‘พท.’ เมินโพล ’พิธา-ก.ก.‘ ยืน1 โว ความนิยม ไม่เท่าผลงาน รอดูฝีมือหลังปีใหม่
“ภูมิธรรม” เผย ”พิธา-ก้าวไกล“ แรงที่1 ”นิด้าโพล“ ไม่แปลก แต่จากที่ไปพบ ปชช. ส่วนใหญ่ หนุน “เศรษฐา-พท.” ชี้ ความนิยม ไม่เท่าผลงานที่ทำให้ ปชช. โว เหนือกว่าพรรคอื่น หลังปีใหม่รอดูฝีมือ
ที่ทําเนียบรัฐบาล นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.พาณิชย์ ในฐานะรองหัวหน้าพรรคเพื่อไทย ถึงกรณีผลสำรวจควาทเห็นประชนโดยนิด้าโพล ซึ่งส่วนใหญ่ยังนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ และพรรคก้าวไกล มาอันดับ1 ว่า ไม่ได้แปลกอะไร การสำรวจผลโพลขึ้นอยู่กับว่าใครสำรว สำรวจในกลุ่มตัวอย่างเท่าไหร่ ส่วนไหนบ้าง ตอนนี้เราฟังโพลจากทุกฝ่ายที่อาจจะมีลักษณะไปในทิศทางเดียวกันหรือแตกต่างกัน แต่ที่สำคัญที่สุดคือพื้นที่ของประชาชนโดยตรง ตนเชื่อว่าพื้นที่ที่รัฐบาลไปพบประชาชนส่วนใหญ่ ยังสนับสนุนพรรคเพื่อไทยและนายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง
นายภูมิธรรม กล่าวว่า ผลโพลถ้าเป็นในเมือง โดยเฉพาะคนวัยหนุ่มสาว ยอมรับว่าความนิยมของนายพิธายังมีอยู่ แต่คิดว่าอยู่ที่การทำงานมากกว่า รัฐบาลนี้เข้ามาช่วงแรกวุ่นอยู่กับการทำงานอยู่ หลังจากทำงานเสร็จแล้ว ค่อยไปดูอีกทีว่าประชาชนจะรู้สึกอย่างไร ส่วนตัวคิดว่าความนิยมไม่เท่ากับผลงานที่ทำงานให้กับประชาชน ทั้งนี้ ตนมองว่าการทำโพลภายใน3เดือน คิดว่าเร็วไป เหมือนที่บอกว่าจะมีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ รัฐบาลเพิ่งเริ่มทำงาน ต้องเข้าใจว่าสิ่งที่รัฐบาลเข้ามาครั้งนี้ มาถึงก็เจอแต่ปัญหาเยอะแยะ เป็นปัญหาที่สะสมมาเกือบ 9-10 ปี จากการรัฐประหาร ดังนั้นการทำงานขณะนี้เป็นการปูรากฐาน
นายภูมิธรรม กล่าวว่า สิ่งสำคัญที่สุดขณะนี้ รัฐบาลยังไม่มีงบลงทุนในการทํางานเลย ส่วนใหญ่เป็นงบประจำ เพราะงบประมานเป็นช่วงรอยต่อพอดี ซึ่งงบประมาน ปี 67 กำลังจะเข้าสภาต้นปีนี้ ฉะนั้น เรายังไม่มีเงินทำงาน งบประมาณที่เราจะทำงานได้ จะมีหลังเดือนพ.ค.67 เป็นต้นไป ที่ผ่านมาเราใช้การบริหารเงิน ด้วยการนำธนาคารของรัฐมาช่วยบ้าง เป็นการหยิบจับมาโปะ เป็นการเตรียมพื้นที่แก้ไขปัญหาในอนาคตต่อไป
“เชื่อว่าหลังจากปีใหม่เป็นต้นไป ทุกคนจะได้เห็นว่าฝีมือการทำงานของรัฐบาลเป็นอย่างไร และในช่วงต้นปี จะมีการชี้แจงให้ประชาชนทราบว่า 3 เดือนที่รัฐบาลเข้ามา ได้ปูรากฐานอะไรบ้าง” นายภูมิธรรม กล่าว
เมื่อถามว่า มั่นใจว่าจะใช้ผลงานเป็นตัวดึงคะแนนได้ใช่หรือไม่ นายภูมิธรรม กล่าวว่า ผลงานเป็นสิ่งที่สำคัญมากอันดับต้นๆ ในการดึงความรู้สึก เพราะถ้าประชาชนเห็นความตั้งใจของรัฐบาล หรือสามารถแก้ไขปัญหาได้ ประชาชนก็จะพอใจ เชื่อว่าเรามีความสามารถเหนือกว่าพรรคอื่น คือการลงไปพบปะประชาชน สมาชิกที่ลงพื้นที่ก็ได้รับเสียงสะท้อนว่าพรรคยังได้รับความเชื่อมั่น เพียงแต่เราอาจจะต้องปรับการสื่อสารกับคนในเมืองและเยาวชน ส่วนการใช้โซเชียลมีเดีย ยอมรับว่าพรรคเพื่อไทยยังไม่แข็งแรง มีข้อจำกัด หลังจากมีการปรับปรุงพรรค มีหัวหน้าพรรคและคณะกรรมการบริหารพรรคชุดใหม่ เชื่อว่าจะสามารถทำความเข้าใจให้คนเหล่านี้เข้าใจพรรคมากขึ้น
นายภูมิธรรม กล่าวว่า รัฐบาลมีเวลา 4 ปีในการทำงาน หลังจากนั้นประชาชนจะเป็นผู้ตัดสินว่า ใครที่สร้างประโยชน์ให้กับประชาชนได้ดีที่สุด