เดิมพันคดีโรดโชว์ ‘ยิ่งลักษณ์’ กรุยทางกลับ ตามรอย‘ทักษิณ’

เสียงเฮ! จาก “ทีมทนายชินวัตร” ดังสนั่น เมื่อศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง พิพากษายกฟ้อง ยิ่งลักษณ์ ชินวัตร อดีตนายกฯ คดีโอนย้าย ถวิล เปลี่ยนศรี พ้น เลขาธิการ สมช.

เพราะถือเป็น “คดีแรก” ที่ทีมทนายคู่บุญของ ทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกฯ นำโดย "พิชิต ชื่นบาน" ที่ปรึกษาของนายกฯ ทำคดีชนะบนสมรภูมิทางการเมืองในรอบกว่า 10 ปีที่ผ่านมา ท่ามกลางสถานการณ์ไม่เอื้ออำนวยกับตระกูลชินวัตร

"นรวิชญ์ หล้าแหล่ง" ทนายความ “ยิ่งลักษณ์” ให้สัมภาษณ์ภายหลังศาลมีคำพิพากษาว่า ผลของคำพิพากษาวันนี้คือยกฟ้อง “ยิ่งลักษณ์” สาระสำคัญ 4 ประเด็นคือ

1. ความเป็นนายกรัฐมนตรีเป็นผู้บังคับบัญชาสูงสุดของข้าราชการทั้งหมด การโยกย้ายก็เป็นไปตามกฎหมายข้าราชการพลเรือน มาตรา 57 สามารถกระทำได้

2. เรื่องการกระทำความผิดทางอาญา ต้องอาศัยเจตนาเป็นสำคัญ ตามมาตรา 59 ในทางไต่สวนไม่ปรากฏว่าไม่มีพยานหลักฐานใด ๆ ที่บ่งชี้ว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์ไปกลั่นแกล้งนายถวิล

3. เรื่องของคำพิพากษาศาลปกครองและศาลรัฐธรรมนูญ ในส่วนของศาลปกครองเป็นการพิจารณาถึงการโอนย้ายชอบหรือไม่ชอบ

4. ส่วนศาลรัฐธรรมนูญเป็นเรื่องการพ้นการปฏิบัติหน้าที่เท่านั้น ไม่มีเรื่องการกระทำผิดทางอาญาจึงไม่อาจนำคำพิพากษาทั้งสองศาลมาฟังว่าน.ส.ยิ่งลักษณ์กระทำผิดทางอาญา

ทั้ง 4 ปม ถูกตระเตรียมมาใช้เป็นคำอธิบายต่อสาธารณะ เพราะข้อต่อสู้ของ “ทีมทนายชินวัตร” โฟกัสไปที่อำนาจการแต่งตั้งโยกย้ายข้าราชการเป็นของผู้ดำรงตำแหน่งนายกฯ โดยยกเงื่อนไขระยะเวลาการโอนย้ายเป็นข้อต่อสู้หลัก

เริ่มตั้งแต่วันที่ 30 ก.ย. 2554 “ยิ่งลักษณ์” เซ็นคำสั่งโอนย้าย “ถวิล” จากเลขาฯ สมช. มาดำรงตำแหน่งที่ปรึกษานายกฯ ต่อมาวันที่ 4 ต.ค.2554 ครม.มีมติแต่งตั้ง พล.ต.อ.วิเชียร์ พจน์โพธิ์ศรี จากผบ.ตร. มาเป็นเลขาฯสมช. จากนั้น 19 ต.ค. 2554 ก.ต.ช. มีมติแต่งตั้ง พล.ต.อ.เพรียวพันธุ์ ดามาพงศ์ จากรอง ผบ.ตร. เป็นผบ.ตร.

ปมเงื่อนเรื่องเวลา “หัวหน้าทีมทนาย” ยกเครดิตให้ “วิญญัติ ชาติมนตรี” ทนายความประจำตัวของทักษิณ เป็นคนยกประเด็นให้ต่อสู้ว่า การแต่งตั้งโยกย้ายดำเนินการตามขั้นตอน และใช้เวลา 20 วัน ในการแต่งตั้งโยกย้ายทั้ง 3 ตำแหน่ง

“เราสู้ว่าการดำเนินการมีขั้นตอน ไม่ใช่โยกย้ายกันภายในวันเดียว ถ้าทำอย่างนั้นสุ่มเสี่ยงจะผิดกฎหมาย เพราะมีเจตนา แต่คุณยิ่งลักษณ์ไม่มีเจตนากลั่นแกล้ง แต่ทำตามความเหมาะสมในการบริหารงานราชการ และอำนาจการแต่งตั้งโยกย้ายเป็นอำนาจของนายกฯ” แหล่งข่าวระบุ

