'ปานปรีย์' ห่วงสงครามอิสราเอล-ฮามาสปะทุอีก กระทบปล่อยตัวประกัน
"ปานปรีย์" ห่วงสถานการณ์สู้รบอิสราเอล-ฮามาส ส่งผลกระทบปล่อยตัวประกัน เร่งประสาน รมต.หลายประเทศช่วยดำเนินการ ขณะที่ กต.เดินหน้ากงสุลสัญจร ทำพาสปอร์ต 4 แห่งในอีสาน ขอนแก่น อุบลราชธานี อุดรธานี นครราชสีมา
3 ธ.ค.2566 ที่ว่าการอำเภอเมืองหนองบัวลำภู จ.หนองบัวลำภู นายปานปรีย์ พหิทธานุกร รองนายกรัฐมนตรีและ รมว.ต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ หลังตรวจเยี่ยมหน่วยหนังสือเดินทางเคลื่อนที่ของกรมการกงสุล โดยแสดงความกังวลในสถานการณ์สู้รบระหว่างอิสราเอล และกลุ่มฮามาส กลับมาโจมตีระหว่างกันอีกครั้ง เพราะอาจจะส่งผลให้การปล่อยตัวประกันต้องล่าช้าออกไป เนื่องจากสถานการณ์ไม่ปลอดภัย
"ตอนนี้เราทำงานไม่หยุดหย่อนในการนำตัวประกันอีก 9 คนกลับมา ล่าสุดผมได้ติดต่อกับรัฐมนตรีในหลายประเทศที่เคยประสานกันไว้ เขาก็ดำเนินการเช่นเดิมเพื่อให้นำตัวประกันออกมาจากพื้นที่ฉนวนกาซา" นายปานปรีย์ กล่าวและว่า
ส่วนการขยายระยะเวลาในการหยุดยิงเพื่อปล่อยตัวประกันนั้น ตอนนี้ก็ยังยิงกันอยู่ ในช่วงที่ตนเดินทางกลับมาก็เริ่มยิงกัน ซึ่งตอนที่ไปที่ประเทศอิสราเอล ยังพูดคุยกับทูตไทยประจำกรุงเทลอาวีฟว่า ที่ตนมาก็สงบ ไม่ต้องอยู่ในหลุมหลบภัย แต่หลังจากกลับมาก็ได้รับรายงานทันทีว่ายิงกันอีกแล้ว ซึ่งตรงนี้เรามีความเป็นห่วง และเป็นกังวลมาก หากยิงกันอยู่ก็คงยังไม่ปล่อยตัวประกันในเวลานี้ เนื่องจากว่าการเดินทางอาจไม่ปลอดภัย แต่ก็มีความหวังอย่างยิ่งว่าการหยุดยิงจะเกิดขึ้นใหม่
นายปานปรีย์ กล่าวอีกว่า ส่วนการลงพื้นที่เยี่ยมนายอนุชา อ่างแก้ว ตัวประกันที่เพิ่งได้รับการปล่อยตัวและเดินทางกลับมาประเทศไทย ที่บ้าน อ.กุดจับ จ.อุดรธานี ในช่วงบ่ายวันนี้ ถือเป็นโอกาสที่ได้เดินทางมาที่นี่ ซึ่งส่วนตัวได้พบตัวประกันชาวไทยมาไม่กี่วันก่อนหน้า และยังไม่มีโอกาสได้พบกับครอบครัวจึงอยากเดินทางไปเยี่ยม และรับฟังว่ากลับมาแล้วอยู่สุขสบายหรือไม่ มีปัญหาอะไรที่อยากให้ช่วยสนับสนุนหรือดูแล เราก็พร้อม
ผู้สื่อข่าวรายงานว่าภารกิจที่ จ.หนองบัวลำภู นายปานปรีย์ ได้ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมหน่วยหนังสือเดินทางเคลื่อนที่ของกรมการกงสุล ณ ที่ว่าการอำเภอเมืองหนองบัวลำภู โดยเริ่มต้นจากจุดลงทะเบียนที่ประชาชนสามารถลงทะเบียนออนไลน์เพื่อแจ้งความประสงค์ในการขอทำพาสปอร์ตมาก่อน ขั้นตอนการกรอกเอกสาร พร้อมทักทายประชาชนที่มาใช้บริการ รวมถึงดูการทำงานของเจ้าหน้าที่กงสุล
ในระหว่างนั้นมีประชาชนในพื้นที่มายื่นเรื่องขอความช่วยเหลือ หลังจากญาติที่เดินทางไปทำงานที่ประเทศไต้หวัน แล้วประสบอุบัติเหตุเสียชีวิต ผ่านมากว่า 2 เดือนยังไม่ได้รับกระดูกกลับมาเพื่อทำพิธีตามศาสนา ซึ่งนายปานปรีย์ได้รับเรื่องดังกล่าว พร้อมกล่าวว่า จะติดตามเรื่องให้ ไม่ต้องเป็นห่วง
จากนั้น นายปานปรีย์ได้ให้สัมภาษณ์กับสื่อมวลชนว่า เป็นเรื่องที่น่ายินดีที่กระทรวงการต่างประเทศได้มีกงสุลสัญจร เพื่อทำหนังสือเดินทางให้พี่น้องประชาชน ซึ่งไม่ต้องเดินทางไปในจังหวัดอื่น โดยกงสุลที่รับทำพาสปอร์ตมี 4 แห่ง ในพื้นที่ภาคอีสาน คือ จ.ขอนแก่น จ.อุบลราชธานี จ.อุดรธานี และ จ.นครราชสีมา ซึ่งการทำกงสุลสัญจรก็สามารถเข้ามาในพื้นที่ใกล้กัน และให้บริการประชาชนได้ คิดว่าเป็นประโยชน์มาก และอธิบดีกงสุลก็รายงานว่าสามารถรองรับพี่น้องประชาชนได้ถึงวันละ 500 คน ถือเป็นครั้งแรกที่มาที่จังหวัดหนองบัวลำภู โดยจะเปิดเป็นเวลา 2 วัน ก็จะสามารถรองรับได้ 1,000 คน
นายปานปรีย์ กล่าวอีกว่า สำหรับการประชุมคณะรัฐมนตรีสัญจรในวันพรุ่งนี้ (4 ธ.ค.) นั้น ในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี คงจะรับทราบว่าทางกระทรวงการต่างประเทศ ได้จัดกงสุลสัญจรไปทั่วประเทศ