุกพรรคการเมืองจะสนับสนุนนโยบายดีๆแบบนี้
น.อ.อนุดิษฐ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า อุตสาหกรรมป้องกันประเทศที่เราผลิตในประเทศนั้น จะทำให้การตรวจสอบความโปร่งใส ทำได้ง่ายและมีประสิทธิภาพ และจะช่วยลดอัตราการทุจริตและคอรัปชั่น ได้เป็นอย่างดี เพราะกระบวนการตรวจสอบสามารถกระทำได้โดยหน่วยงานในประเทศ ดังนั้นจึงเชื่อว่าหากทุกเหล่าทัพใช้เม็ดเงินลงทุนในการจัดซื้อยุทโธปกรณ์มาทดแทนตามอายุการใช้งานและตามความจำเป็นจริงๆ โดยกำหนดให้ใช้ผลิตภายในประเทศให้ได้มากที่สุด เชื่อว่า สภาผู้แทนราษฎรซึ่งมีหน้าที่ตรวจสอบการใช้จ่ายงบประมาณแผ่นดิน ก็คงไม่ขัดข้องอย่างแน่นอน