‘นิกร’ แจง ที่มา ‘สสร.’ แก้รธน. รัฐบาลไม่แต่งตั้งใคร ปชช.เลือก รัฐสภา ช่วยกรอง
“นิกร” แจงสูตรที่มา “สสร.” แก้รธน. ผ่านการฟังความเห็นมาแล้ว ยัน มาจากปชช. เลือกทางตรง-ทางอ้อม ก่อนให้ สส.-สว. จากการเลือกตั้งช่วยกรอง หลัง “ไอติม” จี้ ให้เลือกตั้งทั้งหมด100% ยัน ไม่มีคนที่รัฐบาลจะแต่งตั้ง ขอเดินตามคำวินิจฉัยศาลรัฐธรรมนูญ แต่ยังไม่สิ้นสุดในชั้นนี้
นายนิกร จำนง ประธานคณะอนุกรรมการรับฟังความเห็นของประชาชนเกี่ยวกับแนวทางในการทำประชามติเพื่อแก้ไขรัฐธรรมนูญ 2560 โพสต์เฟซบุ๊คส่วนตัวระบุว่า ต่อกรณีที่นายพริษฐ์ วัชรสินธุ โฆษกพรรคก้าวไกล ได้ให้ความเห็นต่อข้อเสนอที่มาของ สสร. ตามที่คณะอนุกรรมการรับฟังความเห็นฯ รวบรวมสรุปจากความเห็นของประชาชนกลุ่มต่างๆ ที่จะนำเสนอต่อคณะกรรมการคณะใหญ่ที่มีนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกฯ เป็นประธาน แล้วมีข้อโต้แย้งว่า ควรมาจากการการเลือกตั้งทั้งหมด100% ผมในฐานะประธานอนุรับฟังความเห็นเห็นฯขอเรียนว่า เคยได้รับฟังความเห็นนี้จากอนุกรรมของสภาฯที่มีนายพริษฐ์เป็นประธานก่อนแล้ว ด้วยความเคารพ แต่ทางคณะอนุฯของเราเห็นว่าการได้มาของสสร.ที่เราเสนอก็มาจากประชาชนทั้งหมดด้วยเช่นกัน คือตัวแทนของ77จังหวัดซึ่งเป็นส่วนมากนั้นจากการเลือกตั้งโดยตรงของประชาชน
กลุ่มหลากหลายของประชาชน5กลุ่มและกลุ่มนักวิชาการและผู้เชี่ยวชาญซึ่งเป็นส่วนน้อยแค่23คนก็มาจากการเลือกตั้งโดยอ้อมจากในกลุ่มของเขาเองมากลุ่มละจำนวนหนึ่ง แล้วให้รัฐสภาซึ่งในขณะนั้นก็เป็นสส.ที่มาจากประชาชนโดยตรงและ สว. ที่มาจากการเลือกตั้งจากกลุ่มอาชีพของประชาชนเช่นกัน ไม่ใช่สว.ชุดปัจจุบันที่ส่วนใหญ่มาจากการแต่งตั้ง
ดังนั้น สสร. ส่วนที่นายพริษฐ์เป็นกังวลก็มาจากประชาชนล้วนๆ เช่นกันมิได้มาจากรัฐบาลแต่งตั้งขึ้นแต่อย่างใดเลยและที่สำคัญมากของการให้ฝ่ายนิติบัญญัติเข้ามามีส่วนในการร่วมพิจารณา สสร. โดยอ้อมด้วย ในส่วนน้อยนี้ก็เพื่อยึดโยงกับรัฐสภา ป้องกันการถูกร้องว่าไม่ดำเนินการตามคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญในปี2564ที่ได้กำหนดว่า รัฐสภามีหน้าที่และอำนาจจัดทำรัฐธรรมนูญฉบับใหม่ อันเป็นแนวทางเพื่อไปสู่การดำเนินการให้สัมฤทธิ์ผล อย่างไรก็ตาม ผมก็ขอเรียนว่าการนำเสนอกรอบที่มาของ สสร. นี้ยังไม่ถือเป็นที่สุดในชั้นนี้เลย ยังต้องรอให้คณะกรรมการชุดใหญ่โดยนายภูมิธรรมพิจารณาแล้วเสนอต่อครม.เพื่อนำรอไปบรรจุในร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญ มาตรา 256 ถ้าประชามติของประชาชนเห็นชอบให้ดำเนินการแก้ไขรัฐธรรมนูญ และสุดท้ายร่างแก้ไขนั้นก็จะไปยุติที่คณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่างแก้ไขรัฐธรรมนูญของรัฐสภาที่น่าจะมีนายพริษฐ์ และพรรคก้าวไกลอยู่ในนั้นด้วยแน่นอน จึงยังจะมีทางเดินเพื่อการปรับปรุงแก้ไขที่ยาวไกลอยู่พอสมควร ช่วยประคับประคองกันนะครับ