อย่างไรก็ตามวิบากกรรมของ “ยิ่งลักษณ์” ยังเหลืออีก 1 คดี ที่ต้องต่อสู้ในชั้นศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง คดีว่าจ้างเอกชนจัดทำโครงการประชาสัมพันธ์ "Roadshow สร้างอนาคตประเทศไทย Thailand 2020" ตามร่าง พ.ร.บ.เงินกู้ 2 ล้านล้าน

โดยคดีดังกล่าว ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดพ่วง สุรนันทน์ เวชชาชีวะ อดีตเลขาธิการนายกรัฐมนตรี นิวัฒน์ธำรง บุญทรงไพศาล อดีตรองนายกรัฐมนตรี เข้าไปด้วย

พฤติการณ์สาระสำคัญของคดีในสำนวนของ ป.ป.ช. ระบุถึงกรณี "การวางแผนกันล่วงหน้า" ระหว่างนักการเมือง และบริษัทสื่อ เพื่อดำเนินโครงการดังกล่าว โดยมีลักษณะการ "ฮั้ว"กัน

อ้างอิงตามเอกสารข่าวของ ป.ป.ช. ระบุตอนหนึ่งว่า "สุรนันทน์"ได้เห็นชอบราคากลางโครงการโรดโชว์ จ.หนองคาย และ จ.นครราชสีมา ในวงเงิน 40 ล้านบาท ซึ่งตรงกับข้อเสนอด้านราคาของเอกชนที่ได้ยื่นไว้ต่อผู้อำนวยการสำนักบริหารกลาง สำนักเลขาธิการนายกรัฐมนตรี และได้มีการสืบราคาเพิ่มเติมจากสื่อ จำนวน 3 ราย แต่เป็นสื่อในเครือเดียวกัน

นอกจากนี้ ยังเป็นในวันเดียวกันบริษัทเอกชนได้ยื่นเอกสารเสนอราคา ซึ่งมี สุรนันทน์ - นิวัฒน์ธำรง เห็นสมควรอนุมัติจัดจ้างบริษัทเอกชนดังกล่าว เป็นผู้รับจ้างจัดโครงการโรดโชว์หนองคาย-นครราชสีมา และมอบอำนาจให้ผู้อำนวยการสำนักบริหารกลางลงนามในหนังสือสั่งจ้าง โดยกระบวนการจัดซื้อจัดจ้างจนถึงขั้นตอนการลงนามในหนังสือสั่งจ้างใช้เวลาดำเนินการเพียง 2 วัน เท่านั้น

ต่อมา สุรนันทน์ - นิวัฒน์ธำรง ได้ร่วมกันอนุมัติหลักการจัดโครงการโรดโชว์ อีก 10 จังหวัดที่เหลือ วงเงิน 200 ล้านบาท โดยให้นำราคากลางที่ได้กำหนดตรงกับข้อเสนอด้านราคาของบริษัทเอกชนไว้แล้ว มาเป็นราคากลาง โดยแบ่งการจัดจ้างเป็น 2 กลุ่ม กลุ่มละ 5 จังหวัด

ปมคดีดังกล่าว “ทีมทนาย”เชื่อว่าโอกาสที่“ยิ่งลักษณ์”จะรอดคดีมีสูง เพราะไม่ได้เข้าไปยุ่งเกี่ยวกับกระบวนการ“ฮั้ว”ตามข้อกล่าวหาของ ป.ป.ช. ในรูปคดีมีเพียง“สุรนันทน์-นิวัฒน์ธำรง” เพียง 2 รายที่สุ่มเสี่ยง

หาก “ยิ่งลักษณ์” รอดพ้นคดีโรดโชว์ ก็จะหมดบ่วงกรรมทางคดี มีเพียงคดีปล่อยปละละเลยโครงการรับจำนำข้าวเท่านั้น ที่ศาลตัดสินจำคุก 5 ปี ซึ่งต้องมารับโทษตามกฎหมาย

ดังนั้นจังหวะเวลาเหมาะสมที่ “ยิ่งลักษณ์” จะกลับมาเหยียบแผ่นดินไทย ยังจำเป็นต้องรอให้คดีโรดโชว์สิ้นสุดก่อน เพื่อจะได้รู้จำนวนโทษ และไม่เหลือคดีใดๆ ให้เป็นตัวประกัน