‘พลังป้อม’ เอ็กเซอร์ไซส์ เกมสั้น ลุงขยับ ประคองทัพ
ความไม่แน่นอนหลายอย่างที่กำลังเกิดขึ้นกับพลังประชารัฐ โดยเฉพาะเรื่องคน"บ้านใหญ่หลายหลัง" ต่างรู้จุดหมายของตัวเองในการเลือกตั้งครั้งต่อไป จนสุ่มเสี่ยงต่อสถานะพรรคพลังประชารัฐ ว่าจะมีที่ยืนอย่างไร ตรงไหนในทางการเมือง
นับตั้งแต่หลังการเลือกตั้ง ปี 66 บทบาทของพรรคพลังประชารัฐ และ พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ หัวหน้าพรรค ดูจะซบเซาอย่างเห็นได้ชัด
สถานการณ์พลิกผันจนตั้งตัวไม่ติด ปรับจูนอารมณ์แทบไม่ทัน จมอยู่ในช่วงว้าวุ่นพักใหญ่ ใครไปใครมา ก็จะรู้ว่านายอารมณ์ไม่ค่อยดีโดยตลอด
จากที่เคยมุ่งหวังเป็นนายกรัฐมนตรี แต่สุดท้ายเกมเปลี่ยนเร็ว เครือข่าย พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา เฮโลพากันหนุนเศรษฐา ทวีสิน เป็นนายกรัฐมนตรี จนสำเร็จ ทำเอาพลังป้อมฝันค้าง แต่ก็ยังดีที่คีย์แมนคนสำคัญของพรรค เดินเกมเร็ว จนไม่ทำให้พรรคตกขบวน ได้ร่วมรัฐบาลในที่สุด ทั้งๆ ที่ 40 เสียงของพลังประชารัฐ แทบจะไม่มีความสำคัญ เพราะตอนนั้นแกนนำรัฐบาลอย่างเพื่อไทย รวมเสียงได้เกินกึ่งหนึ่งแล้ว
ข้อมูลอีกด้าน ที่ทำให้ “พลังป้อม” หัวเสียมาตั้งแต่หลังเลือกตั้ง จนถึงช่วงโหวตนายกฯ และจังหวะฟอร์มรัฐบาล เพราะเจอเกมสับขาหลอกของน้องเลิฟคนสำคัญ ที่ทำทีมานัดแนะว่าจะไม่สนับสนุนเศรษฐา ทั้งๆ ที่แกนนำระดับวงในทุกฝ่าย ดีลกันจบเรียบร้อย ถึงอย่างไรก็ร่วมรัฐบาลแน่นอน แต่ละพรรคก็รู้ที่ทางของตัวเองว่าเป็นอย่างไร
พอ“พลังป้อม” เจอกลเกมนั้นเข้าไป เลยเสียความรู้สึกอย่างหนัก เพราะน้องเลิฟคนนั้น คงหมายจะให้พลังประชารัฐถูกมองเป็นแกะดำจอมป่วน หวังจะให้หลุดวงโคจรอำนาจ ตามที่ใครบางคนต้องการ ตั้งแต่นั้นก็เลยเลือกเก็บตัวเงียบอยู่นานหลายเดือน
แต่ถึงอย่างนั้นก็ตาม ป่ารอยต่อฯ ก็ไม่ได้ปิดตัวลง หรือเลิกสังฆกรรมในทางการเมืองแต่อย่างใด ผู้คนในหลายแวดวง ก็ยังคงแวะเวียนไปเยี่ยมเยือนไม่ขาดสาย
จากที่เงียบไปนาน วันนี้พลังป้อม กลับมาเอ็กเซอร์ไซส์การเมืองอีกครั้ง เข้าประชุมพรรค พบปะ สส.บ่อยขึ้น และเตรียมเดินสายทำกิจกรรม “พลังประชารัฐสัญจร” คิวแรกวันที่ 8 ม.ค.67 ที่เพชรบูรณ์ และ12 ม.ค.67 ที่หนองคาย
แม้สถานการณ์ภายในพรรคตอนนี้ ยังไม่รู้จะออกหน้าไหน เดินต่อกันอย่างไร หรือใครจะอยู่ใครจะไป ในฐานะผู้นำพรรคอย่างลุงป้อม ก็ยังไม่สามารถลงหลังเสือได้ ไม่เช่นนั้น พลังประชารัฐสุ่มเสี่ยงที่จะแตกค่อนข้างสูง
ตำแหน่ง สส.บัญชีรายชื่อ ของพรรคเพียงหนึ่งเดียวที่ลุงเป็นอยู่ ยังถูกลูกพรรคบางส่วนเบรกไว้ว่า “อย่าลาออก”เพื่อเปิดทางให้คนอื่นขึ้นมาแทน เพราะรู้ดีว่า พลังประชารัฐอาจสั่นคลอน เพราะคนจะคิดว่าลุงถอดใจแล้ว
วันนี้พี่ใหญ่บ้านป่ารอยต่อฯ จึงต้องประคับประคองให้ทุกอย่างอยู่ในร่องในรอย ให้ความเป็นพรรคยังคงขับเคลื่อนต่อไปได้ อย่างน้อยๆ แม้จะแค่ในช่วงเฉพาะหน้าก็ตาม
เวลานี้การดูแลส่งน้ำเลี้ยงให้ลูกพรรคก็ไม่ได้ขาดสาย มีอัดฉีดทุกเดือน คนเป็น สส.ก็อาจจะมากหน่อย
ว่ากันว่า ลุงดูแลคนละ 3 ตับ หรือ "3 ขีดต่อเดือน" หรือคนที่สอบตก แต่มีบทบาทสำคัญในพื้นที่ยุทธศาสตร์ ก็ซื้อใจด้วยโควตากรรมาธิการฯ เพื่อให้อยู่กับพรรคต่อ ท่ามกลางบรรยากาศที่หลายพรรคการเมือง ต่างมาเร่ขายขนมจีบลูกพรรคลุงป้อมให้ไปอยู่ด้วย
ความไม่แน่นอนหลายอย่างที่กำลังเกิดขึ้นกับพลังประชารัฐ โดยเฉพาะเรื่องคน"บ้านใหญ่หลายหลัง" ต่างรู้จุดหมายของตัวเองในการเลือกตั้งครั้งต่อไป จนสุ่มเสี่ยงต่อสถานะพรรคพลังประชารัฐ ว่าจะมีที่ยืนอย่างไร ตรงไหนในทางการเมือง
ที่สำคัญ ท่าทีของ"ลุงป้อม"ในอนาคต จะลุยต่อหรือพอแค่นี้ ผลลัพธ์จะราบรื่น หรือเจ็บปวด มีแต่ลุงเท่านั้นที่จะรับรู้ความรู้สึกเหล่านี้ได้เต็มที่กว่าใคร
ยิ่งในวันที่ขุมอำนาจของลุงไม่เฟื่องฟูเหมือนก่อน ลูกพรรค หรือนักการเมืองแทบทั้งหมด ถึงเวลาก็คงแยกย้ายไปคนละทิศคนละทาง อาจจะเหลือไว้แค่ตำนานป่ารอยต่อฯ และเรื่องราวของลุงไว้ข้างหลังเท่านั้น