สมรภูมิ คน‘คุ้นเคย-เคยคุ้น’ ‘นายกอบจ.’ ร้อยเกาะเดือด !
ศึกชิงนายกอบจ.ที่น่าจะเกิดขึ้นช่วงต้นปี2568 ทว่ายามนี้เริ่มเห็นสัญญาณการเปิดหน้าชกของบรรดาซุ้มการเมือง โดยเมืองร้อยเกาะสุราษฎร์ธานี ซึ่งเป็นที่มั่นของ "2ซุ้มการเมือง" พรรคเดียวกัน
ในห้วงที่การเมืองระดับชาติ มีการจับจ้องไปที่การ “ขยับหมาก” ครั้งใหญ่ อาจถึงขั้น “ล้างไพ่การเมือง” ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2567 ทว่า อีกหนึ่งหมากตัวสำคัญที่อาจมีผลต่อเนื่องไปถึงเมืองสนามใหญ่ในอนาคต หนีไม่พ้นการเมือง “สนามท้องถิ่น”
โดยเฉพาะศึกชิงนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัด (นายก อบจ.)รวมถึงสมาชิกองค์การบริหารส่วนจังหวัด(ส.อบจ.) ที่แม้ตามกำหนดการจะครบวาระ 4 ปี ในวันที่ 20 ธ.ค.2567 และการเลือกตั้งน่าจะเกิดขึ้นในช่วงต้นปี 2568 แต่ยามนี้เริ่มเห็นสัญญาณจากบรรดา “ซุ้มการเมือง” ที่เริ่มเปิดหน้า ประกาศส่งสารท้ารบกันแต่เนิ่น
โดยเฉพาะ 1 ใน 14 จังหวัด “แดนสะตอ” อย่าง จ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งมีคำขวัญ “เมืองร้อยเกาะ เงาะอร่อย หอยใหญ่ ไข่แดง” ยามนี้ดูเหมือนว่า “ไข่แดงไชยา” ที่ว่าลือเลื่อง ยังไม่สู้ “ไข่แดงการเมือง” ซึ่งกำลังเป็นที่หมายปองของ “ซุ้มการเมือง” ที่เริ่มเซ็ตทีมเตรียมพร้อมสู้ศึกในราว 1 ปีข้างหน้า
โดยเฉพาะสัญญาณจาก “บ้านใหญ่กาญจนะ” ล่าสุด “โสภา กาญจนะ” อดีต สส.สุราษฎร์ธานี ภรรยา “ชุมพล กาญจนะ” อดีตสส.สุราษฎร์ธานีหลายสมัย และปัจจุบันยังดำรงตำแหน่งประธานที่ปรึกษารองนายกรัฐมนตรี เปิดตัว “สุรินทร์ บุญประสพ”นายกเทศมนตรีตำบลเวียงสระ และประธานกลุ่มพลังสุราษฎร์ ซึ่งเป็นน้องชาย ในฐานะ “ว่าที่ผู้สมัครนายก อบจ.สุราษฎร์ธานี” ผ่านเฟซบุ๊คไปเมื่อวันที่ 11 ธ.ค.ที่ผ่านมา
โดย “ป้าโสภา”ระบุว่า ป้าโส.. ขอโอกาสให้น้องชาย(นายสุรินทร์ บุญประสพ ประธานกลุ่มพลังสุราษฎร์)ได้มาทำหน้าที่รับใช้พ่อแม่พี่น้องเพื่อพัฒนาจังหวัดสุราษฎร์ธานี ของเราให้ดีขึ้น ในฐานะว่าที่ผู้สมัครนายก อบจ.สุราษฎร์ธานี ด้วยค่ะ #กลุ่มพลังสุราษฎร์ #มีประสบการณ์ ทำงานเป็น
เช่นนี้ต้องจับตาไปที่สนามการเมือง“เมืองร้อยเกาะ” ซึ่งเป็นการขับเคี่ยวกันระหว่าง “คนคุ้นเคย” และ“เคยคุ้น” ที่อาจกลับมาดุเดือดอีกครั้ง
ย้อนกลับไปในศึกเลือกตั้งนายก อบจ.สุราษฎร์ธานี ครั้งล่าสุด เมื่อปี 2563 เวลานั้น สมรภูมิอ่าวบ้านดอน เกิดการขับเคี่ยวกันระหว่าง “ชุมพล”นักการเมืองผู้มากบารมี ลงชิงในนามพรรคประชาธิปัตย์ ชนกับ “กำนันศักดิ์” พงษ์ศักดิ์ จ่าแก้ว อดีตกำนันตำบลทุ่งกง อ.กาญจนดิษฐ์ และอดีตนายกสมาคมกำนันผู้ใหญ่บ้าน จ.สุราษฎร์ธานี
