สมบัติ 26.5 ล้าน! ‘พัฒนา สัพโส’ อดีตแกนนำ นปช.ก่อนโดน กกต.ฟันอาญา

"พัฒนา สัพโส" สส.สกลนคร พรรคเพื่อไทย คือ สส.คนล่าสุดที่ถูกคณะกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) สั่งดำเนินคดีอาญาตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. พ.ศ.2561 มาตรา 70 และมาตรา 79 ประกอบมาตรา 156 (1) กรณีหาเสียงเลือกตั้งเกินเวลากว่าที่กฎหมายกำหนด โดยวิธีการทางอิเล็กทรอนิกส์หรือวิธีการใดไม่ว่าจะเป็นคุณหรือเป็นโทษแก่ผู้สมัครหรือพรรคการเมือง นับตั้งแต่เวลา 18.00 น.ของวันก่อนวันเลือกตั้งหนึ่งวันจนสิ้นสุดวันเลือกตั้ง

ข้อเท็จจริงของเรื่องนี้ตามการไต่สวน และคำวินิจฉัยของ กกต.ระบุว่า วันเลือกตั้ง 14 พ.ค.66 เวลา 06.55 น. "พัฒนา" ผู้ถูกร้อง ใช้บัญชีผู้ใช้เฟซบุ๊กชื่อ "พัฒนา สัพโส" ซึ่งเป็นคำปราศรัยหาเสียงของ “อุ๊งอิ๊ง” แพทองธาร ชินวัตร โดยในชั้นให้ถ้อยคำ “พัฒนา” อ้างว่า อาจเกิดจากความพลั้งเผลอ มิได้ตั้งใจหรือมีเจตนาที่จะกระทำการดังกล่าวและไม่ทราบว่ามีการเผยแพร่โพสต์ได้อย่างไร

อย่างไรก็ดี กกต.เห็นว่า เป็นการให้ถ้อยคำปฏิเสธที่ง่ายต่อการกล่าวอ้าง และไม่มีพยานหลักฐานที่สนับสนุนให้น่าเชื่อว่าการกระทำของนายพัฒนาเกิดจากความพลั้งเผลอ ข้อกล่าวอ้างของนายพัฒนาจึงไม่อาจรับฟังได้ จึงวินิจฉัยให้ดำเนินคดีอาญา

อ่านข่าว: กกต.ฟันอาญา ‘พัฒนา สัพโส’ หาเสียงเกินเวลา อ้างไร้เจตนา ฟังไม่ขึ้น

สำหรับ “พัฒนา สัพโส” ปัจจุบันเป็น สส.สกลนคร เขต 4 (กุดบาก วาริชภูมิ นิคมน้ำอูน ส่องดาว (ยกเว้น ต.ท่าศิลา) และภูพาน) สังกัดพรรคเพื่อไทย ก่อนหน้านี้คืออดีตแกนนำกลุ่มแนวร่วมประชาธิปไตยต่อต้านเผด็จการแห่งชาติ (นปช.) อ.พังโคน จ.สกลนคร โดยลงสมัครรับเลือกตั้ง สส.ครั้งแรกเมื่อปี 2554 และได้รับการเลือกตั้ง หลังจากนั้นชนะการเลือกตั้งอีก 2 สมัย คือในปี 2562 และ 2566

ประวัติส่วนตัว “พัฒนา” จบการศึกษาปริญญาตรี วิศวกรรมศาสตร์บัณฑิต มหาวิทยาลัยศรีปทุม ปริญญาโท รัฐศาสตร์มหาบัณฑิต มหาวิทยาลัยรามคำแหง ก่อนหน้านี้เคยทำธุรกิจ “รับเหมาก่อสร้าง” และเป็น “วิศวกรโยธา” รวมถึง “เกษตรกร” มาก่อน

ในมุมทรัพย์สิน “พัฒนา สัพโส” ยื่นบัญชีแสดงรายการทรัพย์สินและหนี้สิน กรณีเข้ารับตำแหน่ง สส.สกลนคร พรรคเพื่อไทย เมื่อ 4 ก.ค. 2566 แจ้งมีทรัพย์สินรวมคู่สมรสทั้งสิ้น 26,585,816 บาท มีหนี้สินทั้งสิ้น 3,537 บาท แบ่งเป็นของ “พัฒนา” 18,238,051 ได้แก่ เงินสด 2 แสนบาท เงินฝาก 255,601 บาท เงินลงทุน 387,850 บาท ที่ดิน 4,617,300 บาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 6 ล้านบาท ยานพาหนะ 3.5 ล้านบาท ทรัพย์สินอื่น (ราคาตั้งแต่สองแสนบาทขึ้นไป) 6,427,300 บาท (ในจำนวนนี้มีวัว 300 ตัว ได้มา ม.ค. 2560 มูลค่า 6 ล้านบาท, นาฬิกาหรู Breitling 1 เรือน ได้มา 27 ก.ค. 2565 มูลค่า 3 แสนบาท, กระเป๋า Bottega 1 ใบ ได้มา 13 ส.ค. 2564 มูลค่า 127,300 บาท) มีหนี้สิน 518 บาท เป็นเงินเบิกเกินบัญชี มีรายได้รวมต่อปีโดยประมาณ 2 ล้านบาท เป็นรายได้จากการเลี้ยงสัตว์ทั้งหมด มีรายจ่ายรวม 1,620,000 บาท ในจำนวนนี้เป็นค่าอาหารสัตว์ 2 แสนบาท

ส่วน “นฤมล สัพโส” คู่สมรส มีทรัพย์สิน 8,347,765 บาท ได้แก่ เงินสด 1 แสนบาท เงินฝาก 790,266 บาท เงินลงทุน 424,998 บาท ที่ดิน 1.4 ล้านบาท โรงเรือนและสิ่งปลูกสร้าง 3 ล้านบาท ยานพาหนะ 2,020,000 บาท ทรัพย์สินอื่น 612,500 บาท (ในจำนวนนี้มีกระเป๋าหรู 4 ใบ ได้แก่ Chanel Classic 1 ใบ ได้มา 5 ก.ย. 2564 มูลค่า 292,000 บาท, CoCo Chanel 1 ใบ ได้มา 18 มิ.ย. 2564 มูลค่า 1.5 แสนบาท, Chanel 22 จำนวน 1 ใบ มูลค่า 1.7 แสนบาท) มีหนี้สิน 3,019 บาท เป็นเงินเบิกเกินบัญชี ไม่มีรายได้ มีรายจ่ายรวม 505,184 บาท