'สุทิน' ย้ำจำเป็นจัดสรรพื้นที่ทหาร-พลเรือน ขอประชาชนอดใจรอ'เงินดิจิทัล'
"สุทิน" โชว์ร่วมลงแขกเกี่ยวข้าวชาวหนองบัวลำภู ย้ำจำเป็นจัดสรรพื้นที่ทหาร-พลเรือน ขอประชาชนอดใจรอ"เงินดิจิทัล"
นายสุทิน คลังแสง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ลงพื้นที่จังหวัดหนองบัวลำภู เพื่อตรวจราชการ และเตรียมการประชุมคณะรัฐมนตรีอย่างเป็นทางการนอกสถานที่ หรือ ครม.สัญจรครั้งแรกของคณะรัฐมนตรี
โดยนายสุทิน ได้ร่วมลงแขกเกี่ยวข้าวกับชาวบ้านตำบลหนองสวรรค์ จังหวัดหนองบัวลำภู ซึ่งนายสุทิน ได้บอกว่า การเกี่ยวข้าว เป็นสิ่งที่ตนทำมาตั้งแต่เด็ก และมีความสุขมาก พร้อมเล่าถึงวิถีการทำนาสมัยก่อนว่า จะต้องเกี่ยว และนวดข้าวด้วยมือ เป็นการฟาดข้าว และต้องนอนเฝ้าข้าวที่นา เอาฟางมาทำเป็นกระท่อม แต่ปัจจุบันไม่ค่อยมีแล้ว
นายสุทิน ยังกล่าวถึงความจำเป็นในการจัดสรรพื้นที่ ระหว่างพื้นที่ทหาร และพลเรือนว่า ยังคงจะต้องมีพื้นที่ทหาร ไม่สามารถให้ชาวบ้านเข้าใช้ประโยชน์ได้ทั้งหมด เพราะต้องใช้สำหรับกิจกรรมกองทัพ เช่น พื้นที่ซ้อมยิงปีน หรือซ้อมยิงปืนใหญ่ ต้องใช้รัศมีการยิงไกลกว่า 40 กิโลเมตร แต่ส่วนที่ไม่ได้ใช้งาน ก็พร้อมที่จะให้ประชาชนเข้ามาใช้ได้ พร้อมย้ำว่า แม้ตนเองจะเป็นรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แต่ก็เป็นที่พึ่งแก่ประชาชนได้ทุกเรื่อง โดยเฉพาะเรื่องน้ำ เรื่องถนน จะช่วยประสานกระทรวงที่เกี่ยวข้อง หรือหากหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทำไม่ได้ กระทรวงกลาโหมจะทำเอง พร้อมยืนยันว่า ทหารมีความพร้อม มีกำลังพลทำได้ทุกอย่างในการช่วยประชาชนทุกเรื่อง
นายสุทิน ยังย้ำถึงนโยบายเงินดิจิทัลวอลเลต 10,000 บาทว่า ขอให้ประชาชนอดใจรอ เพราะรัฐบาลกำลังหาเงินอยู่ เพราะรัฐบาลที่แล้วได้ทำหนี้สินไว้
ขณะเดียวกัน รองผู้ว่าราชการจังหวัดหนองบัวลำภู ยังได้มอบเสื้อผ้าไทย ลายขิดสลับหมี่ “ลายบัวลุ่มภู” ซึ่งเป็นลายประจำจังหวัดหนองบัวลำภู ให้กับนายสุทิน ซึ่งเป็นผ้าลายใหม่ ยังไม่อนุญาตให้ใครตัดเย็บ แต่จะให้คณะรัฐมนตรี ที่มาประชุมสัญจรนัดแรกได้ใส่ก่อน เพื่อร่วมประชาสัมพันธ์ ซึ่งลายผ้าดังกล่าว เป็นลายเอกลักษณ์ประจำจังหวัด โดยปีนี้สามารถจำหน่ายผ้าประจำท้องถิ่นได้กว่า 1,000 ล้านบาท
ทั้งนี้ ก่อนการเดินทางมายังจังหวัดหนองบัวลำภูของรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมเกิดปัญหา เนื่องจาก เครื่องยนต์เฮลิคอปเตอร์ขัดข้อง เนื่องจากมีกลิ่นน้ำมัน จึงทำให้เจ้าหน้าที่ต้องตรวจสอบก่อน และยืนยันว่า มีความปลอดภัยจึงนำเครื่องขึ้นตามปกติ ทำให้การเดินทางจากจังหวัดกาฬสินธุ์ มายังจังหวัดหนองบัวลำภู ต้องล่าช้าออกไป