ผลการเลือกตั้งครั้งนั้น “กำนันศักดิ์” นักธุรกิจคอกหอยแห่งอ่าวบ้านดอน เจ้าของฉายา“นักสู้ภูธร” ล้างมนต์นายหัว กำชัยด้วยคะแนน 224,746 เอาชนะนักการเมืองผู้มากบารมีอย่าง “ชุมพล” อดีต สส.ประชาธิปัตย์ 7 สมัย ที่ได้ 153,956 คะแนน ขณะที่ “มนตรี เพชรขุ้ม”อดีตนายก อบจ.ปี 2552-2556 ไล่หลังมาในลำดับ 3 ด้วย 40,194 คะแนน
สนามการเมืองใน จ.สุราษฎร์ธานี ระหว่าง “ชุมพล” และ “กำนันศักดิ์” ที่แม้จะเคยเป็นหัวคะแนนพรรคประชาธิปัตย์มาก่อน แต่ทั้ง 2 ก็แยก“ซุ้มใคร-ซุ้มมัน” อย่างชัดเจน
เมื่อมาถึงการเมืองสนามใหญ่ “กำนันศักดิ์” ยกทีมคนรักสุราษฎร์ ตบเท้าเข้าชายคารวมไทยสร้างชาติ ขณะที่ “ชุมพล” และครอบครัวเดิมทียังร่วมงานกับประชาธิปัตย์ ทว่าด้วยการเมืองที่แบ่งเป็นก๊กเป็นขั้วในค่ายสีฟ้า
ที่สุด“ชุมพล” จึงตัดสินใจยกครอบครัวย้ายเข้าชายคารวมไทยสร้างชาติ ร่วมเรือนกับ “กำนันศักดิ์” โดยมีผู้หลักผู้ใหญ่พรรคเป็นตัวกลาง เชื่อมความสัมพันธ์ “2 บ้านใหญ่” เข้าด้วยกัน
การเลือกตั้งสนามใหญ่เมื่อวันที่ 14 พ.ค. รวมไทยสร้างชาติปักธงสนามเมืองร้อยเกาะได้ 6 เขตจากทั้งหมด 7 เขต แบ่งเป็น “ซุ้มกำนันศักดิ์”ได้ สส.3 คน ประกอบด้วย เขต 4 พันธ์ศักดิ์ บุญแทน เขต 5 ปรเมษฐ์ จินาเขต และเขต 7 ธานินท์ นวลวัฒน์
ขณะที่ “อนงค์นาถ จ่าแก้ว” ลูกสาว ลงชิงเขต 6 แต่พ่ายให้กับพิชัย ชมภูพล อดีตกำนัน จากพรรคภูมิใจไทย ได้รับการปลอบใจด้วยตำแหน่งผู้ช่วยเลขานุการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงเกษตรและสหกรณ์ (ประจำ รมช.อนุชา นาคาศัย)
เช่นเดียวกับ“ซุ้มชุมพล”ที่กำชัยใน 3 เขต ได้แก่ เขต 1 กานสินี โอภาสรังสรรค์ (กาญจนะ) ลูกสะใภ้ชุมพล-โสภา โดยเธอเป็นภรรยาแสงโรจน์ กาญจนะ ลูกชายคนโต เขต 2 พิพิธ รัตนรักษ์ และเขต 3 วชิราภรณ์ กาญจนะ ลูกสาวชุมพล-โสภา
ในส่วนของ “กำนันศักดิ์” แพ็กแน่นกับซุ้มใต้ตอนบน โดยเฉพาะ “ซุ้มชุมพร” ของ“ลูกหมี” ชุมพล จุลใส อดีตสส.ชุมพรและอดีตแกนนำกปปส. ที่ชนะยกจังหวัด มี สส.ในมือ 3 คน ได้แก่ วิชัย สุดสวาทดิ์ สันต์ แซ่ตั้ง และสุพล จุลใส กระทั่งส่ง “สส.ปุ้ย” พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล สส.นครศรีธรรมราช ขึ้นแท่น รมว.อุตสาหกรรม โควตาภาคใต้ในที่สุด
จนถึงเวลานี้“กำนันศักดิ์” นายก อบจ.สุราษฎร์ธานี ซึ่งมี สส.ในมือ 3 คน +1 ตำแหน่งข้าราชการการเมือง ยังคงทำการเมืองเมืองร้อยเกาะในนาม “กลุ่มคนรักสุราษฎร์”
เช่นนี้ต้องจับตาเมื่อ “โสภา” เปิดตัวน้องชายในนาม "กลุ่มพลังสุราษฎร์" สนามการเมืองหลังจากนี้น่าจะกำลังเข้าสู่โหมดการต่อสู้กันอย่างจริงจังอีกครั้ง
เหนือไปกว่านั้น ยังต้องจับตา “นายหัวสีฟ้า”บัญญัติ บรรทัดฐาน สส.บัญชีรายชื่อ พรรคประชาธิปัตย์ อดีตคนเคยคุ้น ซึ่งบอบช้ำจากการเลือกตั้งครั้งที่ผ่านมา หลัง ปชป.แลนด์ไถลพ่ายยกจังหวัด ขณะที่สถานการณ์ค่ายสีฟ้ายามนี้ยังคง“มาคุ”จากศึกภายใน ว่าจะเดินเกมอย่างไรต่อจากนี้!